หลังจากที่ผลการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีของสมาชิกรัฐสภาไทย โดย บิ๊กตู่ หรือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้คะแนนรวมไปกว่า 500 เสียง เกินครึ่งหรือ 375 เสียงจากจำนวน ส.ส.และ ส.ว. ทั้งหมด 750 คน ทำให้ได้เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของไทย ดังนั้นอาจจะทำให้นโยบายหาเสียงชุดแรก ที่พรรคพรรคพลังประชารัฐ นำเสนอคือ “นโยบายเปลี่ยนที่ดิน สปก.กว่า 35 ล้านไร่” ให้กลายเป็น “ที่ดินทองคำ” อาจจะโอกาศได้เห็นเป็นรูปเป็นร่างก็เป็นได้
ที่ดินทองคำ นโยบายที่ เปลี่ยนที่ดิน สปก.กว่า 35 ล้านไร่ ให้กลายเป็นเงิน
โดยนโยบายนี้จะทำการ เปลี่ยนที่ดิน สปก.กว่า 35 ล้านไร่ เป็นโฉนด ลดความเหลื่อมล้ำให้แก้ชาวนาเท่ากับว่าจะทำให้คนที่ถือครองที่ดิน สปก.ทั่วประเทศ 4.8 ล้านครอบครัวสามารถขายโอนกรรมสิทธิ์ หรือให้เช่าที่ดิน สปก.ได้อย่างสะดวก และจะทำให้เหล่ากลุ่มทุนที่มีเงินสามารถกว้านซื้อที่ดินได้หรือในราคาที่ไม่แพง)นอกจากนี้ประชาชนยัง สามารถเอาที่ดิน สปก.ไปจำนองกู้เงินธนาคารเพื่อไปลงทุนได้เหมือนโฉนดที่ดินทั่วไป และ หากนโยบายมีเป็นจริงเท่ากับว่าจะไฟเขียวให้ใช้ที่ดิน สปก.สร้างโรงแรมรีสอร์ต หมู่บ้านจัดสรร โรงงานอุสหาหรรม ตามที่กลุ่มนายทุนต้องการแบบสบายๆ
มั่นใจจะเปลี่ยนชีวิตเกษตรกรยากจน ให้กลายเป็น เศรษฐีเงินล้าน
ในสมัยที่ พรรคพรรคพลังประชารัฐ ได้เคยหาเสียงนั้นได้แถลงว่านโยบายเปลี่ยนที่ดิน สปก.ให้เป็นที่ดินทองคำ โดยให้คำมั่นว่า จะเปลี่ยนชีวิตเกษตรกรยากจน 10 ล้านคนให้กลายเป็น “เศรษฐีเงินล้าน” โดยนโยบายมีหลักดังนี้
- ยกเลิกเงื่อนไข ที่กำหนดคุณสมบัติผู้ครอบครองที่ดิน สปก. ต้องเป็นเกษตรกรผู้ยากจนไม่มีที่ดินทำกิน
- ยกเลิกเงื่อนไข ที่กำหนดให้ที่ดิน สปก.เป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ห้ามขายจำหน่ายจ่ายโอนกรรมสิทธิ์ให้บุคคลอื่นทุกกรณี
- เปิดช่องให้เอาที่ดิน สปก.ไปจำนองกู้เงินธนาคารเพื่อไปลงทุนได้เหมือนโฉนดที่ดินทั่วไป
โดยนโยบายนี้ฟังเมื่อจะดีเพราะจะทำให้ประชาชนรายได้น้อยมีโอกาศจะได้เงินก้อนไปใช้จับจ่าย แต่หากมองลงให้ลึกลงไปหากว่าคนที่ขายที่ดินทำกินไปแล้วใช้เงินก้อนหมดก็จะไม่มีที่ดินทำกินอีกแล้วอาจจะต้องหันไปทำงานโรงงาน อุตสาหกรรมแทนในกรณีหางานได้ แต่หากหางานทำไม่ได้กลุ่มคนกลุ่มนี้อาจจะร่วมตัวกันก่อม็อบชาวนาออกมาประท้วงอีกก็เป็นได้ ดังนั้น นโยบายนี้ออกมาเพื่อ กลุ่มทุนรายใหญ่ให้สามารถกว้านซื้อที่ดินได้ และ อนาคตเหล่าเกษตรกรนับล้านคนที่เคยมีที่ดินทำกินก็จะกลายเป็นคนไม่มีที่ดินทำกินและทำให้ประเทศเข้าสู่ภาวะ วิกฤตขาดที่ดินทำกินหนักหนาสาหัสนั้นเองฟันธงได้เลยหาก นโยบายนี้ออกมาจริง