ลูกค้า ธอส.ผ่อนดีมีเฮ มีข่าวดีสำหรับผู้ที่กู้สินชื่อบ้านจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ เข้าโครงการ สินเชื่อบ้าน ธอส.เพิ่มสุข โดยต้องมีประวัติผ่อนดีตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป มีลุ้นขอเพิ่มวงเงินเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยและซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านโดยวงเงินที่อนุมัติสูงสูงถึง 1.5 ล้านบาท/ราย โดยมีอัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.99%
ทาง ธอส.โดยคุณอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่าเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอสังหาและภาครวมเพื่อให้มีการจับจ่ายใช้สอยในเรื่องของการปรับปรุงที่อยู่อาศัย ตกแต่งที่อยู่อาศัย เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่มีรายได้น้อย มีประวัติผ่อนที่ดีกับธนาคารได้มีโอกาสปรับปรุงสภาพบ้านหรือตกแต่งขยับขยายเพิ่มเติม และ กระตุ้นให้ธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวโยงกับภาคอสังหาฯมีแรงขับเคลื่อนและแนวโน้มยอดขายที่ดี โดยทาง คสช.ได้จัดสรรงบประมาณมาให้ทาง ธอส.ได้ปล่อยกู้ให้ลูกค้ากลุ่มที่มีประวัติผ่อนชำระดี โดยสามารถยื่นกู้เพิ่มเติมขอวงเงินเพิ่มได้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก 3.99% ปีที่ 4 อัตราดอกเบี้ย 4.975% ปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญาเงินกู้คิดอัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส.เท่ากับ 6.975%)
ซึ่งโครงการ สินเชื่อบ้าน ธอส.เพิ่มสุข นั้นเป็นโครงการที่จะสนับสนุนให้ภาคอสังหาฯและธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้มีการขับเคลื่อนให้ไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่องโดยนโยบายนี้ทาง คสช.ที่ได้จัดสรรงบประมาณมาให้เพื่อหวังให้เศรษฐกิจดีขึ้น กระเตื้องขึ้น ประชาชนมีความมั่นใจในการใช้เงินจับจ่ายใช้สอย ถึงหลายๆคนอาจคิดว่าจะเป็นการเพิ่มภาระหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น แต่หากมองในแง่หนึ่งก็คือ กลุ่มลูกค้าของ ธอส.นั้นส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับรายได้น้อยและปานกลาง ซึ่งอาจมีความจำเป็นต้องปรับปรุงที่อยู่อาศัย แต่ ค่าใช้จ่ายมีไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้ต้องรับสภาพบ้านที่เสื่อมโทรมหรือมีปัญหาชำรุด แต่เมื่อหากสามารถเข้าโครงการนี้ได้แน่นอนว่าจะสามารถปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้น และ ส่วนใหญ่แล้วลูกค้าจะมีประวัติผ่อนที่ดี จึงคาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าของธนาคารค่อนข้างเยอะ อีกทั้งยังสามารถช่วยกระจายรายได้ไปยังกลุ่มผู้รับเหมา กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ถือว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเห็นได้ชัด เพราะลูกค้าต้องการเงินไปซ่อมบ้าน ปรับปรุงบ้าน ซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม ดังนั้นผู้ประกอบการต่างๆ ตั้งแต่ช่างรับเหมา ร้านขายวัสดุ และอื่นๆ ก็จะมีเงินสะพัดเข้ามาอุดหนุนกิจการให้อยู่ต่อไปได้ หลังจากทุกๆอย่างหยุดชะงักมาเกือบครึ่งปี นอกจากนีทาง ธอส.หวังว่าจะสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องที่อยู่อาศัยของลูกค้าและต้องการกระตุ้นให้เศรษฐกิจในภาพรวมได้ก้าวต่อไปเพื่อเรียกความมั่นใจของประชาชนและนักลงทุนให้กลับมาเชื่อมั่นในประเทศไทยได้อีกครั้งแม้ว่าจะยังอยู่ภายใต้การปกครองของ คสช.ก็ตาม
- ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ PR@Thailand-Property.com