DotProperty.co.th

ปรับราคาค่าตั๋วใหม่! ‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’ 104 บาทตลอดสาย เริ่มเก็บจริง 16 ก.พ. นี้

ปัจจุบันมีระบบการคมนาคมขนส่งประเภทต่างๆ ให้ประชาชนได้เลือกใช้บริการกันอย่างมากมาย แล้วสำหรับคนเมืองที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเร่งรีบ เวลาทุกนาทีเป็นเงินเป็นทอง ‘รถไฟฟ้า’ ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องความรวดเร็วและความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าโดยสารที่สูงตามไปด้วยเช่นกัน

ซึ่งภายหลังจากที่ รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ได้เปิดให้บริการเดินรถช่วงทดลองอย่างไม่เต็มระบบ ในช่วงเดือนเมษายน 2561 เป็นต้นมา โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าโดยสารจากผู้ใช้บริการเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนเป็นระยะเวลานานเกือบ 3 ปี ตอนนี้ได้เปิดให้บริการเดินรถเต็มทั้งระบบแล้ว จึงได้สิ้นสุดการเปิดให้บริการฟรีและต้องเริ่มเรียกเก็บค่าโดยสารจากผู้ใช้บริการ ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป

ซึ่งทางกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการหารือกับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหารโครงการเดินรถ และประกาศเคาะอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสาย ในราคา 104 บาท จึงทำให้คนเมืองที่ใช้บริการรถไฟฟ้าเส้นทางสายนี้อาจต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น

อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย เริ่มต้น 15 – 104 บาท

โดย นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี เผยว่า กรุงเทพมหานครได้เชิญบีทีเอสซีร่วมประชุมเพื่อหาทางออก เรื่องอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยเห็นสมควรว่าให้เคาะราคาร่วมกันที่ 104 บาทตลอดสายแบบไม่มีค่าแรกเข้า แบ่งออกเป็น

  1. ส่วนตรงกลางสัมปทาน ราคา 16 – 44 บาท คงเดิม
  2. ส่วนหมอชิต – คูคต ราคา 15 บาท ปรับขึ้น 3 บาทต่อสถานี (18บาท/สถานี)

* รวมค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 45 บาท

  1. ส่วนอ่อนนุช – เคหะสมุทรปราการ 15 บาท ปรับขึ้น 3 บาทต่อสถานี

* รวมค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 45 บาท

  1. ส่วนไปบางหว้า 15 บาท ปรับขึ้น 3 บาทต่อสถานี

* รวมค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 33บาท

ทั้งนี้ จากสถานีหมอชิต – คูคต ค่าโดยสารสูงสุด 45 บาท ส่วนจากหมอชิต – อ่อนนุช (สัมปทาน) ค่าโดยสารสูงสุด 44 บาท หักค่าแรกเข้า 15 บาท เหลือ 29 บาท และจากอ่อนนุช – เคหะสมุทรปราการ ค่าโดยสารสูงสุด 45 บาท หักค่าแรกเข้า 15บาท เหลือ 30 บาท โดยทางบีทีเอสซีเตรียมออกประกาศอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในอีก 1 – 2 วันนี้ เพื่อแจ้งให้ประชาชนได้ทราบก่อนเป็นเวลา 1 เดือน

ซึ่งอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ราคา 104 บาทตลอดสาย ที่ปรับลงจากเดิมที่กำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุด 158 บาท เป็นอัตราค่าโดยสารชั่วคราวที่จะเริ่มจัดเก็บตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป สืบเนื่องจาก พล.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มองว่าควรแบ่งเบาภาระประชาชนผู้ใช้บริการ ที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นขณะนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการจัดเก็บค่าโดยสาร 104 บาทตลอดสาย กทม. ยังคงขาดทุนปีละ 3,000 ล้านบาท และหากลดอัตราค่าโดยสารไปอยู่ที่ 65 บาทตลอดสาย กทม. ก็จะขาดทุนถึง 5,000 ล้านบาทต่อปี

นายสุรพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า มีการทวงถามค่าเดินรถที่ติดค้างบีทีเอสซี 2 ปี รวมจำนวนเงินทั้งสิ้นเกือบ 10,000 ล้านบาท ทาง กทม. ได้ขอแบ่งจ่ายบางส่วนก่อน 5,000 ล้านบาท และรับปากว่าจะชำระคืนให้ ซึ่งต้องเสนอให้กระทรวงมหาดไทยรับทราบตามขั้นตอนตามวิธีปฏิบัติของทางหน่วยงานราชการ จึงอาจมีความล่าช้าไปบ้าง แต่หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้แก้ไขสัญญาสัมปทานค่าโดยสารสายสีเขียว ก็จะช่วยลดอัตราค่าโดยสารสูงสุดให้อยู่ที่ 65 บาท จากเดิม 104 บาท และช่วยแก้ไขภาระหนี้สินกว่า 120,000 ล้านบาทของ กทม. ได้ โดยคาดว่าในเดือนหน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น คนเมืองที่ต้องใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวจึงยังคงต้องคอยติดตามสถานการณ์กันต่อไป

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://www.thansettakij.com/content/property/464659?fbclid=IwAR0QMIX3w-k3517KXxb-RqW8sNfj3GCZNYtqabMY6hko75YE8LdmbhWyca4
https://www.prachachat.net/property/news-595457
https://www.sanook.com/news/8338486/