ทองหล่อ ทำเลทองที่พร้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ รองรับทุกการอยู่อาศัย
พื้นที่ทองหล่อเป็นทำเลที่มีความร้อนแรงตั้งแต่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนมาถึงการแพร่ระบาดครั้งที่ 3 ของประเทศไทยในปี 2564 ที่ทำให้รัฐบาลไทยต้องประกาศมาตรการปิดประเทศ แต่ความแข็งแกร่งของชื่อเสียงในพื้นที่ทองหล่อที่เป็นดั่งทำเลทองก็ยังไม่เคยเสื่อมคลาย ถึงแม้ว่าสถานบันเทิงต่าง ๆ ที่ทำให้ทองหล่อมีชีวิตชีวาต้องปิดบริการ แต่ในไม่ช้าเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายทองหล่อจะกลับมาเป็นทำเลที่ทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยต้องการครอบครองมากที่สุดเช่นเดิม
หากถามว่าพื้นที่ทองหล่อยังคงเป็นพื้นที่ที่น่าลงทุนหรือย้ายเข้ามาอยู่อาศัยหรือไม่ ต้องตอบว่าทองหล่อยังคงเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยและคุ้มค่าแก่การลงทุน ด้วยในอนาคตอันใกล้นี้ทองหล่อจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสนใจ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง และการอยู่อาศัยในพื้นที่ทองหล่อควรจะเป็นอย่างไร ร่วมตัดสินใจได้จากข้อมูลต่อไปนี้
ลักษณะเฉพาะตัวที่ทำให้พื้นที่ทองหล่อมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ทองหล่อ หรือซอยสุขุมวิท 55 มีพื้นฐานของที่อยู่อาศัยแนวราบแบบชุมชนดั้งเดิมมาก่อน เมื่อความเจริญที่ล้นมาจากทางอโศกเข้าสู่ทองหล่อทำให้เริ่มมีธุรกิจเข้ามาเปิดตัวในพื้นที่หนาแน่นขึ้น โดยเฉพาะสถานบันเทิง แหล่งท่องเที่ยวทั้งกลางวันและกลางคืน รวมถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ทำให้ทองหล่อเป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์พิเศษไม่เหมือนใคร ด้วยความมีสีสันมากมาย ด้วยความหลากหลายอาชีพ และวัฒนธรรมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาพักผ่อนในย่านนี้ โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น ทองหล่อจึงกลายเป็นย่านที่มีบรรยากาศคล้ายกับโตเกียว โดยธุรกิจต่าง ๆ ก็ตอบรับไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ทองหล่อจึงมีร้านอาหารญี่ปุ่น เซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์สำหรับชาวญี่ปุ่น และโรงพยาบาลที่มีล่ามสำหรับชาวญี่ปุ่น
และด้วยลักษณะของถนนทองหล่อที่มีฟุตบาทค่อนข้างใหญ่ทั้งสองฝั่งถนน จึงเหมาะที่ไลฟ์สไตล์ในย่านนี้จะเป็นแหล่งที่สามารถเดินเที่ยวเล่นได้ อีกทั้งชาวญี่ปุ่นเองก็นิยมชมชอบการเดินไปยังสถานที่ต่าง ๆ ดังนั้นตลอดสองข้างทางของถนนทองหล่อจึงมากมายด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ที่อยู่อาศัย และสถานบันเทิง อีกทั้งถนนทองหล่อยังมีความกว้างเป็นถนนแบบ 4 เลน ซึ่งตั้งแต่ถนนสุขุมวิทช่วงต้นซอยมาจนถึงทองหล่อจะค่อนข้างหายาก บรรยากาศถนนทองหล่อจึงมีความโปร่งสบาย สามารถระบายรถได้ดีกว่าถนนสุขุมวิทซอยอื่น ๆ โดยถนนทองหล่อตลอดทั้งเส้นจะสามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนดังต่อไปนี้
- ช่วงต้นซอย ต้องเรียกว่าที่ดินมีค่าดั่งทองคำ เพราะทองหล่อช่วงต้นซอยจะเป็นทำเลที่ดีที่สุด โซนนี้จะเป็นที่ตั้งของโรงแรมระดับ 5 ดาว คอนโดมิเนียมหรูที่มีความสูงตั้งแต่ 30 ชั้นขึ้นไป โดยบริเวณทองหล่อซอย 6 จะพบคอนโดมิเนียมความสูง 36 ชั้น และบริเวณทองหล่อซอย 10 จะพบอีกหนึ่งคอนโดมิเนียมความสูง 30 ชั้น และนอกจากนี้จุดที่สำคัญคือช่วงปากซอยสุขุมวิท 55 จะติดกับรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ
