หากเอ่ยชื่อ คุณเหมโชค สิงห์สมบุญ หรือ รองประธานกรรมการบริษัท เอเอซี กรีน ซิตี้ คนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงอสังหาฯอาจจะยังไม่รู้จักหรือไม่คุ้นหู รวมถึงนักธุรกิจใหม่ๆบางคนอาจไม่รู้จักด้วยเช่นกัน แต่นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักอีกต่อไป เพราะ ตระกูลสิงห์สมบุญ ไม่ใช่น้องใหม่ในวงการอสังหาฯ หากแต่ดำเนินธุรกิจในด้านนี้แต่เลือกที่จะเข้าไปพัฒนาสร้างโครงการต่างๆในประเทศลาวตั้งแต่เมื่อ 26 ปีที่แล้ว
ซึ่งในยุคนั้นทาง ตระกูลสิงห์สมบุญได้พัฒนาใน เวียงจันทร์ และ มีการร่วมทุนกับต่างชาติ และ การเปิดธนาคารร่วมพัฒนา ที่เวียงจันทร์ แต่ในขณะที่ใกล้จะเปิด AEC เข้ามาทุกที โครงการใหญ่ยักษ์ที่ทางตระกูลสิงห์สมบุญได้ร่วมทุนกับเกาหลี ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในประเทศลาว ก็ก้าวหน้าไปตามลำดับ ซึ่งโครงการนี้เรียกได้ว่าเป็น เมกะโปรเจค และยังรับสัมปทานจากรัฐบาลลาวให้พัฒนาได้ต่อเนื่องนานถึง 40 ปี และ มีสิทธิได้ต่ออายุอีก 40 ปี เรียกได้ว่าทำกันยาวนาน ซึ่งโครงการนี้เรียกได้ว่าเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่และครบวงจร บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ ซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 51 และเปิดบางส่วนให้ใช้บริการได้แล้ว ซึ่งโครงการนี่คือ “นาคราชนคร”
นาคราชนคร เป็นโครงการอสังหาฯที่ครบวงจร ตั้งอยู่ที่เมืองห้วยแก้ว ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่4 ไม่ถึง 1 กิโลเมตร และห่างจากถนนสาย R3a ซึ่งเชื่อมระหว่างไทย-ลาว-จีนเพียง 6 กิโลเมตร มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ภายในโครงการนั้นประกอบไปด้วย โรงแรม ศูนย์โลจิสติกส์แลกเปลี่ยน และกระจายสินค้า ศูนย์รวมร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ ฟรี) ศูนย์กีฬา ศูนย์บันเทิง สถานปฏิบัติธรรม แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม เช่นเมืองโบราณ และ หวังจะเปิดธุรกิจ ไมซ์( บริการอบรมประชุมสัมมนานิทรรศการ) เน้นจุดขายคือ บริการต่างๆครบวงจร หรือ แบบ one stop service นอกจากนี้ยังจะมีศูนย์วัฒนธรรม สถานปฏิบัติธรรม แหล่งช้อปปิ้ง ที่คาดว่าจะมีสินค้าแบรนด์เนมต่างๆทั้งจากยุโรป และ เอเชีย มากว่า 4,000 แบรนด์ มาเปิดร้านจำหน่าย ซึ่งในอนาคต นาคราชนคร จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งธุรกิจที่สำคัญในภูมิภาคนี้
จากการที่มีนักลงทุนจากไทยสามารถพัฒนาโครงการระดับหมื่นล้านที่ประเทศลาวได้นั้น ถือเป็นการเริ่มต้นจุดประกายให้ ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาฯได้เล็งเห็นช่องทางที่จะมีการลงทุนข้ามชาติ เพราะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ด้านอสังหาฯของไทยก็ไม่เป็นรองใคร และ คิดว่าในอนาคตเมื่อเปิด AEC แล้วนั้น กลุ่มอสังหาฯของไทยน่าจะไปได้สวยด้วยการร่วมทุนหรือได้สัมปทานในการสร้างโครงการต่างๆในภูมิภาคนี้เหมือนที่ตระกูลสิงห์สมบุญได้ทำสำเร็จและกำลังจะก้าวต่อไปเพื่อความยิ่งใหญ่ในอนาคต
- ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ [email protected]
