มีการเปิดเผยข้อมูลจาก นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ เกี่ยวกับแผนดำเนินงานในปี 57 หลังปัญหาการเมืองเริ่มสงบนิ่งว่า แผนการยังคงเหมือนเดิมคือเน้นการสร้างโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง ซึ่งเน้นพื้นที่ในบริเวณใกล้รถไฟฟ้า BTS และ MRT เพื่อการเดินทางที่สะดวกของผู้ที่ซื้อโครงการ และ ยังมองถึงพื้นที่แนวถนนตัดใหม่เพื่อขยายโครงการให้กระจายออกไปในหลายๆทำเล
ส่วนโครงการแนวราบนั้นก็จะมีการทำโครงการทั้งบ้านเดี่ยว และ ทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งตอนนี้นั้นยังเล็งทำเลในพื้นที่ รังสิต-พหลโยธิน ซึ่งมีที่ดินในมืออยู่แล้ว และ มีศักยภาพมากพอที่จะพัฒนาเป็นโครงการคุณภาพได้ และ กำลังซื้อของคนกรุงเองก็ยังเลือกทำเลในบริเวณนี้ในการอยู่อาศัย ถึงจะไกลจากแหล่งธุรกิจ แต่ด้วยการเดินทางที่สะดวกขึ้น มีถนนตัดใหม่ มีทางด่วน และ ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้ามาในบริเวณใกล้เคียง ทำให้พื้นที่ในบริเวณนี้มีความน่าสนใจ และ ยอดขายที่ตั้งเป้าไว้อยู่ที่ 3,000-3,200 ล้านบาทในปีนี้นั้นก็คาดว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้า เพราะภายในองค์กรมีการปรับโครงสร้างใหม่ ซึ่งทำให้มีการวางแผนงาน และ กลยุทธ์ต่างๆ สำหรับรับมือการกับเปิดโครงการและคาดว่าน่าจะทำได้ตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งแผนการพัฒนาโครงการใหม่ๆของบริษัทนั้น แน่นอนว่าต้องเน้นในบริเวณที่การเดินทางสะดวก คล่องตัว อย่างที่กล่าวไว้คือ เล็งทำเล แนวรถไฟฟ้า ถนนตัดใหม่ ซึ่งหลังจากการเมืองสงบนิ่งคาดว่าภาค อสังหาฯก็จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น การพัฒนาโครงการต่างของภาครัฐที่หยุดชะงักไป ก็น่าจะกลับมาพิจารณาปัดฝุ่นกันใหม่ ซึ่งการพัฒนาโครงการต่างๆของภาครัฐนั้นก็จะส่งผลต่อแนวโน้มการพัฒนาโครงการต่างๆของผู้ประกอบการ อสังหาฯด้วย
เช่นการขยายแนวรถไฟฟ้า การขยายเส้นทางการเดินทางตัดถนนใหม่ต่างๆ น่าจะมีการหยิบยกขึ้นมาทำใหม่ ซึ่งผู้ประกอบการหลายๆรายรวมทั้งบริษัทเองก็เล็งทำเลเหล่านี้อยู่เพราะหากมีโครงการภาครัฐเข้าไปในพื้นที่ไหน ก็ต้องมีการตัดถนน และ ทำให้ที่ดินในบริเวณนั้นมีความน่าสนใจและมีการกว้านซื้อเพื่อเก็บไว้พัฒนาต่อยอดในอนาคต ส่วนความคืบหน้าของโครงการที่บริษัทกำลังเปิดโครงการ และ โครงการเก่าที่จะพัฒนาใหม่นั้น หลังจากปรับโครงสร้างองค์กรแล้วนั้น ก็มีการพิจารณาแนวโน้มโครงการต่างๆที่จะสามารถทำยอดขายได้และมีการก่อสร้างโครงการที่กำลังทำอยู่ผลักดันให้เสร็จตามเป้าหมายอย่างโครงการ “KRIS รัชดา 17” ก็คืบหน้าไปมากเช่นกัน ส่วนแนวโน้มการซื้อที่ดินนั้นมีแน่นอนเพราะต้องการขยายโครงการให้กระจายตัวออกไปมากขึ้น และ พร้อมๆกับนำที่ดินในมือมาพัฒนาต่อยอดด้วยเช่นกัน
- ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ PR@Thailand-Property.com