คำแนะนำหากต้องการมากู้ซื้อบ้าน – กู้เงินซื้อคอนโด ลูกค้ารายย่อยถ้าเตรียมตัวมากู้อยากให้เดินสเตตเมนต์สัก 6 เดือนก่อนมากู้ ดูวงเงินเหมาะสมขนาดไหนในการกู้ ดอกเบี้ยดูฟิกซ์ 3 ปีให้ก่อนรองรับการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต เพราะเป็นกฎของแบงก์ชาติด้วย
“ถ้ารีไฟแนนซ์ภายใน 3 ปีมีค่าปรับได้ แต่หลังจากนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย เราก็ให้คำแนะนำว่าถ้าดอกเบี้ยจะขึ้น เราบอกลูกค้าทำฟิกซ์เรตก่อนดีกว่าไหม สัก 1% ที่คำนวณให้เงินงวดผ่อนเท่าเดิม หรือผ่อนเร็วขึ้นเพราะกำหนดไว้เผื่อแล้ว อีกเรื่องคือการซื้อประกันความเสี่ยงสินเชื่อ มองว่าเป็นทางเลือกในการช่วยลูกค้าได้
สำหรับ KK ดูเหมือนจะมีเรื่องใหม่เกิดขึ้น “ภัทรพงศ์” กล่าวว่า เริ่มทำสินเชื่อรายย่อยหรือโพสต์ไฟแนนซ์ เซตอัพทีมเป็นรูปเป็นร่างเมื่อปลายปีที่แล้ว พนักงาน 100 คน
“การต่อสู้กับแบงก์ใหญ่ เราไม่สู้กับ ธอส.-ออมสิน ในแง่ผลิตภัณฑ์กับนโยบายสินเชื่อไม่ได้แตกต่างกันมาก อยู่ที่การบริหารความเสี่ยงของแต่ละธนาคาร จะเจอว่ามีเราไม่ปล่อยแบงก์อื่นปล่อย แบงก์อื่นไม่ปล่อยแต่เราปล่อย”
จุดเน้น คือ ขั้นแรกดูวัตถุประสงค์การซื้อบ้าน เช่น ซื้อเพื่ออยู่เอง ไม่ใช่หลังที่ 4-5-6 น้ำหนักชัดเจนแล้ว ยังไม่ได้ใช้สกอริ่ง ใช้แค่ดึงเครดิตบูโรมาดู เตรียมพัฒนาเอสสกอร์
ขั้น 2 ดูประวัติและความตั้งใจการผ่อนชำระ จากนั้นดูความสามารถในการผ่อนชำระ กลุ่มเป้าหมายโพสต์ไฟแนนซ์ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าต้องกี่ล้านขึ้นไป แต่เท่าที่ทำมาเกือบ 1 ปีภาพรวมปล่อยสินเชื่อ 2-3 ล้านบาท จนถึงรายละ 20-30 ล้านบาท สินเชื่อเฉลี่ย 4-5 ล้านบาท ขณะที่เงินกู้ 1 ล้านกว่ายังไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่
สำหรับข้อแนะนำลูกค้า มองว่าตลาดตอนนี้เป็นทางเลือกลูกค้าและโครงการ สิ่งแรกเลยอยากให้ทำความเข้าใจนโยบายสินเชื่อและผลิตภัณฑ์ของแต่ละธนาคาร คุยแป๊บเดียวจะรู้เลยว่าสามารถยื่นกู้ที่ไหน (แบงก์ไหน) ได้ง่ายกว่า สะดวกกว่า เพราะมีความแตกต่างของแต่ละสถาบันการเงิน
ลูกค้าตอนนี้ส่วนใหญ่ดูแค่เฉลี่ย 3 ปีเป็นหลัก จากนั้นกะรีไฟแนนซ์ แต่อยากให้ดูไกล ๆ เพราะ MRR, MLR แต่ละแบงก์แตกต่างกัน บวก 6-7% อยู่แบงก์เดิมค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์ยังดีกว่าอีก โดยเป้าสินเชื่อไม่กล้าพูดหลักแสนล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้า 5,000 ล้านบาท โต 5 เท่าจากปีที่แล้ว
