ช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตฮ็อตฮิตติดลมบนมาก เมื่อนักลงทุนไทย-เทศทยอยผุดวิลล่าตากอากาศระดับพรีเมี่ยมไฮเอนด์โครงการใหม่ในช่วงไล่เลี่ยกันอย่างน้อย 3 โครงการ เจาะลูกค้าระดับมหาเศรษฐีเท่านั้น ในราคาที่ไม่ธรรมดา สนนราคาหลังละ 100-600 ล้านบาท เทียบเท่า4-20 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อ หลัง เป็นสัญญาเช่าระยะยาว หรือซื้อในนามนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นโดยมีหุ้นส่วนคนไทยถือหุ้นร่วมด้วย
เริ่มจาก “เดอะ เรสซิเดนเซสบาย อนันตรา” บนเนินเขาภายในบริเวณหาดลายัน จ.ภูเก็ต ของ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มี “วิลเลียม อี. ไฮเนคกี้” นักธุรกิจไทยเชื้อสายอเมริกัน หนึ่งในมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยนั่งแท่นผู้บริหารสูงสุด คาดว่าจะเปิดตัววิลล่าตัวใหม่เดือนมิถุนายนนี้
จุดขายคือเป็นพูลวิลล่า มีทั้งหมด 15 ยูนิต ทุกยูนิตเห็นวิวทะเลที่สวยไม่แพ้โครงการไหน ขายสิทธิการเช่า 90 ปี (30+30+30 ปี) เบื้องต้นน่าจะมีราคาหลังละ 10-20 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยตกหลังละ 300-600 ล้านบาท แบบบ้านเริ่มต้นที่ 2-8 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 1.6-3 พันตารางเมตร ตอนนี้มีลูกค้านักธุรกิจต่างชาติจองสิทธิ์แล้ว 3-4 หลัง
ทางด้านญี่ปุ่นก็มาแรงไม่แพ้กัน เพราะ “คาจิม่า” กลุ่มทุนประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวบ้านพักตากอากาศหรู 30 หลัง ราคาหลังละประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 300 ล้านบาท ทำเลอยู่ใกล้โครงการเดอะ เรสซิเดนเซสฯ ของไมเนอร์กรุ๊ป แน่นอนว่าสร้างบ้านตัวอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
สำหรับความเคลื่อนไหวการลงทุนวิลล่าหรู ยังรวมถึง จ.พังงา เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่ม “ชาญอิสสระ” เจ้าของโครงการวิลล่าหรูและโรงแรมศรีพันวาภูเก็ต ประกาศแผนร่วมทุนกับ “จุนฟา เรียลเอสเตท” ผู้ประกอบการอสังหาฯจากจีนแผ่นดินใหญ่ ตั้งบริษัทร่วมทุน
“อิสสระ จุนฟา” ลงขันพัฒนาโครงการ “บาบาบีช คลับ” จ.พังงา บนที่ดิน 45 ไร่ ประกอบด้วย บีชวิลล่า บีชคลับ และพูลวิลล่าอีกไม่ต่ำกว่า 60 หลัง ราคาหลังละประมาณ 60 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 3 พันล้านบาท รองรับเศรษฐีและนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ โดยเฉพาะชาวจีนที่ท่องเที่ยวนอกประเทศปีละ 100 ล้านคน
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
