ทุนจีนปะทะเดือดทุนอังกฤษ! ยึด ทำเลทอง หาดนาจอมเทียน-พัทยา ผุดคอนโดฯหรูชิงลูกค้า พบเอกชนไทย-เทศผุดคอนโดฯ ประชันกว่า 10 โครงการ…’เศรษฐีวรรณ’ ผุดอพาร์ตเมนต์หรู 34 ชั้น
ทำเลทอง จอมเทียน ทุนนอกแห่แย่งซื้อ
‘ศรีราชา’ ดูดนักลงทุนแดนซามูไร … ทุนญี่ปุ่นผุดอพาร์ตเมนต์ริมอ่าวอุดม ทำที่พักตากอากาศ จากการที่ “ฐานเศรษฐกิจ” สำรวจทำเลยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจีน บริเวณหาดนาจอมเทียน-พัทยา หลังจากพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีผลบังคับใช้
พบมีการเปิดขายคอนโดมิเนียมแข่งขันกันกว่า 10 โครงการ ของผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติ ที่โดดเด่นพบว่า โครงการเดอะนัมเบอร์วันจอมเทียน-พัทยา ของบริษัท อามิโก ฮอลิเดย์ จำกัด ซึ่งมีนายโรนัล จาง ตั๊ก เสง กรรมการชาวไต้หวัน ที่ประกาศว่า โครงการแห่งนี้จะเป็นที่หนึ่งของจอมเทียน-พัทยา ตามชื่อที่ตั้งไว้ โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวจีน
ขณะเดียวกัน ลูกค้ายุโรปและคนไทยต่างสนใจไม่แพ้กัน เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ทำเลไข่แดง กึ่งกลางหาดจอมเทียน ทำให้เห็นวิวชัดเจน ถัดมาในละแวกเดียวกัน พบว่า มีโครงการคอนโดมิเนียมของนักลงทุนชาวอังกฤษ ชื่อ นายวินตัน เกล เจ้าของบริษัท ริเวียร่า ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
โดยนางสุกัญญา เกล ภรรยาของนายวินตัน กล่าวว่า ซื้อที่ดินเพื่อพัฒนา 3 โครงการ ปัจจุบัน เปิดขายแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเดอะริเวียร่า จอมเทียน รวมกว่า 1,000 หน่วย ตั้งอยู่บนถนนจอมเทียน 2 เนื้อที่ 6 ไร่ ห่างจากชายหาด 300 เมตร ซึ่งปัจจุบันขายแล้ว 800 หน่วย
มีลูกค้าหลากหลาย ทั้งจีน ไทย อังกฤษ และประเทศในแถบยุโรป ที่ชอบพัทยา อีกโครงการที่วงศ์อมาตย์ ซึ่งเจ้าของโครงการระบุว่า ยอดขายไปได้ดี เนื่องจากมีลูกค้าในมือ ส่วนอีกแปลงอยู่ระหว่างปรับที่ดิน ซึ่งห่างจากชายหาดจอมเทียน กม.1 ประมาณ 100 เมตร พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเช่นกัน
สำหรับการขายคอนโดมิเนียมในพื้นที่พัทยา การแข่งขันสูงเช่นกัน ขณะเดียวกัน นักลงทุนแต่ละกลุ่มต่างใช้ชาวต่างชาติดูดกำลังซื้อ รวมทั้งบริษัทพัฒนาที่ดินของไทยด้วย เช่น บริษัท เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดขายโครงการรีเฟล็คชัน บีชจอมเทียน พบว่า ค่อนข้างมีลูกค้าสนใจ
เช่นเดียวกับ บมจ.แอล.พี.เอ็น. ซึ่งเปิดขาย 2 โครงการ ลุมพินีพาร์ค บีช รวมกว่า 1,000 หน่วย ต่างอ้าแขนรับต่างชาติแทบทั้งสิ้น ซึ่งพนักงานขายในพื้นที่ยอมรับว่า ต้องเน้นลูกค้าคนจีนและยุโรป เนื่องจากมีกำลังซื้อ แต่จีนจะมากกว่า
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา ริมหาดจอมเทียนมีเพียงอาคารพาณิชย์เท่านั้น ที่เปิดให้บริการห้องพักและร้านค้าสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ปัจจุบัน กลับกลายเป็นโรงแรมและคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ขึ้นเต็มพื้นที่ สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น ขณะเดียวกัน คนในพื้นที่เดิมต่างต้องขอขยับออกไปอยู่นอกพื้นที่ ขณะที่ ราคาขยับแรง ไม่ต่ำกว่าตารางวาละเฉียดล้านบาท
ขณะที่ อ.ศรีราชา โฟกัสทำเลบริเวณห้างโรบินสันศรีราชา พบว่า เป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวญี่ปุ่น ซึ่งทำงานในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เหมราช และปิ่นทองจำนวนมาก ส่งผลให้บรรยากาศไม่ต่างกับโอซากาของญี่ปุ่น ตามการเรียกขาย ไม่ห่างกันมากพบโครงการเศรษฐีวรรณ ศรีราชา อยู่ระหว่างก่อสร้าง
สอบถาม นายพงษ์ชัย เศรษฐีวรรณ ประธานกรรมการ บริษัท เศรษฐีวรรณ จำกัด ระบุว่า ได้ขยายการลงทุนที่ จ.ชลบุรี ล่าสุด อยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการเศรษฐีวรรณ ศรีราชา ซึ่งเป็นอพาร์ตเมนต์ให้เช่า บนเนื้อที่ 3 ไร่ครึ่ง รวมกว่า 200 หน่วย ใช้งบลงทุน 1.6 พันล้านบาท พร้อมเปิดให้บริการปลายปี 2561
คาดว่าจะได้ค่าเช่า 15 ล้านบาทต่อเดือน เนื่องจากศรีราชามีชาวญี่ปุ่นมากกว่า 1 หมื่นคน อาศัยอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจที่เข้ามาลงทุนและทำงานในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC โดยโครงการดังกล่าวจะรองรับประชากรญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ ด้วย “ไม่ได้รองรับแค่ชาวญี่ปุ่น แต่ยังรองรับชาวต่างชาติอื่นด้วย เพราะราคา 500-600 บาทต่อตารางเมตร ถือเป็นราคาที่สูง” โดย แหล่งข่าวจากเทศบาลศรีราชา กล่าวว่า ทำเลศรีราชา ยอมรับว่า มีชาวญี่ปุ่นเข้ามาอยู่อาศัยค่อนข้างมาก เนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง
ปิ่นทอง และเหมราช อย่างไรก็ดี ล่าสุด มีนักลงทุนจากกรุงเทพฯ เข้ามาพัฒนาพื้นที่จำนวนมาก นับตั้งแต่ปี 2557 จนปัจจุบัน กว่า 10 โครงการ ซึ่งมีทั้งโรงแรมและคอนโดมิเนียม ส่วนราคาที่ดินบอกขายตารางวาละ 3 แสนบา
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยา มีอุปทานสะสม 78,424 หน่วย อัตราการขาย 81% และพื้นที่ศรีราชามีอุปทานสะสม 11,180 หน่วย มีอัตราการขาย 70%
ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เราหามาเสริฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก …