สวัสดีค่ะ ณ เวลานี้ คนไหนที่มี ที่ดิน แนวรถไฟฟ้า คงยิ้มแก้มปริกันสุดๆใช่ไหมละค่ะ เพราะตอนนี้ราคากำลัง พุ่ง 6-25% เลยที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นทำเล แบริ่ง ประชาอุทิศ หรือ บางบัว รัชดาฯ-ลาดพร้าว รวมไปถึง ย่านแจ้งวัฒนะ ที่ตอนนี้แต่ละทำเล มีเหล่า คอนโด กำลังเตรียมสร้างและเปิดตัวกันอย่างมากมาย
สาเหตุเกิดมาจาก การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินของกรุงเทพฯ 3 โซน ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพฯชั้นในหรือย่านซีบีดี ที่ในปัจจุบันนี้ เปลี่ยนแปลงไปแล้ว 10% ด้านฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนคร เปลี่ยนแปลง 6.5-7% และสุดท้าย ชั้นนอกเปลี่ยนแปลง 4-5.5% ทำให้ขนาดนี้ภาพรวมราคาที่ดินปรับเพิ่ม 5.3%
สาเหตุที่ทำให้ราคา ที่ดิน ปรับตัวสุงขึ้น
ถ้าเราลองมองเจาะลึกดูแล้วนั้น สาเหตุมาจาก ที่ดินทำเลแนวรถไฟฟ้านั้น ตอนนี้กำลังมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยปัจจัยสำคัญมาจาก กลุ่มผู้บริโภคมีความสนใจซื้อคอนโดฯแนวรถไฟฟ้ามากขึ้นเป็นลำดับทั้งอยู่เองและเก็งกำไร เพราะ
เรื่องการเดินทางที่สะดวกสบายจาก โครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ที่อนาคตเมื่อเสร็จจะสามารถเชื่อมต่อกันแทบทุกสายเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว จึงไม่แปลกที่เหล่า ดีเวลลอปเปอร์ จะให้ความสนใจที่ดิน อีกทั้งตอนนี้ โครงการรถไฟฟ้าก็กำลังเตรียมทยอยเปิดให้บริการภายในปี 2562-2567 ดังนั้นยิ่งทำให้เหล่า ดีเวลลอปเปอร์ เดินหน้าล่าซื้อที่ดินแนวรถไฟฟ้านี้กันมากยิ่งขึ้น เพื่อจะได้ทำการสร้างโครงการมากยิ่งขึ้น ทำให้ราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นกว่าทำเลอื่น ๆ ตั้งแต่ 6-25%
โดยในปี 60 ที่ผ่านมานั้น ที่ดินแนวรถไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น 3 อันดับแรก สถิติเป็นของสายสีเขียวในส่วน ต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง เพิ่มถึง 25% อันดับที่2 เป็นของรถไฟฟ้าสายเดิม MRT บางซื่อ-หัวลำโพง เพิ่ม 19% ส่วนอันดับ 3 ใกล้เคียงกันระหว่างสายสีเขียวต่อขยายตากสิน-บางหว้า กับสายใหม่ที่กำลังก่อสร้าง สีน้ำเงินหัวลำโพง-บางแค บวกลบ 15%”
เจ้าของที่ดินยิ้ม เหล่าดีเวลลอปเปอร์เซ็ง คนรายได้น้อยซวย
สืบเนื่องมาจากเหล่า ผู้บริโภคมีความต้องการที่อยู่อาศัยในแนวรถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น ทำให้เหล่า ดีเวลลอปเปอร์ ต้องทำงานหนักในการหาที่ดินเพื่อทำการ สร้างที่อยู่อาศัยทำให้ ณ.เวลานี้ ดีเวลอปเปอร์กำลังเผชิญหน้า 2 เรื่องสำคัญ 1.ต้นทุนที่ดินแพงขึ้น มีผลต่อราคาขายอสังหาฯ และ 2.ผู้บริโภทที่มีกำลังซื้อหรือตลาดกลาง-ล่างมีจำกัด ส่วนทางกับสถานีรถไฟฟ้า 80 สถานี กำลังจะเพิ่มเป็น 300 สถานี
ซึ่งหมายความว่า ในอนาคต จะมีทำเลที่ดินแพงเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า โดยไม่มีใครรู้ว่ากำลังซื้อเพิ่มขึ้นตามกันทันกับราคาที่ดินหรือไม่นั้นเอง ดังนั้นจึงทำให้่เหล่าดีเวลลอปเปอร์เน้นออกแบบใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด และราคาที่ดินอาจจะอยู่ที่ ตารางเมตรละ 1-2.6 แสนบาทและถ้าในอนาคตดีเวลอปเปอร์ยังทำการซื้อราคาตารางวาละ 3-4-5 ล้านไปเรื่อย ๆ ต้นทุนก็จะลำบากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ที่ดิน ในเขตเมืองชั้นใน อาจจะดีดตัวจนถึงที่ดินวาละ 2 ล้าน
นั้นก็เท่ากับว่า ราคาคอนโดฯในอนาคตจะอยู่ที่ ตารางเมตรละ 2 แสนปลาย-3 แสน คนทั่วไปรายได้ไม่เยอะอาจะต้องเช่าต่อไปหรือ ออกไปอยู่ไกลจากตัวเมืองสาเหตุก็มาจากที่กำลังซื้อไม่ถึงนั้นเอง
จากที่เราได้ลองวิเคราะห์ ดูแล้วนั้นก็เท่ากับว่าในอนาคตนั้นคนมีที่ดินแถวแนวรถไฟฟ้าคงจะดีใจกัน ทั่วหน้า ส่วน ดีเวลลอปเปอร์ ถึงแม้ว่าจะออกมาบ่นๆกันไปแต่สุดท้ายแล้วเราก็เชื่อว่ายังไงก็คงต้องหาซื้อที่ดินเพื่อมาสร้างที่อยู่อาศัยกันอยู่ดี
เพราะว่าตอนนี้ตลาดอสังหาโดยเฉพาะแนว ลักซูรี่ย์ กำลังมาแรง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม่เหล่า ดีเวลลอปเปอร์ จึงออกมากังวนกันเพราะกลัวว่าอาจจะฟันกำไรได้ไม่สะใจนั้นเอง ดังนั้นกลุ่มที่โดนผลกระทบแห่งความซวยไปเต็มๆจึงตกไปเป็นของผู้บริโภคแบบคนชนชั้นกลางไปจนถึงชนชั้นล่างที่อาจจะต้องเช่าอยู่ต่อไปอย่างไม่มีทางเลือกนั้นเอง
