วันนี้เรามีไอเดียสำหรับ ตกแต่งคอนโด มือสองเพื่อขายให้ได้เร็ว โดยประมาณ 3 เดือน ก็ปล่อยได้แล้ว โดยเป็นไอเดียการเเต่งของ คุณ Neverstops สมาชิกจากเว็บไซต์ pantip.com ที่ได้มาแชร์ไอเดียกรแต่งคอนโดในครั้งนี้ให้เราได้ชมกันที่สำคัญราคาไม่แพงเกินจริงด้วย
[CR] เทคนิคการ ตกแต่งคอนโด มือสองเพื่อขายให้ได้เร็ว BY คุณ Neverstops
โดยห้องนี้ขายไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เองค่ะ หลังจากตกแต่งเสร็จก็ใช้เวลาในการขายประมาณ 3 เดือน อย่างที่กล่าวไว้ในกะทู้เก่านะคะว่าดิฉันมีคอนโดขนาดประมาณ 30 ตร.ม. ทั้งหมด 9 ห้อง ซื้อมาตั้งแต่ปี 2012 แต่ก็ได้ทยอยขายออกเรื่อยๆ พอผู้เช่าหมดสัญญาก็ตกแต่งขายทีละห้อง
จน ณ ปัจจุบันนี้เหลืออยู่ 3 ห้อง เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านผู้เช่า 1 ใน 3 ห้องที่เหลืออยู่หมดสัญญาเช่าและย้ายออก ดิฉันก็ได้เข้าไปตกแต่งเพื่อขาย ส่วนอีกสองห้องที่เหลือ ผู้เช่าทั้งสองก็พึ่งต่อสัญญามาเป็นปีที่ 3 แล้ว จะหมดสัญญาอีกทีก็ปีหน้าเลยค่ะ
นี้ก็เป็นสภาพห้องที่ผู้เช่าสุดที่รักทิ้งไว้ให้นะคะ บอกว่าห้ามเจาะห้อง ในสัญญาเช่าก็ระบุไว้ พี่แกเล่นเจาะซะรอบห้องเชียว ส่วนโซฟาเห็นแล้วเกือบอ้วกแตก สกปรกมาก มารู้ทีหลังพี่แกแอบเอาหมามาเลี้ยง ขนหมานี้เต็มห้องเลย ประตูห้องก็มีรอยหมาแทะ ประตูห้องน้ำก็เปื่อย ห้องน้ำก็ไม่ได้แคบมากนะคะ มีส่วนเปียกส่วนแห้ง พี่แกคงเล่นสงกานต์กับน้องหมาในห้องน้ำทุกวันแน่เลย
รอบห้องก็รอยสารพัดต่างๆ ขูดขีดเต็มไปหมด สุดท้ายก็คิดแกแค่ค่าทำความสะอาด 500 บาทและค่าล้างแอร์อีก 500 บาทตามที่ระบุไว้ในสัญญา ส่วนค่าเสียหายอย่างอื่นก็ไม่ได้คิด ความจริงคือไม่ได้ไปตรวจห้องเอง ฝากให้น้องที่รู้จักไปตรวจ เราก็ทำใจไว้บางแล้วแหล่ะก็เลยไม่ได้ตกใจอะไรมากนัก ยังไงๆ เราก็ต้องตกแต่งใหม่อยู่แล้ว แต่ก็แอบเซ็งตรงหมาแทะประตูกับประตูห้องน้ำเปื่อย เพราะเราไม่ได้คิดจะเปลี่ยนประตู
สำหรับห้องนี้ดิฉันตั้งโจทย์ไว้ว่าอยากเน้นประโยชน์ใช้สอยของพื้นที่ทุกตารางเมตรที่มีอยู่เพียงน้อยนิดให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีที่เก็บของเยอะๆ อยากให้ห้องนี้เป็นบ้านที่แท้จริงสำหรับคนบ้าหอบฟาง ถึงจะบ้าหอบฟางแต่ต้องบ้าแบบมีสไตล์ เก็บให้เรียบร้อยและสวยงามค่ะ
มาเริ่มที่ห้องนั่งเล่นกันก่อนเลยนะคะ อันนี้เป็นแบบที่ต้องการแต่แรก เป็นของ Koncept วางไว้ว่าโต๊ะทำงานกับตู้แขวนติดผนังห้องนั่งเล่น แก้แบบอยู่ตั้งนาน พอจะสั่งของกลายเป็นว่าไม่มีของต้องรอหลายเดือน ดิฉันคงรอไม่ได้ สูญเสียโอกาสในการขาย สุดท้ายก็ได้แค่ชุดทีวีกับโต๊ะทำงาน สองอย่างนี้ยังต้องรอเป็นเดือน ซึ่งไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ ดิฉันเป็นลูกค้าของ Koncept มายาวนานมาก ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย จะไปเดินดูของใหม่ ยี่ห้ออื่นก็เสียเวลา คราวหน้าคงต้องไปดูยี่ห้ออื่นแล้วแหล่ะ
สำหรับโต๊ะทำงาน
พอจะติดตั้งจริงๆ ตำแหน่งที่จะวางโต๊ะทำงานไม่มีปลั๊กไฟ สำหรับเสียบคอมพิวเตอร์ จึงย้ายไปติดในห้องนอนแทนเพราะตรงหัวเตียงมีปลั๊กไฟอยู่ เมื่อย้ายโต๊ะทำงานไปติดที่หัวเตียงแล้วก็ไม่มีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะหัวเตียง ก็เลยย้ายมาวางข้างโซฟา และซื้อโคมไฟมาตั้ง เพิ่มแสงสว่างนิดนึง
สำหรับโซฟา
ซื้อมาตัวที่ 3 แล้วจากอีเกีย คงไม่ต้องสาธยายความชอบแล้วแหล่ะ ส่วน coffee table อันเก่ามันดูใหญ่เทอะทะ และไม่ Balance กับโซฟาซักเท่าไหร่ ที่สำคัญดูโบราณไปนิด ก็เลยไปสอยตัวทรงกลมมาจากอีเกีย ซึ่งดู Balance กับโซฟาหน่อย และมีโทนสีเทาเหมือนกัน
มาดูเซ็ตชั้นวางทีวีกัน
ยอมรอเป็นเดือนก็เพราะชอบชั้นวางทีวี ซึ่งมีความเป็น 2 in 1 วางทีวีและเป็นตู้รองเท้าด้วย ประหยัดพื้นที่ไปได้อีกแถมยังมีความเป็นระเบียบ เห็นบางคนซื้อกล่องใส่ๆ มาใส่รองเท้าผ้าใบเน่าๆ ส่วนตัวแล้วไม่อยากเห็นเลยค่ะ จับมันยัดใส่ตู้บานปิดไปเลยดีกว่า ตู้นี้เก็บรองเท้าได้ประมาณ 20 คู่ค่ะ คุณผู้หญิงสายแฟชั่นหายห่วงได้เลยค่ะ มีตู้รองเท้าใหญ่ๆ แบบนี้ ส่วนตู้แขวนก็เอาไว้เก็บของ ชั้นแขวนก็อาจไว้วางกรอบรูปหรือเป็นชั้นวางหนังสือก็ได้ ส่วนตัวชอบมากเลยค่ะเซ็ตนี้ ประโยชน์ใช้สอยคุ้มค่า แถมหน้าบานของตู้ยังเป็นสีเทาซึ่งแมทกับสีโซฟาเป๊ะเลยค่ะ
สำหรับชุดครัวก็ซื้อมา
ก็ตัวที่ 6 แล้ว เป็นของ Starmart เจ้าเก่า ราคาก็ย่อมเยา ชอบที่มันมีช่องใส่ microwave ไม่ต้องเอามาวางเกะกะเสียพื้นที่ๆ มีอันน้อยนิดบนเค้าเตอร์ครัว มีถังขยะแบบแขวน ที่ใส่ถุงขยะติดหน้าบานมาให้เรียบร้อย และส่วนตัวชอบซิ้งที่เป็นตัวเดียวกันกับ Top ดูโมเดรินดีค่ะ ดิฉันคิดว่าไอ้ซิ้งสแตนเลสมัน out ไปนานแล้วนะคะ ถ้าเลือกแบบเก๋ๆ มียี่ห้อหน่อยก็พอไหวค่ะ
แต่ถ้าแบบถูกๆ เหมือนที่พวก Developer แถมมากะคอนโด ขอบาย ดิฉันชอบฟังก์ชัน ตู้เก็บของๆ ครัวนี้ค่ะ เก็บได้หมดทุกอย่างค่ะ พวกถ้วย ช้อน จาน แก้วน้ำ แก้วกาแฟ อุปกรณ์ครัว อาหารแห้งต่างๆ ส่วนตัวคิดว่าครัวชุดนี้ไม่ได้หรูหราหรือ trendy อะไรมากนักแต่มันตอบโจทย์การใช้งานแน่นอน
อย่างที่บอกไว้แต่แรก concept การแต่งห้องนี้คือจะขายให้คนบ้าหอบฟางเท่านั้น ดิฉันเห็นมาเยอะแล้ว ห้องที่ตกแต่งสไตล์ Industrial เอาแก้ว เอากะทะหรือพวกทัพพี มาห้อยแขวนผนัง หรืออาจติดเป็นชั้นวางของแทนการใส่ตู้แขวนบานปิด ถ้าจะทำแบบนั้น ต้องมั่นใจใน lifestyle ของผู้อยู่อาศัยด้วยนะคะ ว่าเรียบร้อยแค่ไหน มันเก๋และสวยถ้าดูรูปใน Pinterest แต่มันจะกลายเป็นรกเอา ถ้าคนอยู่อาศัยไม่ได้เรียบร้อย หรือเป๊ะเวอร์
อีกอย่างนึงที่ห้ามพลาดคือต้องบอกช่างที่มาติดครัวด้วยนะคะว่าต้องเว้นช่องติดกระเบื้องโมเส็กไว้ 30 ซม. ถ้าไม่บอกช่าง เค้าก็ติดตามใจเค้า ช่างบางคนดีหน่อย ถามก่อนว่าอยากเว้นเท่าไหร่ แต่ช่างบางคน เราลืมบอก เค้าก็ไม่ถาม ติดไปเลย กระเบื้องโมเส็กขนาด 30×30 ซม. ถ้าไม่เว้นช่องพอดี ยาแนวอาจจะเส้นใหญ่หน่อยซึ่งไม่สวยเลย หรืออาจจะต้องตัดกระเบื้องซึ่งก็ไม่สวยอีก เคยเกิดมาแล้วกับดิฉัน อยากจะฆ่าช่างและฆ่าตัวเองตายตามไปด้วย ถึงจะไม่ได้อยู่เอง
แต่ finishing ของงาน ดิฉันซีเรียสมาก แล้วเรื่องย้ายปลั๊กไฟต่างๆ ก็เหมือนกัน เวลาช่างมักง่ายจะเดินลอยแล้วก็ใส่รางครอบ ปลั๊กจะนูนออกมา ต่างๆ นาๆ ดิฉันไม่เอานะคะ อย่ามาขี้เกียจ เจาะผนังแบบฝังเท่านั้น คิดเท่าไหร่ บอกมา จบ อย่างในรูปจะเห็นว่ามีเพิ่มปลั๊ก 2 ตำแหน่ง คือช่องไมโครเวฟกับเหนือเค้าเตอร์ ปลั๊กเดิมจะมีแค่ตรงตู้เย็นด้านล่างเลย
ความจริงดิฉันสามารถประหยัดเงินได้โดยการทำปลั๊กแค่จุดเดียวคือเหนือเค้าเตอร์ เพราะด้านล่างข้างไมโครเวฟมีช่องสายไฟลงมาเสียบได้ แต่ดิฉันไม่เอา ไม่สวยงาม มีปลั๊กของไมโครเวฟในช่องของมันจะเรียบร้อยกว่า ชื่ออีกชื่อนึงที่สามีตั้งให้ดิฉันคือ Mrs Perfectionist!
มาต่อกันด้วยห้องนอน
ห้องนอนจะมีกระจกบานสไลด์กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นซึ่งดูเป็นสัดส่วน หากมีเพื่อนมาก็ปิดไว้ได้ค่ะ มันจะได้ไม่ถือวิสาสะมานอนบนเตียงทำตัวเหมือนบ้านตัวเอง แล้วก็ทิ้งกลิ่นจักแร้และกลิ่นตัวของมันไว้บนเตียงของเรา 555 ถ้าเป็นห้องแบบสตูดิโอ แน่นอนค่ะ ถ้าเพื่อนมา มันล้มตัวลงนอนที่เตียงทันทีค่ะ โซฟามีแต่มันไม่นั่งค่ะ มีกันไหมค่ะเพื่อนแบบนี้? นี้ก็เป็นแบบที่คิดไว้ เตียงใช่อันเดิม เปลี่ยนตู้เสื้อผ้าให้เค้าเซ็ตกันกับเตียง
เมื่อก่อนตอนที่ซื้อเตียง เค้ายังไม่ทำตู้ size นี้ออกมาขาย จำได้ว่าตอนซื้อเตียงยังบ่นกับพนักงานขายว่าทำไมไม่ทำตู้ขนาดเล็กออกมาขาย คอนโดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด แต่ก็ยังแอบขัดใจ เพราะ Developer ออกแบบช่องใส่ตู้เสื้อผ้ามาเล็กเกินไปแค่ 100 cm เอง ซึ่งเล็กไปหน่อย ดิฉันคิดว่าตู้ที่เหมาะสมคือขนาดไม่ต่ำกว่า 140 cm. Layout ของห้องคือชอบมากแต่ต้องมาแอบขัดใจขนาดของตู้เสื้อผ้า
ตอนแรกกะใส่โต๊ะเครื่องแป้งด้วย แต่คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่า เกิดเป็นผู้ชายมาซื้อ และไม่ชอบโต๊ะเครื่องแป้ง กลายเป็นเราเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ตู้ลิ้นชักก็ของเดิม เปลี่ยนผ้าม่านใหม่ให้มันดูหรูหราและป้องกันแสงแดดยามเช้าหน่อย ผ้าปูเตียงนี้ไม่ได้ให้นะคะ มันเป็นพร็อพค่ะ อย่าเข้าใจผิดนะคะ แบกมาจากบ้านหลังถ่ายรูปเสร็จก็แบกกลับค่ะ
บางคนอาจคิดว่าแค่ตกแต่งขายไม่เห็นต้องใส่โต๊ะทำงานเลย จะได้ประหยัดไปอีก เพราะในห้องครัวก็มีโต๊ะกินข้าวซึ่งก็สามารถใช้เป็นโต๊ะทำงานได้หากต้องการ Again I’m Mrs Perfectionist! ดิฉันเค้าไปดูตลอด เวลาที่มีคนมาเขียนรีวิวตกแต่งคอนโดอยู่เอง ส่วนใหญ่แล้ว โต๊ะทำงานจะขาดไม่ได้ ฉะนั้นแล้วดิฉันก็ต้องจัดไปค่ะ เพิ่มชั้นวางของขึ้นมาหน่อยเผื่อไว้เป็นชั้นวางหนังสือหรือวางรูปแฟน รูปศิลปินโอปป้าที่ชื่นชอบ หรือจะเป็นหิ้งพระก็ได้นะคะ เหมาะมากอยู่บนหัวนอนเลย
ค่าตกแต่งทั้งหมด
บางคนอาจสงสัยว่าตกแต่งไปเกือบแสนแล้วจะขายเท่าไหร่ ราคาจะไม่สูงเกินไปเหรอ จะทำให้ขายยากไหม อ่อ ไม่สูงค่ะ ราคาขายต่ำสุดของที่นี่ก็ราวๆ 1 ล้าน ราคาสูงสุดก็ราวๆ 1.7 แล้วแต่ว่าชั้นไหน ตึกไหน ส่วนราคาที่ดิฉันจะขายก็ราวๆ ล้านต้นๆ ก่อนตกแต่งก็ตั้ง budget ตกแต่งและราคาขายไว้แล้วจากการสำรวจตลาดมา และก็มีประสบการณ์ในการขายห้องของตัวเองที่คอนโดนี้ออกไปแล้ว 3 ห้อง ที่สำคัญดิฉันก็ยึดหลัก Marketing Mix หรือ 5 Ps ค่ะ คือ
- Product ต้องเลิศ
- Price ต้องคุ้มค่า
- Place ช่องทางการขาย ก็คือเว็ปไซด์อสังหาฯ ชั้นนำทุกเว็ป ขายไปแล้ว 6 ห้อง ได้ลูกค้ามาจากเว็ปไซด์เหล่านี้แหล่ะค่ะ
- Promotion ซื้อภายในปีนี้ ฟรีค่าโอนค่ะ
- People เจ้าของห้องที่แสนจะน่ารัก เป็นกันเองและซื่อสัตย์ ใส่ใจทุกรายละเอียดการตกแต่งห้อง ใครได้ห้องไปโชคดีสุดๆ เลยค่ะ 5555
หวังว่ารีวิวครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็มากๆ นะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากคุณ Neverstops