จะเห็นว่า หลังบ้าน ผมก็ปล่อยให้หญ้า วัชพืชต่างๆ ขึ้นหมด เพราะไม่มีเวลาทำ จากนั้น ผมก็วางแผนแก้ไข พื้นที่หลังบ้านให้ใช้ประโยชน์ได้จริงๆ โดยเริ่มจาก เคลียร์พื้นที่ ให้สะอาด
มาดูภาพก่อน จัดสวนในบ้าน กันก่อนครับ
จากนั้นก็เคลียร์หญ้าออกไป เอาทรายมาถมเพิ่มเติมเพื่อปรับระดับ
ให้คุณลุง คนงาน มาขุดเตรียมวางเสา เพื่อทำศาลาใหม่
ระหว่างทีคนงานขนทราย ขนหิน ผมก็เริ่มปูพื้นทรายล้าง แผ่นละ 40 บาท เป็นแบบสั่งตามร้านที่รับทำ ไม่ใช่ซื้อตามร้านขาย ใช้ทั้งหมด 42 แผ่น ได้พื้นที่ 3.6 X 2.1 เมตร เพียงพอต่อการเป็นพื้นที่ซักล้างเพิ่มเติม (ทุกทีต้องไปซักล้าง ทำอะไรหน้าบ้าน พอแขกมาละ ดูไม่ได้เลย )
ปัญหาอีกอย่างของบ้านผม คือ ไม่มีที่เก็บของ ห้องเก็บของในบ้านก็เล็กไม่เพียงพอ จึงทำห้องเก็บของข้างนอกต่างหาก โดยเริ่มจากเทพื้นเตรียมไว้ก่อนขนาด 3X1.75 เมตร
กว่าผมจะผสมปูนแล้วเทหมด ก็เล่นซะมืดเลย
นี่เป็นภาพที่เสร็จแล้ว ผ่านไป 1 สัปดาห์
พื้นที่ซักล้าง
จากนั้นตรงศาลาเดิม ซึ่งมีแผ่นปูรองอยู่ ไม่สามารถขยับได้ ผมจึงตัดสินใจปูทับ โดยยกความสูงขึ้นอีก 20 ซม.
ศาลานี้ผมจะใช้ไม้เสาเดิมมาทำเสาศาลา และซื้อไม้มาทำระแนงและหลังคาเพิ่มเติม ส่วนพื้นจะปูด้วยไม้เทียม เพื่อตัดปัญหาเรื่องปลวก เรื่องผุพัง โดยรวมๆ ถึงตรงนี้ ผมทำมาแล้ว 8 เดือน
งานโครงสร้างต่างๆ เรียบร้อยหมดแล้วเหลือแค่ งานไม้ ในการทำศาลา และทำห้องเก็บของ (Shed)
ผมใช้งบประมาณไป 3.6 หมื่นบาท
เหลืออีก 2.9 หมื่นบาท ผมเตรียมไว้เป็นค่าไม้ทั้งหมด ซึ่งน่าจะพอเหลือๆ (ใช้ไม้ผสม ไม้แดง ไม้เต็ง ไม้ยาง)
————–
การปูหญ้า ทำไม่ยาก ถ้ารู้จักเตรียมพื้นที่ครับ
เริ่มจาก ต้องทำให้พื้นที่ร่วน คือ ผมใช้วิธีถมด้วยทรายหน้าประมาณ 2 ซม. แล้วปล่อยให้หญ้าขึ้นประมาณ 3-4 เดือน เป็นการเลี้ยงไส้เดือนในตัว มันจะย่อยปรับหน้าดิน จนทรายกลายเป็นสีดำและร่วนมาก จากนั้นก็เคลียร์หญ้าวัชพืชออก แล้วซื้อหญ้ามาวาง เอาทรายมาโรยเล็กน้อย แล้วใช้น้ำหนักตัวเรา เหยียบๆ ไปพร้อมกับรดน้ำ
ไม่กี่วันหญ้าก็จะติดดินง่ายๆ
ส่วนของผมเจอปัญหา ฮาๆ จากคนงาน ผมบอกให้เอาหินวางไว้ในสุดๆ ตอนผมออกไปซื้อวัสดุเพิ่มเติม คุณท่านก็เอาอิฐแดงที่ยังไม่ได้ปูพื้นมาวางแทน ส่วนหินก็วางใกล้ๆ
ทำให้แผนเดิมผมจะปูหญ้า ก็เลยทำไม่ได้ สุดท้ายหญ้าก็เลยถูกดองอยู่ 1 สัปดาห์ ถึงจะปูได้ มีบางส่วนตายไป แต่ยังไงก็หญ้า ดังนั้น ปล่อยๆ ไปเดี๋ยวก็ขึ้นเต็มพื้นที่เหมือนเดิม
การทำสวนครั้งนี้ นอกจากประหยัดแล้ว ผมยังได้เรียนรู้อะไรอีกมากมายครับ
- การทำบ้าน ควรใจเย็นๆ อยู่ไปก่อน เรียนรู้ไปก่อน เราจะรู้ว่าฟังก์ชันการใช้งานบ้านที่แท้จริงของเราเป็นอย่างไร แล้วค่อยปรับตามนั้น มันดีกว่าซื้อบ้านแล้ว ก็ลงทุนตกแต่งเลย ตามใจคิด เพราะบางทีสิ่งที่คิดกับการใช้งานมันไม่ตรงกัน
- หลายครั้งที่มีปัญหา ในการอยู่อาศัย การจัดการมีได้หลากหลายรูปแบบ ใช้เงินเยอะ ใช้เงินน้อย สวยมาก สวยน้อย หากคุณผ่านข้อแรกมาแล้ว เข้าใจตนเองแล้ว ลงทุนไปเลยครับ เอาที่ดีที่สุด แล้วคุณจะสบายกับการใช้งานมันไปอีกนาน
- บ้านมันมีจุดที่ดีที่สุดสำหรับอะไรบางอย่างอยู่เสมอ อยู่ที่เราจะหาและใช้ประโยชน์มันได้หรือเปล่า เลยเอาต์การจัดวางก็เป็นเรื่องหนึ่ง การใช้งานก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากปรับแต่งให้ทั้งคู่อยู่ที่จุดเดียวกันได้ คือ สิ่งที่ดีที่สุด
- อย่าใจร้อน เพราะใจร้อนอาจหมายถึง ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน พื้นที่ตรงนี้ผมปรับแต่งมาทั้งหมด 4 รอบ หมดเงินไปหลาย เหลือของให้เก็บในห้องเก็บของหลายอย่างเลย
- ฝันและศึกษาให้เยอะๆ ดูให้เยอะๆ แล้วค่อยๆ คัดกรอง เลือกมาให้ตรงกับวิถีชีวิตของเรามากที่สุด
หมดแล้วครับ
งานปูนเสร็จเกือบหมด เหลือเทพื้นอีกนิดหน่อย ไม้แบบผมมีแค่ 4 อัน (แพงมาก เมตรละหลายสิบบาท) คือ ยาว 3 เมตร 2 อัน ยาว 2 เมตรสองอัน เลยค่อยๆ ทำไปครับ เมื่อทำงานปูนหมด ผมก็จะเริ่มลงต้นไม้ในส่วนที่หายไป
ที่ลงต้นไม้ช่วงนี้ ตามแผนพอดี เพราะหน้าฝน เราจะได้ไม่ต้องรดน้ำครับ
พอลงต้นไม้เสร็จ ก็ค่อยทำงานไม้ คือ ขึ้นโครงศาลา ตีระแนง
แล้วสุดท้ายก็ทำห้องเก็บของ
ไว้ค่อยๆ ตามดูกันนะครับ
มาสรุปอุปกรณ์ที่ผมต้องใช้กับงานนี้ทั้งหมด
- ไม้บรรทัดวัดระดับ –> ไม่มีก็ซื้อดีๆ ไปเลยครับ ถ้าชอบงานช่าง มันได้ใช้ตลอด เอาง่ายๆ แค่ขยับเฟอร์นิเจอร์ แล้วประตูตู้มันปิดไม่สนิท เหตุก็เพราะพื้นไม่ได้ระดับ ลองเอาไม้บรรทัดวัด ก็จะรู้ว่าเอียงตรงไหน ก็เอากระดาษพับ รองตรงนั้นได้ เรียกว่า เป็นของจำเป็นควรมีติดบ้านเหมือนกันนะ
- สายยางวัดระดับ –> สายอ๊อกซิเจนของตู้ปลานั้นละครับ ใช้ยาวเท่าที่ความห่างของวัตถุทั้งสองที่ต้องการวัด