- ช่วงกลางซอย คือศูนย์กลางของทองหล่อที่มีการรวมตัวของร้านอาหาร แหล่งไลฟ์สไตล์ ร้านค้า และสถานบันเทิงอีกมากมาย เปรียบได้ดั่งหัวใจของทองหล่อที่มีความคึกคักตลอด 24 ชั่วโมง
- ช่วงท้ายซอย คือโซนที่มีความเป็นส่วนตัว บรรยากาศค่อนข้างสงบ เป็นศูนย์รวมของสถานเสริมความงามและโชว์รูมต่าง ๆ หากเลยจากโซนนี้ไปเล็กน้อยจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชุมชมดั้งเดิม ซึ่งโซนท้ายซอยนี้เป็นโซนที่สามารถใช้รถใช้ถนนได้อย่างสะดวก เป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปสู่ถนนเพชรบุรี
การเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่แม้แต่โควิดก็ทำอะไรทองหล่อไม่ได้
ในอนาคตอันใกล้นี้พื้นที่ทองหล่อจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้ทองหล่อมีความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน นั่นคือการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเทา ซึ่งหากพูดให้เห็นภาพง่าย ๆ คือเมื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทานี้สร้างเสร็จ จะมีเส้นทางที่พาดผ่านซอยทองหล่อทั้งซอย นำมาซึ่งความสะดวกสบายและความเจริญอีกมากมาย เราจึงควรมาทำความรู้จักกับรถไฟฟ้าสายสีเทากันสักนิดดังนี้
- รถไฟฟ้าสายสีเทา คือโครงการรถไฟฟ้ารางเดียวโมโนเรลสายสีเทา (Monorail) โดยจะเริ่มโครงการนำร่องเส้นทางวัชรพล-ทองหล่อ ซึ่งโครงการนำร่องนี้มีการคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในปี 2573 (อัปเดตข้อมูลวันที่ 18 มีนาคม 2565)
- เส้นทาง โครงการนำร่องวัชรพล-ทองหล่อนี้ มีชื่อเรียกว่า “สายสีเทาส่วนเหนือ” มีจำนวนทั้งหมด 15 สถานี ระยะทาง 16.3 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทั้งขาไปและกลับรวมประมาณ 60 นาที เริ่มต้นเส้นทางที่แยกต่างระดับรามอินทรา บริเวณจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีวัชรพล จากนั้นจะมุ่งหน้าถนนประดิษฐ์มนูธรรมเข้าสู่ถนนสุคนธสวัสดิ์ ผ่านถนนพระราม 9 และเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเพชรบุรี จากนั้นจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อ หรือถนนสุขุมวิท 55 โซนท้ายซอย มุ่งหน้ามาทางปากซอยฝั่งสุขุมวิท และสิ้นสุดโครงการบริเวณรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ
จากเส้นทางดังที่ได้กล่าวมานี้ จะเห็นได้ว่ารถไฟฟ้าสายสีเทานำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ถนนทองหล่อในอนาคตอย่างแน่นอน และโครงการนี้ยังไม่สิ้นสุดอยู่เพียงแค่โครงการนำร่องนี้เท่านั้น เพราะต่อจากสถานีทองหล่อแล้วโครงการนี้จะมีจุดหมายปลายทางต่อไปที่ถนนพระราม 3 และจากถนนพระราม 3 จะไปสิ้นสุดโครงการทั้งหมดที่แยกท่าพระ เท่ากับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาจะมีเส้นทางตั้งแต่วัชรพล-ท่าพระเลยทีเดียว
ความสะดวกสบายในการเดินทางเมื่ออาศัยอยู่ในย่านทองหล่อ
นอกจากถนนทองหล่อจะมีรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อที่คอยอำนวยความสะดวกในการเดินทางแล้ว ภายในซอยทองหล่อเองก็มีเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อไปสู่พื้นที่รอบนอกอีกมากมายดังนี้
- จากฝั่งปากซอยสุขุมวิท 55 เชื่อมต่อย่านพร้อมพงษ์ซอยสุขุมวิท 24
- จากฝั่งท้ายซอยเชื่อมต่อถนนเพชรบุรี สามารถใช้เดินทางไปสู่ถนนรัชดาภิเษก และพระราม 9
- จากฝั่งท้ายซอยเชื่อมต่อถนนเพชรบุรี สามารถใช้เดินทางไปสู่ถนนพัฒนาการ และถนนรามคำแหง
- จากฝั่งท้ายซอยเชื่อมต่อถนนเพชรบุรีขึ้นทางพิเศษศรีรัช เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 7 มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ ใช้สำหรับเดินทางออกมาสู่จังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง
- จากซอยทองหล่อ 19 สามารถใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปสู่ถนนอโศกมนตรี ออกทางซอยสวัสดี
- จากซอยทองหล่อ 10 สามารถใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปสู่ถนนเอกมัย ออกทางเอกมัยซอย 5
พื้นที่ทองหล่อศูนย์กลางแหล่งอำนวยความสะดวกและสถานที่สำคัญ
ภายในถนนทองหล่อมีความอุดมสมบูรณ์ด้านแหล่งอำนวยความสะดวกสูง ซึ่งไม่เพียงสถานบันเทิงยามค่ำคืนเท่านั้น แต่ในกลางวันทองหล่อก็เต็มไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์และร้านอาหารอีกมากมาย สำหรับการพักผ่อนแบบเป็นครอบครัว อีกทั้งยังมีสถานที่สำคัญที่สามารถใช้ชีวิตครบ จบภายในซอยทองหล่อได้เลย โดยทองหล่อแวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญดังต่อไปนี้
สถานศึกษา
- โรงเรียนนานาชาติเอกมัย
- โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ
- โรงเรียนอนุบาลนานาชาติดิเออร์ลี่เลินนิ่งเซนเตอร์
ไลฟ์สไตล์
- เจ อเวนิว
- เดอะ คอมมอนส์
- 72 คอร์ทยาร์ด
- 935 คอมมูนิตี้มอลล์
- เอท ทองหล่อ
- เกตเวย์ เอกมัย
- เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เอกมัย
สถานพยาบาล
- โรงพยาบาลสมิติเวช (มีล่ามภาษาญี่ปุ่นสำหรับรองรับชาวญี่ปุ่น)
- โรงพยาบาลสุขุมวิท
- โรงพยาบาลกรุงเทพ
ลักษณะที่อยู่อาศัยในย่านทองหล่อ
เนื่องจากทองหล่อเป็นพื้นที่ที่มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่ค่อนข้างมาก จึงทำให้ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่คอนโดมิเนียม และด้วยราคาที่ดินย่านทองหล่อที่มีราคาสูง คอนโดมิเนียมที่อยู่ในพื้นที่นี้จึงมีราคาสูงตามไปด้วย ซึ่งส่วนใหญ่สำหรับใช้รองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจชาวต่างชาติ โดยรูปแบบห้องที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือห้องขนาด 2 ห้องนอน และ 2 ห้องน้ำ เพราะการเข้าอยู่อาศัยของชาวต่างชาตินิยมมากันแบบเป็นครอบครัว รองลงมาคือห้องขนาด 1 ห้องนอน และ 1 ห้องน้ำ
สำหรับคนไทยที่ต้องการย้ายไปอยู่อาศัยในย่านทองหล่อ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสภาพคล่องทางการเงินสูง โดยเฉพาะหากเลือกอยู่ในโซนต้นซอย แต่ถ้าหากขยับมาทางโซนกลางซอยไปจนถึงท้ายซอย ราคาจะต่างจากต้นซอยเกือบเท่าตัว โดยยกตัวอย่างจากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ในปี 2562 ที่อยู่อาศัยช่วงกลางซอยที่มีคนไทยเข้าอยู่อาศัยมากที่สุดขายอยู่ที่ 5 ล้านบาท/ยูนิต เมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยช่วงต้นซอยมีราคาขายอยู่ที่ 10-12 ล้านบาท/ยูนิตเลยทีเดียว
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าทำเลทองหล่อเป็นทำเลที่มีความแข็งแกร่งที่แม้แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ไม่อาจทำให้ราคาที่ดินของทองหล่อลดลงมาได้ อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจของทองหล่อ ที่ถึงแม้จะมีการปิดสถานบันเทิงมายาวนาน แต่ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป จะมีมาตรการผ่อนปรนจากภาครัฐบาลออกมาสำหรับสถานบันเทิง พื้นที่ทองหล่อก็จะกลับมาคึกคักและสร้างสีสันได้เหมือนเดิม และสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่ดินย่านทองหล่อสำหรับการลงทุนเพื่อการปล่อยเช่า ควรเร่งลงมือทำเสียแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่รถไฟฟ้าสายสีเทาจะสร้างเสร็จ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นทองหล่ออาจจะมีราคาที่ดินที่สูงกว่าทองคำอีกหลายเท่าตัวก็เป็นได้