จากครั้งก่อนที่เราได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของการจัดฮวงจุ้ยให้คู่ของธาตุไฟกับดินไปแล้ว บทความนี้เราจะเขยิบกันไปอีกคู่ธาตุหนึ่ง ซึ่งก็คือ ธาตุดินและธาตุทองนั่นเอง(ปรบมือรัวๆ) แต่ก่อนอื่นที่เราจะไปดูแนวคิดหรือวิธีจัดฮวงจุ้ยสำหรับคู่ธาตุนี้ เรามาดูกันก่อนครับว่าตัวเองเป็นคนธาตุอะไร ซึ่งสามารถดูได้จากลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยครับ ความสัมพันธ์ระหว่างปีนักษัตรและธาตุตามหลักฮวงจุ้ย
จากรูปลำดับวัฎจักรของธาตุทั้ง 5 ในฮวงจุ้ย ธาตุดินและธาตุทอง เป็นธาตุที่ไล่กันตามลำดับ โดยที่ธาตุดินมีลักษณะเกื้อหนุนให้กับธาตุทอง แต่ในทางกลับกัน เมื่อธาตุทองของคนในบ้านแข็งแกร่งและสมดุลมากพอ คนที่มีธาตุทองจะไม่ดูดพลังงานของคู่อีกคนที่มีธาตุดิน ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้คู่ธาตุนี้ และวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือ การหาของแต่งบ้านที่มีลักษณะของธาตุดิน เพราะธาตุดินเสริมได้ทั้งธาตุแบบเดียวกันและธาตุทอง ยกตัวอย่างเช่น
1. ตุ๊กตาเครื่องปั้นดินเผา
ของตกแต่งชิ้นนี้เป็นของที่หาได้ง่ายและมีราคาถูก สามารถหาได้ตามตลาดนัดจตุจักร อีกทั้งยังมีพลังจากธาตุดินอย่างเต็มเปี่ยม ทำให้ตุ๊กตาดินเผาเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆในการนำมาใช้เสริมพลังให้กับธาตุดินและธาตุทอง
2. ใช้สีแต่งบ้านโทนน้ำตาล
เป็นอีกวิธีที่ง่ายและใช้ได้นานสำหรับการเสริมพลังธาตุโดยการใช้สีทาบ้าน ซึ่งทิศที่เหมาะสำหรับธาตุดินนั้นคือทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งสีที่เราสามารถนำมาใช้ก็คือสีโทนน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้ม
3. รูปภาพ
ในกรณีที่เรามีพื้นที่ภายในบ้านมากพอ รูปภาพสวยๆซักรูปสองรูปที่เกี่ยวข้องกับธาตุดินก็เป็นตัวเลือกที่ดี อย่างเช่น รูปวิวภูเขา พื้นที่โล่ง ทุ่งหญ้า เป็นต้น ส่วนกรอบรูปนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเลี่ยงกรอบที่ทำจากโลหะครับ
แต่สำหรับธาตุทั้ง 2 นี้ ต้องระวังเรื่องของธาตุน้ำ เพราะธาตุน้ำเป็นธาตุพิฆาตธาตุทองและธาตุดิน เพราะฉะนั้นเราต้องเลือกของแต่งบ้านให้ดีๆเวลาจะนำมาไว้ในบ้าน และนอกจากธาตุน้ำแล้ว ยังมีอีกธาตุหนึ่งที่ต้องระวังด้วย ซึ่งก็คือธาตุไฟ เพราะถ้าในบ้านมีพลังของธาตุไฟมากเกินไป มันจะส่งผลหลอมละลายพลังของธาตุทอง ทำให้วงจรความสมดุลของธาตุทั้ง 5 ภายในบ้านพังลงได้
ฟังดูแล้วเรื่องนี้ทำไมมันยุ่งยากเยอะแยะวุ่นวายไปหมด แต่เชื่อผมเถอะครับ ลองค่อยๆอ่านไปทีละขั้นตอน สนุกกับมัน ให้เหมือนกับการเล่นเกม ไม่นาน ตัวคุณเองก็สามารถจับเคล็ดของฮวงจุ้ยได้ง่ายๆเหมือนกับมืออาชีพ และสามารถนำมันมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างคาดไม่ถึงเลยล่ะครับ
ที่มา : fengshui.about.com