- ค้อน –> มีหลายประเภท ควรมี ค้อนหงอน ไว้ถอนตะปู ไว้ตอกนู้นนี่นั่น ค้อนยาง ไว้ตีอะไรที่ต้องการใช้แรงเยอะๆ แต่ไม่ต้องการให้ผิวเสียหาย
- พลั่ว –> ไว้ตักทราย ตักดิน ตักอะไรก็ได้ ขุดก็ได้นิดหน่อย
- เสียม –> ไว้ขุดินโดยเฉพาะ
- มีดพร้า -> ไว้ฟันต้นไม้
- เลื่อยไม้ –> ไว้เลื่อยกิ่งไม้
- จอบ –> ไว้ขุด ไว้เกลี่ยดิน
- เกรียงฉาบปูน –> ไว้ปาดหน้าพื้นผิวต่างๆ ให้เรียบ เช่น หน้าทราย หน้าดิน หรือตามหน้าที่ของมันคือ หน้าปูน
- สามเหลี่ยมปาดปูน –> สำหรับปาดจัดระดับ ปาดหน้าปูนให้เรียบ หรือจะปาดอะไรก็ได้ที่่ต้องการพื้นที่มากๆ ยาวๆ เท่าๆ กัน
- ถังปูน –> ไว้ตักปูน ตักทราย ตักหิน
- ถังผสมปูน –> มีหลายขนาด แล้วแต่ความเหมาะสม ถ้าไม่มี ต้องใช้วิธีโบราณ คือ กองผสมปูนเองกับพื้น
- ไม้แบบ –> ราคาขายเป็นเมตร ประมาณ 60-100 บาท ซื้อตามแบบที่ต้องการ เมื่อเสร็จงานสามารถเก็บไว้ได้ หรือจะเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้
- คีม –> ไว้ตัดลวด สำหรับผูกเหล็กเส้น
- คีมตัดเหล็กเส้น –> ไว้ตัดเหล็กเส้น ในกรณีที่ผูกเอง เพราะถ้าพื้นที่ไม่มาก ซื้อไวร์แมส (เหล็กเส้นปูพื้นสำเร็จ) จะไม่คุ้ม
- ถุงมือ –> ซื้อเป็นโหลๆ ไปเลย คู่ละ 5 บาท ถนอมมือได้ดีมาก
- เส้นเอ็น –> สำหรับขึงแนวระดับ ม้วนหนึ่ง 20 บาท (อย่างมาก)
- ตะปู –> ไว้ยึดแบบ หรือเส้นเอ็น
————————————————–
ผมเชื่อว่า รายการอุปกรณ์เหล่านี้ ส่วนใหญ่มีเกือบหมดละ บางคนอาจคิดว่าไม่จำเป็น อาจคิดว่าแพง (แพงจริง) แต่ลองคิดถึงอนาคตที่ใช้งาน คุ้มครับ อย่าง คีมตัดเหล็กเส้นเนี่ย พ่อผมซื้อมาเกิน 20 ปี แล้ว ได้ใช้หลายงานแล้ว ดังนั้น มันอาจแพง แต่มันอยู่ได้ตลอดกาล ไม่พังง่ายๆ ถ้าไม่มีก็สร้างไว้ให้ลูกหลานใช้ ไม่เสียหายครับ
ราคาสิ่งของต่างๆ
เท่าที่ผมจำได้นะครับ หลายรายการมีขึ้นราคาสูงมาก
ปูน ลูกละ 100-140 บาท แล้วแต่ยี่ห้อ และเวลาที่ซื้อ
หินก่อสร้าง จำราคาไม่ได้
ทราย คิวละ 280-430 บาท แล้วแต่เวลาที่ซื้อ (รวมราคาส่งด้วยบางเจ้า)
เหล็กเส้น 2 หุน ยาว 10 เมตร ผมใช้ทั้งหมด 9 เส้น เส้นละประมาณ 50-70 บาท แล้วแต่จังหวะราคา
ไม้หมอน รถไฟ เส้นละ 1000 บาท ยาว 1 เมตร
อิฐมอญโบราณ 20*20 (จำไม่ได้)
อิฐมอญโบราณ 15*30 ก้อนละ 16-18 บาท
แผ่นปูนหน้าทรายล้าง แผ่นละ 40 บาท
แผ่นหินสีชมพู แผ่นละ 72 บาท
บ่อน้ำ ขนาด 80 ซม. 450 บาท
