DotProperty.co.th

ทำความเข้าใจ ประกันอัคคีภัย เรื่องสำคัญที่คนมีบ้านต้องรู้!!!

สวัสดีค่ะ วันนี้เรากลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ โดยวันนี้เราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับ ประกันอัคคีภัย โดยประกันอัคคีภัย มักถูกพ่วงมากับการกู้ซื้อบ้านเสมอ เพราะธนาคารผู้ที่ทำการปล่อยกู้ต้องการลดความเสี่ยง เพราะ ราคาบ้านถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงมาก ไม่แปลกที่ธนาคารจะให้เราต้องทำประกันอัคคีภัยควบคู่ไปด้วย ดังนั้นวันนี้เดี๋ยวเราลองมาทำความเข้าใจกับประกันอัคคีภัยกันก่อนดีกว่าเพื่อไม่เสียเวลาเราไปชมกันเลยค่ะ

ประกันอัคคีภัย แก้ปัญหาเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นได้

เชื่อได้เลยค่ะว่าคงจะไม่มีใครหลายๆคนอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแน่นอนใช่ไหมละค่ะดังนั้น เราก็จึงต้องทำประกันอัคคีภัยเพราะช่วยลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ด้วยการจ่ายค่าสินไหมเป็นเงินชดเชยจากประกันที่เราทำด้วย โดยประกันอัคคีภัย ที่ทำเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่ต้องทำเป็นประจำ เช่น ทุกปี หรือทุก 2-3 ปีโดยค่าเบี้ยประกันที่เราต้องจ่ายนั้นหลายๆท่านอาจจะคิดว่าคุ้มค่าหรือไม่โดยถ้าเราจะเปรียบเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับนั้นคงต้องบอกได้เลยค่ะว่ามันคุ้มถูกมาก โดยเช่น ถ้าวงเงินประกันคุ้มครองที่ 1,000,000 บาท เราจะจ่ายค่าเบี้ยประกันจะอยู่ที่ประมาณ 1,100 บาท เท่านั้นนับว่าคุ้มค่ามากๆค่ะ ยิ่งถ้าเราเลือกระยะเวลาในการประกันที่มาก ค่าเบี้ยประกันจะยิ่งถูกลงอีกด้วยค่ะเมื่อรู้ยังนี้แล้วจะรออะไรละค่ะจริงไหม

ประโยชน์จากประกันอัคคีภัยมีอะไรบ้าง

ควรทำประกันอัคคีภัยแบบไหนดี ที่จะคุ้มค่ากับค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไป มากที่สุดกันละ

  1. ต้องทำประกันให้ครอบคลุมมูลค่าทรัพย์สินของเราทั้งหมดโดยไม่ว่าจะเป็นทั้ง สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดของบ้านทั้งส่วนปรับปรุงต่อเติมบ้าน ประตูรั้ว และ รวมไปถึงกำแพง และก็ควรทำประกันทรัพย์สินภายในบ้านเช่น เครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ  เราควรที่จะเลือกทำประกันอัคคีภัยให้ครอบคลุมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดในตัวบ้าน

อย่างเช่นถ้าบ้านเรามี  ทรัพย์สินมีมูลค่าที่ 1.5 ล้านบาท  ทำทุนประกันไว้ที่ 2 ล้านบาท โดยในกรณีนี้หากเกิดเหตุเสียหาย ก็จะได้รับค่าสินไหมตามความเสียหายจริงครบทุกๆบาทที่เราเสียไปจากเหตุการณ์อัคคีภัย  แต่ถ้าหากทำประกันต่ำกว่ามูลค่าทรัพย์สิน ค่าสินไหมจะได้รับตามสัดส่วนที่เราทำ เช่น ทำทุนประกันที่ 100,000 บาท ทรัพย์สินมีมูลค่า 1.5 ล้านบาท เท่ากับทำประกัน 70% ของมูลค่าทรัพย์สิน หากเกิดเหตุทรัพย์สินเสียหายจริงที่ 700,000 บาท ก็จะได้ค่าสินไหมเพียง 490,000 บาทเท่านั้น (700,000X70%)ดังนั้นสรุปได้เลยคือเราต้องศึกษาให้รอบครอบและเลือกวงเงินประกันที่ครอบคลุมมูลค่าทรัพย์สินของเราทั้งหมดค่ะ

2.เลือกระยะเวลาความคุ้มครองยาวเพื่อลดค่าเบี้ยประกันโดยข้อดีสุดข้อนี้เลยยิ่งเลือกทำประกันให้มีระยะเวลาความคุ้มครองยาวเกิน 1-2 ปีขึ้นไปจะยิ่งทำให้ค่าเบี้ยประกันก็จะถูกลง โดยค่าเบี้ยประกันที่มีระยะเวลาความคุ้มครอง 2 ปี จะคิดอัตรา 175% ของอัตราค่าเบี้ยประกันภัย 1 ปีจากปกติ 200% และระยะเวลาความคุ้มครอง 3 ปี ก็จะคิดอัตราค่าเบี้ยประกันที่ 250% ของอัตราเบี้ยประกัน 1 ปี จากปกติ 300% ดังั้นถ้าค่าเบี้ยประกัน 1 ปี เท่ากับ 1,000 บาท ค่าเบี้ยประกัน 2 ปี ก็จะเท่ากับ 1,750  บาท (1,000X175%) โดยจะทำให้เราสามารถประหยัดค่าเบี้ยประกันไปได้ที่ 250 บาท และหากเลือกทำประกัน 3 ปี ก็จะยิ่งทำมให้ค่าเบี้ยประกันถูกลงจากเดือนละ  2,500 บาท (1,000X250%) ก็จะยิ่งประหยัดไปได้ถึง 500 บาท ดังนั้นถ้าหากเรายิ่งเราเลือกระยะเวลาความคุ้มครองยาวก็จะยิ่งช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันได้มากขึ้นอีกหลายบาทเลยละค่ะ

  1. ซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมโดยปกติแล้วโดยปกติประกันอัคคีภัยก็จะได้รับความคุ้มครองตามแบบมาตรฐาน อยู่แล้วได้แก่ เกิดไฟไหม้ เกิดการระเบิดจากสาเหตุต่างๆ   ฟ้าผ่า ไฟฟ้าลัดวงจร  แต่นอกจากที่ยกตัวอย่างมานี้เรายังสามารถที่จะซื้อความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมได้อีกด้วยนอกจากที่ยกตัวอย่างมาเพื่อที่จะทำให้เราสบายใจมายิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น ประกันแผ่นดินไหว ความรุนแรงตั้งแต่ 7 ริกเตอร์ขึ้นไป  ประกันภัยน้ำท่วม  ประกันภัยลมพายุ ความเร็วลมตั้งแต่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง   ประกันภัยก่อการร้าย หรือ  ประกันภัยจากเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆเป็นต้น โดย เงื่อนไขการรับประกันต่างๆนั้นจะขึ้นอยู่กับบริษัทประกันที่เราเลือกพิจารณาเป็นรายๆ ไป

ประกันอัคคีภัยบ้านหมดอายุจำเป็นต้องต่อไหม ?

ตอบได้เลยว่าควรจะต้องต่อและควรต่อไปตลอดเพราะว่าเราเบี้ยประกันเพียง 0.1 % เท่านั้นของการคุ้มครองที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต  เราแนะนำให้ต่อไปเลย 9ปี กัดฟันจากรอบแรกหน่อยแต่ระยะยาวคุ้มค่าแน่นอนค่ะและอีกอย่างหนึ่งที่จะขอแนะนำคือไม่ควรเก็บกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยไว้ที่บ้านตัวเอง ควรฝากไว้ที่อื่นที่ๆคิดว่าปลอดภัยหรือนำไปฝากธนาคารก็ได้  เพื่อป้องกันไม่ให้  เอสการเหล่านี้เสียหายจากการเกิดไฟไหม้ได้ในกรณีที่เราเก็บไว้ในบ้าน เพราะว่าถ้าเก็บไว้ในบ้านแล้วไฟไหม้เราจะต้องเสียเวลาทำเรื่องนานมากกว่าจะได้เงินคืนค่ะ ดังนั้นจากที่กล่าวมานี้แนะนำว่าควรทำไปเรื่อยๆนะค่ะ

สุดท้ายก่อนจะจากกันนอกจากเราทำประกันอัคคีภัยแล้วเราก็ควรจะต้องมี อุปกรณ์ถังดับเพลิงไว้ในบ้านหรือเครื่องตรวจจับควันก็อาจจะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถ ดับเพลิงในบ้านได้ทันดีกว่าเปล่าให้บ้านถูกไฟไหม้แล้วรอเงินประกันนะค่ะ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ

ลงประกาศฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย คลิ๊ก …

ขายคอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว หรือต้องการซื้อ-เช่า !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่