หลายๆท่านที่กำลังเจอปัญหาขาย บ้าน ไม่ออก สิ่งแรกเลยคือทำใจและยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นเสียก่อน จากนั้นเราลองมาดูกันว่าทำไมบ้านคุณจึงขายไม่ออกแล้ว และเราจะสามารถแก้ไขมันได้ อย่างไรจะใช้นายหน้าช่วยไหมหรือหากบริษัทนั้นๆมีการเก็บ feedback ของผู้ที่มาเยี่ยมชมบ้านคุณด้วยล่ะก็ อย่าลืมขอมาด้วยนะคะ จะได้นำข้อมูลส่วนนี้ไปใช้ปรับปรุงต่อ หรือจะลองทำตาม 8 ขั้นตอนต่อไปนี้ที่จะช่วยเป็นแนวทางให้ท่านสามารถ ขายบ้านได้ง่ายขึ้น
8 วิธีการแก้ไข เมื่อเจอปัญหา “บ้าน” ขายไม่ออก
1.แพง
ในที่นี้หมายถึงแพงกว่าก็ที่ควรจะเป็นเมื่อเทียบกับปัจจัยอื่นๆ เช่น บ้านอยู่ในซอยลึก ไม่ติดถนนใหญ่ ฝนตกทีไรก็น้ำ ท่วม แต่กลับตั้งราคาเท่ากับบ้านที่อยู่ติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก แถมน้ำไม่ท่วมอีกต่างหากต้องยอมรับนะคะว่าราคาเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลสูงมากในการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นตั้งราคาที่สูงเกินไปเช่นนี้ทำให้คุณพลาดโอกาสในการขายสินค้าไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นแนะนำให้ปรึกษากับบริษัทที่รับทำประเมินราคาบ้าน เพราะพวกเขาสามารถที่จะแนะนำราคาที่เหมาะสมของบ้านคุณได้
2.ประกาศเก่า
ถ้าจะลงประกาศแค่ครั้งเดียวแล้วก็หวังจะใช้ได้ตลอดชีพเนี่ย บอกเลยนะจ้ะว่ายาก ยิ่งเป็นในเว็บไซต์ที่ให้ลงประกาศขายฟรี วันๆนึงคนมาลงประกาศเป็นร้อยเป็นพัน รับรองว่าโพสต์ของเธอถูกดันลงไปข้างล่างแน่นอนดังนั้นเราจะต้อง หมั่นอัพเดตประกาศอยู่บ่อยๆ และพยายามตอบคำถามของผู้(ที่สนใจ)ซื้อให้ครบที่สุดเท่าที่จะทำได้
3.บ้านไม่พร้อม คนไม่พร้อม …. ขายไม่ออก
เล่นโฆษณามาซะดิบดีแต่พอเอาเข้าจริงๆ ผู้ซื้อนี่แทบจะหงายหลังกันเลยทีเดียวค่ะ เห็นพร๊อบประดับฉากเป็นฝุ่น หยากไย่ ใยแมงมุม ไม่ไหวนะคะ แสดงถึงความไม่พร้อมอย่างแรง ทำให้ผู้ซื้อบางท่านอาจเปลี่ยนความสนใจไปเลยก็ได้ โดยการแก้ไขที่ง่ายแสนง่ายค่ะ แค่เพียงคุณทำความสะอาดและเตรียมบ้านให้พร้อมสำหรับการเยี่ยมชมอย่างน้อย 1 วันล่วงหน้าค่ะ ถ้าไม่พร้อมจริงๆ แนะนำให้เจรจาเลื่อนนัดออกไปก่อนดีกว่านะคะ
4.ไม่มีความน่าสนใจ ….
คือเป็นประกาศขายบ้านที่มองเห็นแล้วพร้อมจะจากไป และไม่ก่อให้เกิดความเสียดายหากไม่ได้คลิกดู เป็นการประกาศขายบ้านที่ราบเรียบและเต็มไปด้วยตัวอักษร ดังนั้น คุณควรเพิ่มคำที่เป็นคีย์เวิร์ดสำคัญลงในหัวข้อเพื่อดึงดูดใจผู้อ่าน เช่น “ขายคอนโด 30 ตร.ม.”, “ขายไม่เอากำไร”, แถมฟรีเฟอร์นิเจอร์” นอกจากนี้เมื่อเรียกแขกได้แล้วในประกาศของคุณก็ต้องน่าสนใจด้วยนะคะ เช่น มีรูปในสวยๆ ในมุมต่างๆ ของบ้าน
5.ไม่เห็นเหมือนที่โฆษณาไว้เลย…..
ช่างทำร้ายจิตใจผู้ซื้อยิ่งนัก เหมือนถูกหลอกให้เข้ามาดู แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นอย่างที่โฆษณาเอาไว้ เช่น บอกไว้ห่างจากถนนใหญ่เพียง 400 เมตร แต่เอาเข้าจริงคือไกลเป็นกิโล คำพูดเหล่านี้อาจทำให้ผู้ซื้อรู้สึกผิดหวัง และพาลจะเลิกสนใจเอาง่ายๆเราจึงแนะนำว่าให้เขียนให้ชัดเจนไปเลยค่ะว่าไกลจากตรงไหนเท่าไหร่ ถ้าคิดว่าการเขียนลงในประกาศตรงๆจะทำให้คนสนใจน้อยลง เปลี่ยนไปบอกระยะทางในรูปแผนที่แทนก็ได้ค่ะ
6.ลดราคา
วิธีแก้ปัญหาที่สุดแสนจะคลาสสิคที่สามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปรณ์ใดๆ สำหรับคนที่ศึกษาราคาตลาดมาดีแล้วจะสามารถลดราคาได้อย่างมืออาชีพเนื่องจากรู้ว่าต้องตั้งราคาขายใหม่ที่ไหร่จึงจะไม่ขาดทุน ในทางจิตวิทยาแล้ว คนเราจะรู้สึกดีเมื่อเห็นป้ายลดราคาและจะยิ่งแฮปปี้ไปกันใหญ่เมื่อเห็นการเปรียบเทียบกันแบบชัดๆระหว่าง ราคาเดิม และ ราคาใหม่
7.ปรับกลยุทธ์ในการขายเสียใหม่…..
บ่อยครั้งที่คนเรามักมองข้ามอะไรที่มันธรรมดาๆไป เพื่อที่จะขายบ้านให้ได้เราจะต้องไม่ธรรมดาอีกต่อไป พยายามพรีเซนต์จุดเด่น หรือข้อดีของบ้านคุณออกมาให้ได้มากที่สุด …. อ้อ! รู้หรือไม่จ๊ะพวกเธอ ว่าข้อด้อยบางอย่างเช่น “อยู่ในซอยค่อนข้างไกลจากถนนใหญ่” …. หากเปลี่ยนเป็น “เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน”จะน่าซื้อกว่ากันเยอะเลยล่ะ แล้วถ้าคุณยังไม่ได้ลองขายบ้านในเว็บไซต์ล่ะก็….ลองด่วนค่ะ เพราะเป็นช่องทางที่ง่ายและสะดวกที่สุดในยุคนี้ค่ะ
8.พักการขาย
พยายามมานานสุดท้ายก็ยังขายไม่ออก ถ้าไม่ได้รีบร้อนอะไร แนะนำให้ พักการขาย ก่อนค่ะ ก่อนที่จะขายไปด้วยราคาขายทุน จากนั้นอาจจะลองเปลี่ยนเป็นปล่อยให้เช่าแทน เอาไว้พร้อมเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับมาขายใหม่
