ย้อนไปเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2561 ระหว่างงานแถลงข่าวผลการดำเนินงานและแผนธุรกิจในปี 2561 ประธานกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ หรือ LH “นพร สุนทรจิตต์เจริญ” ได้ประกาศ(จะ)เช่าที่ดินสวนชูวิทย์ บริเวณสุขุมวิทซอย 10 เนื้อที่ 6 ไร่ จาก “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” เป็นเวลา 30 ปี และต่ออีก 4 ปี กำหนดเซ็นสัญญากันในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ใช้ที่ดินสวน ชูวิทย์ทำโครงการมิกซ์ เฉกเช่นเทอร์มินัล 21 อโศก
ครอบคลุมทั้งอาคารสำนักงาน พื้นที่เช่า 20,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) โรงแรม 400 ห้อง และพื้นที่ค้าปลีกอีก 3,000 ตร.ม. ใช้งบลงทุนอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในช่วงต้นปี 2562 และคาดว่าใช้ระยะเวลาราว 3 ปีจะสามารถเปิดให้บริการได้ จากนั้นก็มีแผนจะนำเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT เป็นลำดับต่อไป
ชูวิทย์ ไม่ปลื้ม แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ปล่อยให้ข่าวออกมาก่อนทั้งที่ยังไม่ได้ทำสัญญากัน
คล้อยหลังไม่นานที่ผู้บริหาร LH ออกมาพูดว่าจะเช่าที่ดินสวนชูวิทย์ ก็มีกระแสข่าวออกมาหลากหลาย บ้างก็ว่าดีลนี้ไม่จบง่ายๆ มีดีเวลลอปเปอร์เจ้าอื่นสนใจให้ราคาดีกว่า LH … หรือบางกระแสข่าวก็บอกว่า “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ไม่แฮปปี้ที่มีข่าวปรากฏบนสื่อต่างๆ ออกมาก่อนทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำสัญญากัน
กระทั่งล่าสุดผู้บริหาร LH “นพร สุนทรจิตต์เจริญ” ยอมรับกับทีมงาน prop2morrow.com ว่า ทั้ง LH และเจ้าของที่ดินคือคุณชูวิทย์ ยังไม่ได้เซ็นสัญญาหรือทำอะไรกันทั้งสิ้น โดยไม่ได้บอกว่าเพราะเหตุใดถึงยังไม่เซ็นสัญญากันตามกำหนด
การออกมายอมรับของผู้บริหาร LH นั้นสอดคล้องกับ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ที่กล่าวกับทีมงาน prop2morrow.com ว่าเคยได้มีการกินข้าวและพูดคุยถึงเรื่องการเช่าที่ดินสวนชูวิทย์ กับ “อนันต์ อัศวโภคิน” และ “นพร สุนทรจิตต์เจริญ” จริง ครั้งถึงสองครั้ง แต่เป็นการพูดคุยกันในเบื้องต้น ยังไม่มีการตกลงในรายละเอียดอะไรใดๆ ทั้งสิ้น “ผมยังไม่ได้ให้ใครเช่า” นายชูวิทย์กล่าว
“แม่ผมกับคุณแม่ของคุณอนันต์เป็นเพื่อนกัน อดีตเคยไปซื้อที่ดินด้วยกัน” นั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ “ชูวิทย์” บอกว่าเป็นที่มาที่ไปของการได้รู้จักกันพูดคุยกันและกันระหว่างตัวเขาและ “อนันต์”
พร้อมกันนี้ “ชูวิทย์” ยังกล่าวย้ำด้วยว่า “ทำไมผู้บริหารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ออกมาพูดก่อนว่าได้สวนชูวิทย์ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรกับผมเลย”
อย่างไรก็ตาม “ชูวิทย์” ยอมรับว่ามีผู้ประกอบการ 2-3 รายซึ่งก็เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และอยู่นอกตลาดหลักทรัพย์แต่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ติดต่อหรือสนใจเช่าที่ดินสวนชูวิทย์
สำหรับเงื่อนไขการเช่า “ชูวิทย์” บอกว่า “ซิมเปิล” มากๆ เช่ายาว 30 ปี + 3 ปี (ระยะเวลาก่อสร้าง) ราคาที่คิด 60% ของราคาตลาด ด้วยการเทียบเคียงกับราคาที่ดินที่มีการซื้อขายกันบริเวณสุขุมวิทซอย 6 เนื้อที่ 4 ไร่ ใกล้กับโรงแรมแลนด์มาร์ค ที่บริษัท นันทวัน จำกัด หรือ Thai Obayashi ซื้อไปในราคา 2.6 ล้านบาทต่อตารางวา (ตร.ว.) หรือประมาณ 4,600 ล้านบาท
“คุณอนันต์ต่อผม 2.2 ล้านบาทต่อวา ขอลด ทำไมที่ดินมันมีแต่ขึ้น ที่ดินเป็นแมตทีเรียลที่ไม่มีผลิตเพิ่ม มีเท่าไหร่ก็เท่านั้น”
“ชูวิทย์” ยังเปรียบการทำธุรกิจร่วมกันเหมือนคนที่แต่งงานกัน ก็ต้องมีความจริงใจต่อกัน นอกเหนือจากที่ดิน 6 ไร่ บริเวณสุขุมวิทซอย 10 แล้วยังมีที่ดินอีก 2 แปลงที่พร้อมพัฒนา คือ ย่านศรีนครินทร์ เนื้อที่ 4-5 ไร่ ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีด่าน และที่ดิน 7 ไร่ บริเวณสุขุมวิท 24 (ใกล้โรงแรมเดวิส) พร้อมใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 3 ใบที่ขอก่อสร้างเป็นคอนโดมิเนียมที่ยังไม่หมดอายุเป็นโครงการที่สร้างเมื่อ 15 ปีก่อน
บริษัท ปาล์มเมอร์ แอนด์ เทอร์เนอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ออกแบบโครงการ แต่ก็ได้หยุดการพัฒนาไปเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี หากมีผู้สนใจที่จะเช่าหรือร่วมทุนกันเขาก็พร้อมที่จะเปิดกว้าง โดยที่ผ่านมามีผู้ประกอบการอสังหาฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฯเคยเข้ามาเจรจาแต่ก็ติดขัดเรื่องเงื่อนไขการจ่ายเงินจึงต้องยุติการเจรจากัน
“ที่ดินทุกแปลงที่ผมมีอยู่ ไม่มีนโยบายขาย โฉนดผมเก็บที่บ้าน ไม่ได้เก็บที่แบงก์ ดังนั้น ผมไม่เป็นหนี้ใคร ผมให้เช่า ถ้าใครสนใจผมยินดีมาคุยกัน” นายชูวิทย์กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา mgronline