คอนโด High Rise VS Low Rise จะซื้ออยู่ หรือปล่อยเช่าต้องเลือกแบบไหนดี
คอนโด High Rise VS Low Rise จะเลือกซื้อแบบไหนดี?
นี่เป็นอีกหนึ่งคำถามคลาสสิกที่เจอกันประจำเลยก็ว่าได้ครับ กับความกังวลใจในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมไม่ว่าจะซื้ออยู่เองหรือ จะซื้อเพื่อลงทุนก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่น้อยนะครับ เพราะคอนโดทั้ง 2 รูปแบบนั้นก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน ก็ต้องขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ รสนิยม และจุดมุ่งหมายของการซื้อคอนโดของคุณแล้วล่ะครับว่า ต้องการอะไร และเรื่องนี้เราก็พอจะมีข้อมูลและข้อเท็จจริงมาบอก เพื่อให้คุณเข้าใจและตัดสินใจเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ ไปดูดกันครับว่า มีเรื่องอะไรที่ควรรู้เกี่ยวกับ คอนโด High Rise และ Low Rise บ้าง
คอนโด High Rise คืออะไร
คอนโด High Rise คือ คอนโดมิเนียมที่มีจำนวนชั้นมากกว่า 20 ชั้นขึ้นไป ยิ่งอยู่ในชั้นที่สูงมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งมีราคาสูงมากยิ่งขึ้น ส่วนใหญ่มีจุดเด่นเรื่องทำเล วิว ส่วนกลาง หรือดีไซน์ที่แปลกใหม่
คอนโด Low Rise คืออะไร
คอนโด Low Rise คือ คอนโดมิเนียมที่มีจำนวนชั้นสูงไม่เกิน 8-9 ชั้น ส่วนใหญ่มักมีหลายอาคารอยู่ในโครงการเดียวกัน แต่ก็มักจะตั้งอยู่ในทำเลที่เน้นความสงบ เป็นส่วนตัว เนื่องจากมักสร้างอยู่ในซอยหรือในเขตชุมชนดั้งเดิมในทำเลนั้นๆ
ความแตกต่างระหว่างคอนโด High Rise VS Low Rise
คอนโด High Rise | คอนโด Low Rise | |
ความสูง | สูง 23 เมตรขึ้นไป | สูงไม่เกิน 23 เมตร |
จำนวนชั้น | มักมี 20-30 ชั้นหรือมากกว่า | มักสูงประมาณ 8-9 ชั้น |
ขนาดของถนนหน้าโครงการ (ตามกฎหมาย) | ต้องอยู่ติดถนนที่มีความกว้างมากกว่า 10 เมตร | อยู่ติดถนนที่มีความกว้างไม่กิน 10 เมตร |
ลักษณะของวิว | วิวมุมสูง หรือมีจุดเด่นในด้านวิว เช่น วิวแม่น้ำ วิวเมือง วิวแบบเปิดโล่ง | วิวชั้นสูงหน่อยอาจจะได้วิวเมืองเล็กน้อย แต่ชั้นล่างๆ มักโดนบล็อกวิวด้วยเขตชุมชน หรือเน้นวิวของพื้นที่ส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำ สวน เป็นหลัก |
ทำเล | ด้วยความที่ต้องอยู่ติดถนนที่มีความกว้างมากกว่า 10 เมตร
ทำให้คอนโด High-rise เกือบทั้งหมดจำเป็นต้องสร้างติดริมถนนใหญ่ หรือมักจะอยู่ติดรถไฟฟ้า |
ส่วนใหญ่จะไม่ติดถนนใหญ่ และมักจะอยู่ร่วมกับชุมชนดั้งเดิม |
จำนวนยูนิต | ส่วนใหญ่โครงการจะมียูนิตมาก เพื่อให้คุ้มกับค่าที่ดินที่อยู่ใกล้กับถนนใหญ่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ | ยูนิตต่ออาคารจำนวนน้อยกว่า High Rise ถึงแม้ว่าจะมีหลายอาคาร แต่ก็ให้ความรู้สึกส่วนตัว |
พื้นที่ส่วนกลาง | มักออกแบบได้หลากหลาย มีขนาดใหญ่ และช่วยลดการกระจุกตัวของจำนวนผู้ใช้งานได้ดี | ส่วนใหญ่เน้นทำเป็นกลุ่มอาคารและทำส่วนกลางไว้ตรงกลาง ให้สามารถเข้าใช้งานได้จากทุกอาคารอย่างสะดวก |
จำนวนที่จอดรถ | ได้เปรียบเรื่องที่จอดรถ บางคอนโดออกแบบชั้นล่างๆ ไว้เป็นที่จอดซึ่งอาจมีมากถึง 10 ชั้น ทำให้ส่วนที่อยู่อาศัยอยู่ในจุดที่มุมสวยขึ้น | ความสูงของอาคารถูกจำกัด จึงอาจจะมีที่จอดรถแค่ชั้นล่างชั้นเดียว แต่บางโครงการก็เพียงพอต่อจำนวนยูนิต |
ราคาของคอนโด | ราคาค่อนข้างสูง และมีแนวโน้มที่จะแพงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีความต้องการทางตลาดที่ค่อนข้างสูง | ราคาจับต้องได้ เพราะต้นทุนในการสร้างคอนโดต่ำกว่าแบบ High Rise (แตกต่างกันไปตามแต่ทำเลที่ตั้งและภาพลักษณ์ของโครงการ) |
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คือ ข้อมูลคร่าวๆ ที่แตกต่างกันของคอนโดแบบ Low Rise หรือ High Rise สำหรับคนที่ต้องการซื้อคอนโดเพื่ออยู่เองอาจจะเริ่มจากการถามตัวเองว่า คุณมีไลฟ์สไตล์แบบไหน อยากจะใช้ชีวิตอยู่ในทำเลไหน มีงบประมาณเท่าไหร่ รวมไปถึงการไปดูคอนโดด้วยตัวเองก็ช่วยทำให้เจอคอนโดที่ใช่ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ส่วนสำหรับใครที่ดูข้อมูลเหล่านี้และต้องการซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่า อาจจะดูแนวโน้มมูลค่าคอนโดของคอนโดแบบ High Rise และคอนโดแบบ Low Rise ว่าแตกต่างกันอย่างไร เช่น คอนโดแบบ Low Rise ส่วนใหญ่มักจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแต่อาจจะไม่ได้ก้าวกระโดดมากนัก อาจจะเหมาะกับการซื้ออยู่อาศัย ส่วนถ้าต้องการปล่อยเช่าได้ในราคาสูงการเลือกซื้อคอนโด High Rise อาจมีภาษีดีกว่าในด้านมูลค่าคอนโดที่มักสูงกว่าคอนโดแบบ Low Rise เนื่องจากมักมีทำเลติดถนนหรือติดรถไฟฟ้า (แต่ทั้งนี้ ก็ต้องดูทำเล รูปแบบ คอนเซปต์ของคอนโด และความน่าเชื่อถือของโครงการประกอบด้วย)