ธอส. ชี้ มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองบ้านเหลือ 0.01% นั้นเป็นมาตรการที่ดีมากเพราะผู้มีรายได้น้อยที่กู้ซื้อบ้าน
ธอส. ชี้ รัฐมาถูกทางแล้ว ลดค่าโอน-จำนองบ้าน ส่วนทางภาค เอกชน
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่าหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการลดภาระค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนสิทธิ์และนิติกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางราคาซื้อขายไม่เกิน1ล้านบาทวงเงินจำนองไม่เกิน 1 ล้านบาท นั้นถือว่าส่งผลดีต่อผู้ที่ยื่นกู้ซื้อบ้านในโครงการบ้านล้านหลังของธอส.เป็นอย่างมากอีกทั้งจะช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองถึง 20,000 บาท “มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองบ้านเหลือ 0.01% นั้นเป็นมาตรการที่ดีมากเพราะผู้มีรายได้น้อยที่กู้ซื้อบ้านสามารถนำเงินที่แต่เดิมต้องจ่ายในการโอนและจดจำนองบ้านในอัตราถึง1-2%สามารถนำเงินส่วนนี้ไปผ่อนเป็นค่าเช่าบ้านรายเดือนซึ่งจะต้องผ่อนประมาณ 3,800 บาทต่อเดือนได้ถึง 5 เดือนอย่างสบายๆ”
สำหรับโครงการบ้านล้านหลังที่เปิดให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยมายื่นกู้ล่าสุดธอส.อนุมัติเงินกู้แล้ว 5,000 ราย วงเงินกู้ 3,500 ล้านบาท ส่วนผู้ขอยื่นกู้ที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีความพร้อมจะกู้ซื้อบ้านหรือไม่โดยธอส.จะรีบตรวจสอบและเร่งอนุมัติเงินกู้ให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ค.นี้ และจะเปิดลงทะเบียนระยะที่ 2 ในเดือนก.ย.นี้
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ามาตรการนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ภาครัฐสนับสนุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยมีโอกาสมีบ้านแต่คงไม่ได้ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯในภาพรวมได้ไม่มากโดยในส่วนของการกำหนดหลักเกณฑ์มูลค่าที่อยู่อาศัยที่จะได้สิทธิ์ต้องไม่เกิน 1 ล้านบาท นั้นส่วนตัวมองว่าถ้าจะให้เห็นผลช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯควรตั้งเกณฑ์ราคาอยู่ในช่วง 2-2.5 ล้านบาท ซึ่งหากมองจริงๆแล้วที่อยู่อาศัยที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ในเขตกรุงเทพฯมีน้อยมากรวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการในปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีใครพัฒนาโครงการออกมาเนื่องด้วยจากแบกรับต้นทุนไม่ไหวทั้งค่าที่ดินและค่าก่อสร้าง
ด้าน นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ามาตรการนี้ถือเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคที่กำลังมองหาซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยกลุ่มเป้าหมายของมาตรการนี้เป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าแน่นอนการเลือกหาที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับตนเองคงไม่ใช่เรื่องยากแต่เรื่องที่ยากคือการขออนุมัติสินเชื่อบ้านจากทางธนาคาร เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้จะไม่มีหลักฐานแสดงรายได้ที่ชัดเจนทำให้ยากต่อการขอสินเชื่อซึ่งจุดนี้ก็อยากให้ภาครัฐหันมาให้ความสำคัญเรื่องนี้ด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
เจาะสาเหตุทำไมคอนโดย่านบางนาถึงมาแรง แซงทุกโค้ง ปรับขึ้นสูง 44%
เงินเดือนเริ่มต้น แต่ อยากได้บ้าน ราคาเกิน3ล้านทำไงดี