กรรมการบริหารบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) ลงนามบรรทุกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ร่วมกัน 3 ฝ่าย ทั้ง บทจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิงส์ ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส, บจ.บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม หรือบีเอสเอส ผู้ให้บริการบัตรแรบบิท ธุรกิจในเครือีทีเอส และ บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) หรืออิออน โดยจะร่วมกันออกบัตรแรบบิทร่วม (The Co-Branded Rabbit) โดยจะนำร่องโครงการแรกคือ บัตรสมาชิกอิออน-แรบบิท โดยผู้ถือบัตรสามารถใช้เพื่อรับบริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคจากอิออนและเดินทางโดยสารในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส ตลอดจนซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆจากร้านค้า ที่ร่วมรายการ ซึ่งเชื่อว่าการรวมมือครั้งนี้จะเป็นการขยายฐานธุรกิจบัตรสมาร์ทการ์ดของบีทีเอสเพิ่มอีกประมาณ 7 แสนใบในอีก 5 ปีข้างหน้า สำหรับจำนวนผู้ถือบัตรปัจจุบันนั้นมีอยู่ 3.5 ล้านใบ
บริษัทอิออนจะร่วมกันจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจด้วยทุนจดทะเบียน 4,500 ล้านบาท ซึ่งอิออนถือ 49% และ BTS ถือส่วนที่เหลืออีก 51% โดยคาดว่าจะดำเนินการจัดตั้งให้เสร็จในไตรมาสแรก
ปัจจุบันบีทีเอสมีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 6 แสนเที่ยวต่อวัน ช่วง 9 เดือนแรก ปี 2558 (เมษายน-ธันวาคม) เพิ่มขึ้น 3% และรายได้จากค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 6% ซึ่งนับว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดเอาไว้
สำหรับการปรับอัตราค่าโดยสารนั้น โดยปกติจะปรับเพิ่มทุกๆ 2 ปี ซึ่งได้ทำการปรับไปในเดือนมิถุนายน 2556 และขณะนี้ได้ทำการทบทวนเพื่อปรับค่าใช้จ่ายเนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6% ซึ่งคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 2-3 บาท จากปัจจุบันเริ่มต้นที่ 15-42 บาท
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