กู้ซื้อบ้าน – กู้เงินซื้อคอนโด ไม่เกิน 5 วันรู้ผล
คำถามน่าสนใจคือเวลายื่นขอสินเชื่อหรือพรีแอปพรูฟใช้เวลานานแค่ไหน
ธอส.บอกว่าทำได้ที่โครงการเพราะมีเจ้าหน้าที่สินเชื่อของแบงก์พรีแอปพรูฟจากเอกสารวิเคราะห์ได้เบื้องต้น ตัวแปรคือราคาประเมินหลักประกัน ปกติถ้าซื้อบ้านจากโครงการจัดสรร ราคาบ้านได้มาตรฐานอยู่แล้ว จะปล่อยสินเชื่อตามราคาซื้อขายเลย
กรณีต้องกลับมาเช็กเครดิตบูโร ถ้าเช็กแล้วประกอบการพิจารณาได้เลย ปกติแจ้งลูกค้าไม่เกิน 5 วันในกลุ่มลูกค้าอาชีพประจำ แต่ถ้าอาชีพอิสระต้องดูสถานที่ประกอบการจริง โดยการอนุมัติสินเชื่อมีเซ็นเตอร์อยู่ที่สำนักงานใหญ่ พระราม 9
“เครดิตบูโรที่บันทึกประวัติ 3 ปี ถ้ามีการผิดนัดชำระหนี้ในนั้นแล้วเราจะปล่อยไม่ได้ ก็ต้องดูเคสไหน ถ้าเคสนั้นถูกดำเนินการทางกฎหมาย (มีคดีฟ้องร้อง) เราไม่ปล่อยสินเชื่อ แต่ถ้าอยู่ในขั้นประนอมหนี้แล้ว ปิดหนี้เก่าแล้วเราจะให้สินเชื่อ อาจมีเงื่อนไขว่าปิดหนี้เดิม 3-6 เดือนก่อนมาหาเรา”
สำหรับนโยบายรัฐบาลที่ออกมากระตุ้นอสังหาฯ มาตรการที่ได้ผลทำให้คนขอกู้มากที่สุดหนีไม่พ้นการลดหย่อนค่าโอนและจดจำนอง
ขณะที่แบงก์ออมสินระบุว่าการอนุมัติสินเชื่อตั้งเป้าภายใน5 วัน ตอนนี้กำลังตั้งศูนย์อนุมัติสินเชื่อรายย่อยเพื่ออนุมัติอย่างเดียวเลย ลดภาระการทำหน้าที่สาขา เพราะมีงานด้านอื่นทั้งสินเชื่อรายย่อย เอสเอ็มอี ตามหนี้ เงินฝาก มีงานหลายด้านมาก ปีนี้จะตั้งให้ครบทุกภูมิภาค
สำหรับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของรัฐบาล ได้ผลมากที่สุดเรื่องลดหย่อนค่าโอนและจดจำนอง อีกโครงการคือบ้านประชารัฐสำหรับผู้มีรายได้น้อย
สุดท้าย KK บอกว่า ถ้ามีเอกสารพร้อม ถ้าเจ้าหน้าที่เรากลับมายื่นให้สำนักงานใหญ่ก่อนบ่าย 3 พรุ่งนี้รู้ผลทันทีสำหรับมนุษย์เงินเดือน แต่ต้องรอประเมินราคาอสังหาฯด้วย ใช้เวลา 2-3 วัน ถ้าอาชีพอิสระ 3-4 วันเพราะต้องไปดูของจริงด้วย
การใช้เครดิตบูโร บางโปรดักต์ดู 1-2 ปี บางครั้ง 6 เดือน ดูว่ามีกี่ครั้ง ถ้าเจอหนี้เสีย 3-4 ครั้งก็จะตัดไปเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
อ่านหน้า 1
ต้องการซื้อ-เช่า !!!คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่
ลงประกาศขาย-ให้เช่า ฟรี !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินกับ Dot Property ขายง่าย ขายไว ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย