วันนี้เรามีไอเดียดีๆมาฝากกันอีกเช่นเคยค่ะ โดยวันนี้เป็นไอเดียการแต่ห้องพักราชการครูให้เป็น คอนโด เก๋ๆสไตล์ชานเมือง จากคุณ สมาชิกหมายเลข 4514635 โดยมีข้อแม้อยู่ว่า ต้องเอากลับได้ถ้าต้อง ย้ายถิ่นฐาน ต้องมีความเป็นตัวตนเรามากที่สุด ต้องสบาย ผ่อนคลายจากที่ทำงาน ต้องมีมุมสำหรับน้องหมา สุดท้ายต้องสนองความใฝ่ฝัน อยากแต่งห้องสไตล์คอนโด เอาละค่ะคอนเซ็ปที่ตั้งไว้เยอะขนานนี้ตัวห้องพักจะสวยขนาดไหนเราไปชมกันเลยดีกว่าค่ะ
เปลี่ยนบ้านพักครูเป็น คอนโด เก๋ๆสไตล์ครูชานเมือง BY สมาชิกหมายเลข 4514635
ก่อนอื่นขอเกริ่นสั้นๆก่อนนะคะ ปัจจุบันเป ได้รับราชการครูได้เข้าปีที่ 3 จากที่เป็นครูเอกชนมาสิบสามปี ซึ่งเมื่อก่อนที่ทำงานกับบ้านตนเองอยู่ห่างกันไม่เกินห้าโล ทำงานมา 13 ปี คือเช้าไปเย็นกลับ และเมื่อสามปีที่แล้วได้ตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตตนเองสอบรับข้าราชการครู ปรากฎว่า สอบติด ความดีใจบังเกิด
แต่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็เกิดเช่นกัน ที่ทำงานใหม่ อยู่ห่างจากบ้าน 50 โล ไปกลับ 100 โล ซึ่งช่วงแรกได้ลองขับรถไปกลับ แต่ปัญหาก็เกิดวันไหนมีงานที่ รร. นักเรียนมีปัญหา มีงานประเมิน กลับดึกคือ อันตรายมาก หลังจากลองหนึ่งเดือน เลยตัดสินใจ หาที่พักใกล้โรงเรียนเนื่องจาก รร. บ้านพักครูไม่เพียงพอ เราจึงได้เช่าที่พักอยู่ใกล้ๆ รร. ซึ่งต้องบอกก่อนว่าแพงมาก ค่าเช่ารวมค่าน้ำค่าไฟ เดือนนึง 4000-4500 บาท กับเงินเดือนครูบรรจุใหม่ 15,*** มันไม่เพียงพอ
ตอนหลังทางท่านผู้อำนวยการ รร. มีนโยบายสร้างอาคารสองชั้น โดยให้ชั้นบนเป็นห้องปฏิบัติการและเรียนคอมพิวเตอร์ ส่วนด้านล่างซอยเป็นห้องโล่งๆ 4 ห้อง เพื่อให้ครูพัก ซึ่งก็โชคดี 1 ใน 4 คือห้องของเป โดยสภาพห้อง เป็นสไตล์ตึกพานิชย์ชั้นล่าวโดยทั่วไป หน้ากว้าง 4*12 ตร.ม ไม่มีกั้นใดๆ มีห้องน้ำให้ (โดยปูกระเบื้องเรียบร้อย) ส่วนบริเวณห้องทั้งหมดพื้นเป็นพื้นปูนธรรมดา ฉาบเรียบ แต่ไม่ขัดมัน ไม่ปูพื้นใดๆทั้งสิ้น
มีประตูหน้าบ้านเป็นประตูกระจกบานสไลด์(แบบฝืดๆ ตกๆ เหมือนจะพังตั้งแต่วันแรก แต่ห้องฟรีพูดมากไม่ได้เงียบไว้ครูเป) และด้านหน้า มีหน้าต่างกระจกเป็นบานสไลด์เช่นกัน (ช่องใหญ่มโหฬาร) ส่วนหลังห้องมีประตูออกไปหลังบ้าน นี่คือรูปแบบบ้านพักครูโดยคร่าวๆ ซึ่งต้องบอกเลยห้องกว้างมาก ใหฮลญ่มากเท่ากับตึก 1 คูหาเลย ปัญหาเกิด จะอยู่อันดับแรกคือ พื้น เพราะพื้นเป็นพื้นปูนธรรมดา ไม่ได้ขัดมัน
ดังนั้น อยากอยู่บ้านฟรียาวๆต้องลงทุน เลยตัดสินใจจะปูกระเบื้อง ถามช่างคาปูเท่าไหร่คะ ช่างบอกราคามาหงายเงิบเลยคะ คิดครูกันเอง รวมทั้งแรงและของ 12,000.- ครูเปเลยนีบเลยคะ ตัดสินใจ ปูเสื่อน้ำมันแทนคะ การแต่งห้องก็กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งหมดที่กำลังเริ่มพูดต่อไปนี้ใช้เวลาทำไปเรื่อยๆตั้งแต่เริ่มเข้าอยู่บ้านพักครูจนถึงปัจจุบัน รวมเวลาก็ 1 ปีพอดี
โดยครูมีคอนเซ็ปดังนี้
- ทุกอย่างที่ทำขนกลับ ย้ายถิ่นฐานตามเราได้
- ต้องมีความเป็นตัวตนเรามากที่สุด ถึงแม้ว่าไม่ใช่บ้านเราจริงๆ เพราะเราอยู่ที่ รร.มากกว่าบ้าน
- ต้องสบาย ผ่อนคลาย เหตุผลทำงานที่ รร.หนักมาก สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราผ่อนคลายมากที่สุด สำหรับครูสาวแก่โสดๆ คนนึง หลังจากทำงานเต็มที่ที่ รร.
- มีมุมสำหรับน้องหมา เซนต์เบอร์นาร์ดลูกรัก สุนัขตัวโปรด**อยู่เป็นเพื่อนกันยามครูเปเหงาๆ
- สุดท้ายต้องสนองความใฝ่ฝัน อยากแต่งห้องสไตล์คอนโด
ทั้งหมดนี้คือคอนเซ็ปที่ตั้งไว้ หลังจากนั้นลงมือทำ พร้อมลุยคะ
เริ่มแรกเลยคะ ปูเสื่อน้ำมัน อย่างที่เกริ่นไปแล้ว ปูกระเบื้องใช้งบสูงมากเราเลยเลือกปูเสื่อน้ำมัน ซึ่งเสื่อน้ำมันสมัยนี้ก็มีลายสวยไม่แพ้กระเบื้อง เราจึงค้นหาข้อมูบในกูเกิ้ลและ facebook สุดท้ายได้เสื่อน้ำมันลายไม้นี้มา เป็นแบบหนา ซึ่งต้องไปซื้อในตัวเมือง ห่างจากโรงเรียนประมาณ 55-60 โล ซื้อยกม้วนมาเลยคะ 1,800.- บาท
ก่อนปูเสื่อน้ำมัน ทำความสะอาดพื้นเช็ดถู ให้ดี แบะปูกระดาษหนังสือพิมพ์กันชื้นก่อน หลังจากนั้น มีน้องหมา ลูกสาวคนสวย ซึ่งห้องเป็นห้องโล่งๆ เราจึงตัดสินใจซื้อ รั้วพลาสติก มาจากโฮมโปร หมดนี่ เกือบ 1,500.- แต่สุดท้าย มันไม่เป็นอย่างที่คิดพอมาต่อๆมันอ่อนไปอ่อนมา จึงต้องหาไอ้นู้นมาดาม หาไอ้นี่มาดาม ทุกวันนี้ ใช้ตะปูหมุดตัวเล็กตอกรั้วฝั่งทางกำแพงตอกติดไปเลยคะ ***ซื้อแล้วแพงด้วยจึงจำเป็นต้องใช้ต่อไป
ลืมให้ดูรูป before บ้านพักครูที่ได้เข้าอยู่ อย่างที่แจ้งไว้ข้างบน ทางโรงเรียนได้ทำอาคารสองชั้นโดยชั้นล่างแบ่งเป็น 4 ห้อง ซึ่งทำเป็นบ้านพักครู ให้ครูอยู่ 4 คนคะ
ก่อนอื่น หลังจากที่ทุกคน เห็นรูป before แล้ว เปเลยตัดสินใจ แบ่งห้องเป็น 3 ส่วน โดยแบ่งตามล็อกเสาของห้อง ดังนี้ ด้านหน้า จนถึงเสา เป็นห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น ส่วนที่สองตรงกลางห้องเป็นส่วนห้องนอน ส่วนท้ายสุด เป็นห้องน้ำ ห้องแต่งตัว รวมไปถึงวางเครื่องครัว
ก่อนอื่น หลังจากที่ทุกคน เห็นรูป before แล้ว เปเลยตัดสินใจ แบ่งห้องเป็น 3 ส่วน โดยแบ่งตามล็อกเสาของห้อง ดังนี้ ด้านหน้า จนถึงเสา เป็นห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น ส่วนที่สองตรงกลางห้องเป็นส่วนห้องนอน ส่วนท้ายสุด เป็นห้องน้ำ ห้องแต่งตัว รวมไปถึงวางเครื่องครัว
เข้าประตูมาปุ๊บกำแพงซ้ายมือ เจอเก้าอี้สามตัว เอาไว้แขวนกุญแจ ***ได้มาจาก ikea ชุดละประมาณร้อยกว่าบาท มันดูเก๋ๆดีนะคะ
พอเข้าจากประตูปุ๊บพบกับห้องรับแขก ซึ่งฝั่งซ้ายมือมีแผนกต้อนรับ ลูกสาวคนสวยที่จะอยู่ในรั้วของนาง และตรงข้ามก็จะเป็นมุมโซฟารับแขก และวางตู้เย็นสำหรับให้แขกหยิบน้ำดื่มบริการตนเองไปเลยคะ…ลืมบอกไปโรงเรียนไม่ใหญ่มีครูทั้งโรงเรียน 13 คน และครูเปก็เป็นอีเจ้ของน้องๆ คือแก่สุดคะ เลยทำให้เป็นบ้านที่มีการแวะเวียนของน้องๆบ่อย
ส่วนต่อไปมาถึงส่วนกลางของห้องซึ่งเปนส่วนของห้องนอน ซึ่งบอกเลยว่าเพิ่งติดแอร์ตอนปิดเทอมนี้ตอนแรกอยู่แบบใช้พัดลมแต่ มันร้อนมาก ถึงขนาดช่วงหน้าร้อนเปิดพัดลม 2 ตัวไม่พอ ต้องนอนแบบไม่ใส่เสื้อผ้าเลยคะบางคืน เหตุผลที่ห้องนี้มีช่องอากาศที่จะมีลมเข้าได้คือ หน้าต่างด้านหน้า ประตูหน้าบ้านและหลังบ้าน ซึ่งไม่มีส่วนไหนเปิดได้เลยตอนนอน
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องติดแอร์ แต่ห้องมันใหญ่มากถ้าไม่กั้นห้องต้องติดแอร์ถึง 2 ตัว หรือต้องติดถึงบีทียูสูงๆ แต่ก็นึกถึงวันข้างหน้าถ้าย้ายๆไป จะเอาแอร์บีทียูสูงๆไปไหน และที่สำคัญแอร์มันแพง 555
เลยตัดสินใจกั้นห้อง แต่การกั้นห้องต้องคำนึงถึงการย้ายเลยไม่กั้นถาวรเสียดายเงินเลยใช้วิธีติดม่านกันแอร์คะ และปัญหาซื้อสำเร็จไม่ได้ ห้องมีขนาดสูงกว่าม่านสำเร็จที่มีขาย ดังนั้นลงทุนคะ ตัด คะซึ่งติดสองล็อก เบ็ดเสร็จ 7000 บาท ตอนย้ายก็ถอดไปด้วย ***ทุกอย่างที่ลงทุนบางคนอาจจะมองว่าเว่อร์ไปไหมสำหรับบ้านพักครู แต่สำหรับของทุกอย่างเรายกกลับได้ และครูเป็นอาชีพที่ทำงานหนักมากๆ เวลาเรามีเวลาพัก เราจึงอยากพักเต็มที่อย่างมีความสุขคะ
เพิ่มเติมรูปคะ นี่คือส่วนสุดท้ายคือมุมแต่งตัวและห้องน้ำ แต่มุมนี้ยังจัดไม่เสร็จดี ขอลงรูปบางส่วนก่อนนะคะ
ภายในห้องน้ำคะ
ลืมโชว์อีกส่วนคะ เป็นส่วนกลางตรงที่นอน เป็นมุมแอบข้างเตียง มุมนี้บอกเลยเป็นมุมพักผ่อนและมุมแอบลูกสาว เหตุผล ลูกสาว (หมาน้อย)เวลานางมองเห็นเรานางจะร้องและพยายามออกจากรั้วเพื่อจะมาอ้อน บางทีเหนื่อยกับงานต้องแอบซ่อนตัวตรงข้างที่นอนคะ
มุมหน้าทีวี ความเป็นครูก็เข้าสิงไม่ชอบรุงรัง ชอบเรียบๆเก๋ๆแต่ต้องมีตัวตนความเป็น 555 เลยต้องเก็บสายไฟ และแต่งประมาณนี้คะ
มีเทียนหอมไว้เพิ่มบรรยากาศ
และมีนาฬิกาบอกเวลา และกล่องต่างๆ ที่สำคัญสายไฟซ่อนไว้ด้านหลังทีวีคะ
มุมหัวนอนมีรูปวาดเจ้าของกระทู้ และชายหนุ่มที่พลาดหลงเสน่ห์ และไฟ หัวเตียง **ซึ่งชายหนุ่มในภาพเป็นผู้ช่วยเดินสายไฟ จัดนู้นประกอบนี่ ตามคำบัญชาของคุณครู….5555
มุมข้างหัวเตียงเป็นชั้นสำหรับวางกระเป๋า รีโมท โทรศัพท์ ชาร์ตแบต และสังเกตดีๆตรงนั้นจะ
มีสวิชต์สำหรับเปิดไฟหัวเตียงอยู่ด้านหลัง
ตอนปิดม่านเปิดไฟหัวเตียงจุดเทียนหอมบรรยากาศมันก็จะฟินๆหน่อยคะ
งบประมาณส่วนใหญ่จะหนักค่าเฟอร์นิเจอร์ค่ะ แต่ก็ทยอยๆซื้อค่ะ ราคาไม่กล้ารวมกลัวตกใจ555*** แต่ของส่วนใหญ่ขนย้ายได้หมดคะอย่างห้องรับแขก พรม ราคา 990.- ซื้ออีเกีย ตอนลดราคา โซฟาเป็นของ index ซื้อตัวโชว์ราคาลดครึ่งหนึ่ง จาก 18,xxx เหลือ 9,xxx
ไม่แน่ใจร้านตั้งเว่อร์ไปป่าว ส่วนด้านบนโซฟา ทั้งหมด รวมๆกันน่าจะประมาณ ไม่เกิน 1,500 ค่ะ ตู้เย็น ราคา 8,xxx ซื้อช่วงร้านจัดโปรโมชั่นคะ โต๊ะกลาง ตัวนี้ซื้ออีเกีย 1,700 ค่ะ คอกน้องหมา 1,500 ค่ะ ตัวสติกเกอร์ติดกระจกประตูหน้าต่าง ไม่เกิน 500 บาทค่ะ ซื้อมาจากร้าน DIY ค่ะ
–>ผ้าม่านกั้นห้องต้องตัด เพราะเพดานห้องสูงมาก ราคาทั้งหมด 7,000 บาทค่ะ
–>ส่วนในห้องนอน ราคามีเตียง ที่นอน โต๊ะเครื่องแป้งมาทั้งเซ็ต 15,000 บาท ด้านหน้าตรงทีวี ตัวชั้นวางซื้อจากอีเกีย 800 บาทค่ะ ชั้นข้างหัวนอน 600 บาทค่ะ ซื้อจากอีเกีย ระบบไฟต่างๆที่เดิน รวมหลอดไฟหัวนอน ปั๊กที่ต่อเพิ่ม รางไฟ ไม่เกิน 1,000 บาททั้งหลัง ค่าทำไม่มีคะ เพราะทำกันเอง
ส่วนตรงมุมพักผ่อนที่ปูหญ้าข้างที่นอน ซื้อหญ้ามาจาก index แบบซื้อ 1 แถม 1 ค่ะ ตกชิ้นละ 900 บาท (ที่ปูคือ แค่ 1 ผืนค่ะ) ส่วน bean bag เก้าอี้เม็ดโฟม ซื้อที่ index ช่วงลดราคาคะ 1,500.- กล่องใส่ของวงกลมลายเสือ ซื้อที่ตลาดนัดค่ะ 250 บาทค่ะ พรมราคาผืนละ 20 บาทค่ะ ราคาทั้งหมดประมาณนี้ค่ะ รวมแล้วประมาณ 51,300 บาท ถ้ารวมราคาอาจดูแพง แต่ถ้าคอดถึงการใช้งาน และความคุ้มค่า เปว่าโอเคกับเงินที่จ่ายค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาแวะเวียนดู
ที่มา สมาชิกหมายเลข 4514635 จากเว็บบอร์ดชื่อดัง Pantip.com