นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือน เม.ย.อยู่ที่ 54,986 คัน
เพิ่มขึ้น 1.72% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มได้มากกว่านี้ โดยภาครัฐต้องกระตุ้นความต้องการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราภาษีป้ายทะเบียนรถยนต์
และรถจักรยานยนต์ ที่มีอายุมากกว่า 7 ปี เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันจัดเก็บอัตราคงที่หรือลดลง เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อรถรุ่นใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์ประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์)
ที่ราคาไม่สูงมาก และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลควรเพิ่มการจัดเก็บภาษีป้ายทะเบียนรถเพิ่มขึ้น โดยจัดเก็บตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ยิ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์มากก็ควรเก็บสูงขึ้น เหมือนขณะนี้ที่รถยนต์รุ่นใหม่ หากปล่อยก๊าซน้อยก็จะเสียภาษีน้อย ส่วนหนึ่งเป็นการสนองนโยบายรัฐให้ใช้รถยนต์ประหยัดพลังงาน
ส่วนจัดเก็บสูงเท่าไร ก็ต้องมาหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นได้
สำหรับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) ภาพรวมเดือน เม.ย. อยู่ที่ระดับ 99.59 เพิ่มขึ้น 1.54% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการผลิตของอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญ
เช่น อุตสาหกรรม รถยนต์ มีปริมาณ 138,237 คัน เพิ่มขึ้น 11.51% อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มขึ้น 3.84% โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ, อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า
มีปริมาณ 1.85 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 45.7% ตามการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมรถยนต์ และเป็นผลจากราคาเริ่มเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการจึงซื้อเก็บไว้ก่อนที่จะราคาสูงขึ้น
รวมทั้งอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียม ความต้องการเพิ่มขึ้น จากราคาที่ลดลงก่อนหน้านี้.
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก thairath.co.th
สำหรับท่านใดที่สนใจอยากซื้อ ขายบ้าน คอนโด หรือ ทาวน์เฮ้าส์ มือ1 มือ 2 สามารถเข้าดูได้เลยที่ https://www.dotproperty.co.th/