ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้นเรียกได้ว่าเป็นช่วงขาลงของตลาดคอนโดเลยทีเดียวเพราะด้วยสถานการณ์โรคระบาดที่ทำให้เกิดจากกระจายตัวของผู้อยู่อาศัยที่จากเดิมมีการกระจุกตัวอยู่ในใจกลางเมืองนั้นมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น และยิ่งมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาร่วมด้วยทำให้คอนโดที่มีการสร้างเสร็จในกรุงเทพนั้นลดน้อยลง โดยมีเพียง 67 โครงการ รวม 25,113 ยูนิต เท่านั้นซึ่งเท่ากับว่าเป็นการจดทะเบียนอาคารชุดที่มีการสร้างแล้วเสร็จน้อยที่สุดในรอบ 13 ปีเลยทีเดียว

ปัจจัยที่ทำให้คอนโดมีการสร้างเสร็จน้อยลง

เรามาดูปัจจัยที่ทำให้คอนโดสร้างเสร็จน้อยลงกันดีกว่า ว่าในช่วงที่ผ่านมานั้นมีปัจจัยอะไรบ้างที่มาเปลี่ยนแปลงตลอดอสังหาฯแนวดิ่งนี้บ้าง โดยดอทได้รวบรวมมาทั้งหมด 5 ปัจจัยด้วยกัน ดังนี้

ขาดแคลนตลาดแรงงาน

หลายคนคงเคยได้ยินข่าวถึงการเกิดคลัสเตอร์โรคระบาดโควิด-19 ในเขตก่อสร้างกันอย่างแน่นอน ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้การก่อสร้างหลายแห่งต้องหยุดชะงักไปยาวนาน เพราะหลังการประกาศให้รักาาระยะห่างทำให้แรงงานหลายคนเลือกที่จะกลับบ้านด้วยสู้ค่าครองชีพไม่ไหว แต่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้วจนมีการอนุญาตให้ก่อสร้างได้อีกครั้ง แรงงานก็ไม่สามารถกลับมาได้แล้ว

การขาดแคลนแรงงานนี้ยังส่งผลกระทบไปอีกมากมายอย่างเช่น การปรับราคาขึ้นของวัสดุก่อสร้างและพรีแคส แต่ที่เกิดผลกระทบต่อตลาดคอนโดอย่างชัดเจนคือทำให้การก่อสร้างโครงการต่างๆ ล่าช้าและไม่สามารถสร้างเสร็จได้ทันตามกำหนดการเดิม

มีการพัฒนาอสังหาฯ รูปแบบคอนโดในเมืองน้อยลง

จากมาตรการการรักษาระยะห่างเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ทำให้การแออัดอยู่ในใจกลางเมืองหรือเหล่า CBD ต้องมีการเปลี่ยน ผู้คนเริ่มระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย การลงทุนหยุดชะงักโดยเฉพาะกับตลาดอสังหาฯ แนวดิ่ง ที่นักลงทุนหลายรายเริ่มหยุดการซื้อเพื่อเก็งกำไรแล้วรอดูตลาดว่าจะเคลื่อนไหวต่อไปในทิศทางใด

เมื่อตลาดมีการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาคอนโดในเมืองดูจะไม่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ทำให้ผู้พัฒนาหลายโครงการเลือกที่จะหยุดโครงการไว้ชั่วคราวตามไปด้วยเป็นการควบคุมความเสียหายไว้ชั่วคราว

กำลังซื้อของชาวต่างชาติหายไป

การระบาดของโรคที่ควบคุมได้ยากทำให้ประเทศไทยมีการปิดประเทศหลายครั้ง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดการลงทุน ชาวต่างชาติจึงเริ่มมีการตัดสินใจใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะกับชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อที่พักไว้เพื่อการท่องเที่ยวและการลงทุน ส่งผลให้ตลาดคอนโดต้องมีการปรับเปลี่ยนโดยเน้นการสร้างเพื่อลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่เองมากขึ้น และโจทย์ใหม่นี้เองทำให้ตลาดคอนโดรูปแบบเดิมต้องชะลอตัวลง

ตลาดคอนโดมีการเปลี่ยนแปลง ยังไม่เสถียรภาพ

ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า New Normal อย่างแน่นอนเพราะในช่วงแรกของการระบาดหลายคนได้มีการคาดการณ์ถึงความปกติใหม่ที่โลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนั่นรวมถึงตลาดคอนโดที่กำลังรอดูพฤติกรรมของผู้บริโภคว่าตลาดจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด พฤติกรรมและความต้องการที่มีต่อที่อยู่อาศัยจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

และในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ทำให้ตลาดคอนโดเริ่มมองเห็นรูปแบบที่ชัดเจนของการอยู่อาศัย เรียกได้ว่าเริ่มมีความเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว จึงมีการคาดการณ์จากหลายฝ่ายว่าในปี 2565 นี้สถานการณ์ของตลาดคอนโดจะดีมากขึ้นอย่างแน่นอน

มีการพัฒนาคอนโดในพื้นที่ใหม่

แม้ว่าตลาดคอนโดในเมืองจะซบเซา แต่ตลาดอสังหาฯ ในรูปแบบบ้านที่ชานเมืองกลับมาแรงทั้งบ้านเดี่ยวโครงการใหม่และบ้านมือสอง ทำให้ผู้พัฒนาเริ่มมองเห็นแล้วว่าพฤติกรรมการซื้อนั้นมีการปรับเปลี่ยนจากพื้นที่แออัดอย่างในเมืองมาเป็นพื้นที่เดินทางสะดวกของแถบชานเมืองแทนแล้ว พร้อมกับรูปแบบคอนโดที่มีราคาต่ำลงราว 1-2 ล้านกำลังมาแรง

โดยคอนโดราคาถูกที่กำลังมาแรงจะมีราคาต่อตารางเมตรต่ำกว่า 50,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเหมาะสำหรับการรักษาระยะห่าง กักตัวหรืออยู่คนเดียวอย่างมาก

ถึงแม้ว่าในปี 2564 ที่ผ่านมาตลาดคอนโดจะซบเซาลงอย่างมาก แต่ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้หลายฝ่ายล้วนคาดกาณ์กันว่าในปี 2565 นี้ตลาดอสังหาฯ จะเกิดกลับมาคึกคักมากขึ้น และแผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ยังได้คาดการณ์ถึงจำนวนการสร้างคอนโดแล้วเสร็จในกรุงเทพจะมีสูงถึง 33,569 ยูนิต โดยจะตั้งอยู่ในพื้นที่รอบนอกกรุงเทพเป็นหลัก