หินเม็ดเล็กๆ สีขาว สีส้ม ถุงละ 5 กิโลกรัม ประมาณ 40 บาท ต่อถุง
ต้นไม้ จำไม่ค่อยได้ มีที่จำได้ไม่กี่รายการ
ต้นไทรเกาหลี ต้นละ 100 บาท ซื้อที่ คลอง 11
หญ้า ตร.ม. ละ 18 บาท
ต้นง่อนไก่ด่าง ต้นละ 10-15 บาท
ต้นหน้าวัว ต้นละ 40 หรือ 80 บาทนี่ละ
กล้วยไม้ดิน ต้นละ 40 หรือ 80 บาทนี่ละ
หนวดปลาดุก ถุงละ 10 บาท
ต้อยติ่งแคระ ถุงละ 10 บาท
ท่อเหลืองสำหรับเดินสายไฟในสวน เส้นละ 40-42 บาท ยาว 4 เมตร
ข้อต่อท่อต่างๆ – จำราคาไม่ได้
นึกได้อย่าง
ถ้าให้ย้อนเวลาได้ ผมจะไม่รื้อศาลาเองครับ จะยอมขายไป 4,000 บาท
เพราะผมว่าแม้ประหยัดและทำเฟอร์นิเจอร์ไม้อื่นๆ มาใส่ในสวนได้ก็ตาม แต่ผมว่าไม่คุ้มค่าเหนื่อยที่ไปรื้อมันเลยครับ
ตัวอย่างบางส่วนจากไม้ศาลาที่ผมมาดัดแปลงครับ
เอาไม้โครงต่างๆ กับไม้พื้นมาทำเก้าอี้ โต๊ะกลาง แล้วก็กล่องเก็บของในสวนครับ
ซึ่งผมว่ามันเป็นเก้าอี้ที่หนักเกินไป เพราะเป็นไม้เนื้อแข็ง แต่ระยะยาวก็ชัวร์ว่าใช้ได้อีกนานมาก
ที่เหลือยังไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรดี
วันนี้ไปลางานทำฟัน ช่วงบ่าย เลยมาลุยต่อให้จบงานปูน เพราะไม่อยากให้เสร็จช่วงหน้าฝน
ตอนแรกจะเทปูนหมดเลย แต่พอวางกรอบแบบแล้ว ดูๆ แล้วมันแปลกๆ เลยทำเป็นกรอบสี่เหลี่ยมดีกว่า
ส่วนพื้นที่ว่างอยู่ คงต้องไปซื้ออิฐมอญโบราณมาใส่เพิ่มเติมแทน
ไม้แบบไม่พอ ก็เลยเอาไม้ที่รื้อจากศาลามาทำเป็นไม้แบบ
ที่เหลือด้านหลังไม่มีไม้แบบ เลยเอาทรายเป็นแบบแทน
ตอนนี้กำลังคิดว่า จะปูกระเบื้องดี หรือปูไม้ดี
ชอบปูไม้มากกว่าได้อารมณ์สวน แต่ปูกระเบื้องใช้ประโยชน์ได้มากกว่า
ยังคิดไม่ ตก… คิดออกแล้วค่อยมาต่อ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากคุณ avatayos สมาชิกจากเว็บไซต์ pantip.com
Dot Property เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ซื้อ-ขาย อย่างมืออาชีพ…
ท่านต้องการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่หรือไม่ ลงประกาศขายกับ Dot Property ฟรี!!! ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงประกาศง่าย ขายได้ไว
หรือหากท่านกำลังมองหา คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน เว็บไซต์ Dot Property มีให้ท่านเลือกมากกว่า 300,000 รายการ ได้ตรงตามความต้องการ ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย