คอนโดแนวรถไฟฟ้า สายสีเขียว-น้ำเงิน ทะลุ 2 แสนยูนิต

 

ต้องบอกกันเลยค่ะว่าเวลานี้ไม่มีอะไรจะเเข่งกันได้ร้อนแรงเท่ากับการแข่งขันในตลาด คอนโดมิเนียม โดยเฉพาะ คอนโดแนวรถไฟฟ้า เขียว-น้ำเงิน ที่ตอนนี้นั้น ทะลุไปแล้วกว่า2แสนยูนิต มากถึง 1,065 โครงการ โดยสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่อขยายสายสีเขียวแบริ่ง-สำโรง ตอนนี้เปิดขายไปแล้ว 50 โครงการ และ อีก 45 โครงการสำหรับ โดยที่ทำเลสำโรงมีระดับบิ๊กแบรนด์เปิดขายโดยเน้นราคาไม่แพงอีกด้วยด้านสายสีเขียวเหนือรัชโยธิน โดยที่ทางดีเวลอปเปอร์มั่นใจว่าจะไม่โอเวอร์ซัพพลาย อย่างแน่นอน นอกจากนี้โครงการคอนโดมิเนียมยังคงมีการก่อสร้างเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน รวมถึงที่ก่อสร้างเสร็จแล้วอีก ที่โครงการต่างยังคงเกิดเยอะขึ้นนั้นเพราะความั่นใจที่ว่า มีการประเมิณว่าไม่เกิดโอเวอร์ซัพพลาย โดยที่สาเหตุนั้นมาจาก การขายทุกโครงการมีการดูดซับซัพพลายดีมาจากพื้นที่แนวนี้เป็น พื้นที่คนพักอาศัยและคนทำงานมองว่าเป็น เส้นทางเข้ากลางเมืองและยังเชื่อมการเดินทางที่ดีที่สุดอีกด้วย

โครงการ คอนโดแนวรถไฟฟ้า เกิดขึ้นต่อเนื่องส่วนใหญ่มาจาก สายสีเขียวทางตอนเหนือ

จากการรายงานผลสำรวจคอนโดมิเนียมที่มีหลายโครงการเกิดขึ้นต่อเนื่อง ในส่วนพื้นที่ส่วนต่อขยายสายสีเขียวทางตอนเหนือ เป็นที่ ที่ได้รับความโดยเฉพาะ พื้นที่ ช่วงแยกรัชโยธินจนไปถึงสะพานใหม่ โดยที่โครงการคอนโดส่วนใหญ่นั้นจะ นิยมสร้างคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูงไม่เกิน 8 ชั้น  จากที่สมัยก่อนนั้นพื้นที่บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะนิยมสร้างเป็นแบบแนวราบ จนในปัจจุบันนี้ส่งผลให้ราคาที่ดินนั้นขยับขึ้น ได้ในราคาที่สูงขึ้น นอกจากนี้ในโซน ลำลูกกาในจังหวัดปทุมธานี ก็ได้รับความนิยมด้วยเช่นกันแต่อาจจะยังไม่เท่ากับพื้นที่ก่อนหน้านี้ แต่มองโดยรวมตอนนี้ทุกค่ายทุกแบรนด์ต่างกำลังให้ความสำคัญในส่วนพื้นที่นี้เช่นกัน  ดังนั้นจึงสรุปได้เลยว่า  พื้นที่ส่วนต่อขยายสายสีเขียวทางตอนเหนือตอนนี้กำลังเป็นพื้นที่ ที่ได้รับความนิยมเฉกเช่นพื้นที่ส่วนต่อขยายสายสีเขียวแบริ่ง-สำโรง

ภาพรวมแนวรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายและส่วนต่อขยายถือว่าเป็นทำเลที่ดี

โดยที่คุณ สุริยา สุริยาภิวัฒน์ ผู้จัดการสำนักวิจัยบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยให้เห็นภาพว่า แนวรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายร่วมไปจนถึงพื้นที่ส่วนต่อขนายถือว่าเป็นทำเลที่ดี สาเหตุก็เพราะว่ามีการคาดการณ์คอนโดมิเนียมส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ ในช่วง หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่ยังไม่สูงมาก ถ้าเทียบกับปี 2559 โดยแนวโน้มในปีนี้มีโครงการเปิใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดเส้นทางเพราะมันใจว่าไม่เกิดการ โอเวอร์ชัพพลาย นอกจากนี้  ที่ผ่านมา “ที่ผ่านมา ดีเวลอปเปอร์ เน้นพัฒนาโครงการตลาดบนเกือบทั้งหมด  ทำให้คอนโดมิเนียมตลาดล่างเหลือไม่มาก และมีกลุ่มคนมีเงินซื้อเพื่อปล่อยเช่า เช่น โครงการลุมพินีที่รังสิต 2 เฟส จำนวนเฟสละ 2,500 หน่วย รวม 5,000 หน่วย ซึ่งเฟสแรกขาย 70% ส่วนโครงการลุมพินี วิลล์แบริ่งและสุขุมวิท 76 รวม 1,000 หน่วยขณะนี้ปิดการขายแล้ว”

คอนโด มิเนียมแนวรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ยังคงมีความต้องการอีกมาก

นายสุธี ลิมปนชัยพรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นายณ์เอสเตท จำกัด สะท้อนว่า คอนโด มิเนียมแนวรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ยังมีความต้องการต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเส้นทางเชื่อมกลางเมืองทั้งที่อยู่อาศัย แหล่งงาน แหล่งช็อปปิ้งที่ต่างจากเส้นทางอื่นโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ที่เปิดขายก่อนจะได้เปรียบ คอนโดมิเนียมไฮเอนด์รุ่นใหม่ที่ออกมาซึ่งราคาขายต่อตารางเมตรจะสูงกว่า เพราะต้นทุนที่ดิน

ผู้ประกอบการยังเปิดตัวโครงการต่อเนื่อง

นายสุรเชษฐ กองชีพ นักวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่าผู้ประกอบการยังเปิดตัวโครงการต่อเนื่องเนื่องจากตลาดยังมีความต้องการ  จากการสำรวจทำเลที่คึกคักมากจะเป็นส่วนต่อขยายสายสีเขียวหมอชิตลำลูกกา

ที่ขณะนี้เปิดตัวค่อนข้างมากและมีการดูดซัพพลายดีต่อเนื่องขณะที่ ส่วนต่อขยายสายสีเขียวโซนตะวันออกบริเวณ สำโรง จังหวัดสมุทรปราการ การขายยังช้า ขณะที่ โซนเหนือ จะกระจุกตัวอยู่ทำเลตั้งแต่หมอชิตไปจนถึงสะพานใหม่ ส่วนปลายทางคือลำลูกกา ยังมีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นไม่มาก เส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่เป็นที่สนใจของผู้ประกอบการมากที่สุดในปัจจุบันคือ ส่วนต่อขยายสายสีเขียวตอนเหนือ (หมอชิต-คูคต) เพราะในช่วงที่ผ่านมา 1-2 ปี ปรากฏว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่กันมาต่อเนื่องและยังมีอีก 4-5 โครงการที่เปิดตัวออกมาแล้วว่าจะเปิดขายในช่วงต้นปีนี้ในพื้นที่รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 2,200 หน่วย ในขณะที่พื้นที่อื่นๆ อาจจะมีความเคลื่อนไหวน้อยกว่าพื้นที่นี้แบบเห็นได้ชัด แม้ว่าจำนวนหน่วยรวมในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่กำลังก่อสร้างจะมีจำนวนหน่วยรวมมากกว่าก็ตาม เพราะว่าหลายโครงการตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่กำลังก่อสร้างมีจำนวนหน่วยรวมมากกว่า 1,000 หน่วย

สำหรับคอนโดมิเนียมทั้งใต้ดิน เอ็มอาร์ที ที่เปิดในปัจจุบัน (สายสีน้ำเงิน) สายสีน้ำเงินที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอาจจะขายช้ากว่า เพราะเป็นโครงการใหญ่โครงการละ 2,000 หน่วย ขณะที่รถไฟฟ้าบีทีเอส (สายสีเขียว) รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายตอนใต้ และรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายตอนเหนือ  เฉลี่ยโครงการละไม่เกิน 300 หน่วย จึงปิดการขายได้เร็ว

สำหรับโครงการที่เกิดขึ้นแนวรถไฟฟ้าทั้งเปิดให้บริการแล้วและอยู่ระหว่างก่อสร้างขณะนี้ รวม 1,065 โครงการ 192,162 หน่วย ซึ่งบริเวณสถานีรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วจะดูดซับได้ 90% ขณะที่ส่วนต่อขยายขายได้ 80% หรือเฉลี่ย 85% จากที่เปิดโครงการมา

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

ลงประกาศฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย คลิ๊ก …

ขายคอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว หรือต้องการซื้อ-เช่า !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่