ใครที่มีงบจำกัดและกำลังมองหาบ้าน บ้านมือสอง อาจจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆแต่ว่า เราจะเราจะมีวิธีในการเลือกดูอยากไรได้บ้าง โดยวันนี้เราจึงอยากจะขอนำเสนอ ข้อมูลสำคัญในการเลือก ซื้อบ้านมือสองว่าจะต้องเลือกพิจารณาตรวจสอบรายละเอียดด้านไหนบ้างเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลยค่ะ
แนวทางพิจารณาตรวจสอบรายละเอียดด้านไหนบ้าง
- อันดับแรก ดูสภาพของตัวบ้าน และ อายุของบ้าน ดูว่ามีรอยแตกร้าวตรงไหนบ้าง ด้านอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆในบ้านไม่ว่าจะเป็น เครื่องสุขภัณฑ์ โคมไฟหลอดไฟต่างๆทั่วไปในบ้านว่าชำรุดเสียหายหรือไม่ สายไฟฟ้าในบ้านมีการขาดชำรุดบ้างหรือไม่ เสื่อมสภาพแล้วหรือยัง ท่อน้ำประปามีสนิมขึ้นหรือไม่ มีการรั่วซึมแตกหรือไม่ เพราะถ้าภาพรวมโครงสร้างบ้านเก่าแก่ไม่แข็งแรงเราอาจจะต้องซ่อมแซมอีกมากจนอาจจะเป็นปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ในภายหลังอีกจำนวนมาก ด้านสภาพแวดล้อมของบ้านนั้นๆว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างไร การเดินทางสะดวกสบายหรือไม่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่อชีวิตประจำวันหรือไม่
- ด้านราคาบ้านมือสองที่เสนอขาย รวมและไม่รวมอะไรบ้าง ตัวอย่างเช่น ค่าโอนบ้าน ค่าภาษีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ภาษีธุรกิจเฉพาะ และค่าอากรแสตป์ และควรเตรียมเรื่องขออนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านด้วย สำหรับคนที่ต้องกู้ซื้อบ้าน และอย่าลืม ตรวจเช็ค ผู้ที่ขายบ้านและที่ดินให้เรานั้นมีกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยนั้นจริงหรือไม่และตัวบ้านติดภาระจำนองหรือไม่ เพราะโดยทั่วไปแล้วการซื้อบ้านมือสองส่วนใหญ่จะติดจำนอง ดังนั้นเราจะต้องผ่านกระบวนการไถ่ถอนการจำนองมาก่อน และค่อยโอนกรรมสิทธิ์
- ตรวจสอบเรื่องการเวนคืน แม้ว่าจะอุ่นใจได้ว่าจะสร้างจนบ้านเสร็จให้เห็นว่ามีการตรวจสอบแล้ว แต่ก็ไม่ควรประมาท ยิ่งเฉพาะบ้านอยู่ในทำเลล่อแหลม เช่น ใกล้สามแยก บ่อยครั้งที่เจ้าของที่ดินเดิมมีการหมกเม็ดพยายามแบ่งถ่ายทรัพย์สินตนเองก่อนจะมีกฎหมายห้ามขายและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน และ ถ้า ถ้าต้องการจะซื้อที่ดินพร้อมบ้านจัดสรร ทาวน์เฮ้าส์ หรืออาคารพาณิชย์ควรตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของโครงการ ได้รับใบอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารแล้วหรือไม่ โดยตรวจสอบได้จากกรมโยธาธิการ หรือสำนักงานเขต กทม. หรือสำนักงานที่ดินจังหวัด แล้วแต่กรณี
- ในส่วนใครที่ต้องการซื้อคอนโดมือสอง สิ่งที่เราจำเป็นจะต้องตรวจสอบเอกสารการจดทะเบียนอาคารชุด นิติบุคคลค่าธรรมเนียมต่างๆรวมไปถึงค่าส่วนกลางและบริการต่างๆ อย่างละเอียด เพราะนอกจากเราจะตรวจสอบค่าใช้จ่าย เมื่อเราซื้อไปแล้วเราจะต้องเสียค่าอะไรบ้าง คุ้มค่าที่เราจะซื้อหรือไม่
- สุดท้ายตรวจสอบสัญญาการซื้อขายต่างอย่างละเอียด เช่นสัญญาการซื้อขาย รายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ภาษี และอื่นๆ ต้องมีการทำสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน และควรเก็บสัญญาหลังจากมีการซื้อขายเสร็จแล้วไว้ด้วยค่ะ เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆในอนาคตและที่ห้ามลืมคือเอกสารส่วนประกอบของสัญญา เอาไว้ตรวจสอบและควรเก็บให้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเราจะซื้อจากเจ้าของโครงการหรือจากบุคคล เพราะว่าเอกสารทั้งหมดนี้สามารถนำไปบังคับให้เจ้าของต้องทำตามข้อตกลงในสัญญาที่เคยระบุไว้ค่ะ