ณ. เวลานี้ ธอส.ตั้งเป้าสิ้นปีนี้ต้อง ปล่อยกู้ ช่วยคนจนมีบ้านราคาไม่เกิน 2 ล้าน อย่างน้อยต้องเกิน 1 แสนราย โดยจะต้องให้เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน ไม่หวั่นเกณฑ์คุมกู้บ้าน เพราะไม่เน้นปล่อยกู้คนหลายบ้านเก็งกำไร ฝั่งเอกชนมองเกณฑ์คุมกู้บ้านไม่กระทบธุรกิจสร้างบ้านเหตุปลูกเพื่ออยู่เองไม่ได้เป็นการเก็งกำไร
ตั้งเป้าคนรายได้น้อยไม่ต่ำกว่าแสนราย ต้องมีบ้าน
ล่าสุด คุณฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ให้ข้อมูลว่า ปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายจะปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้ น้อยเป็นหลักใหญ่เพื่อต้องการให้กลุ่มคนเหล่านี้มีที่อยู่อาศัย โดยกลุ่มนี้ช่วนใหญ่จะกู้ซื้อบ้านเป็นหลังแรก โดยในวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท
โดยโจทย์อยู่ที่ต้องการจะปล่อยกู้ให้เกิน 1 แสนราย โดยกว่า9 เดือนที่ผ่านมานั้นธอส.สามารถปล่อยไปได้แล้ว 7.93 หมื่นราย หรือเติบโต 19.75% จากปีก่อน โดยรายละเอียด 9 เดือนที่ผ่านมานั้นธนาคารปล่อยกู้ใหม่ได้ 1.61 แสนล้านบาท จำนวน 1.31 แสนบัญชี เพิ่มขึ้น 36.25% ทำใหั มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1.09 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.15% ส่วนสินทรัพย์รวมมี 1.14 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.47% เงินฝากรวม 9.17 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.90% และมีกำไรสุทธิ 9.64 พันล้านบาท ทำให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ระดับแข็งแกร่งที่ 13.87% สูงกว่าอัตราเงินกอง ทุนขั้นต่ำ 8.50%
ด้าน หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มี 4.82 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 4.4% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้ สาเหตุมาจากที่ทางธนาคารจัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าให้กลับมามีสถานะปกติ เพื่อให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ต่อไป
เชื่อหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อไม่กระทบ
หลังจากที่ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่เพิ่มเติม ทาง ธอส. มองว่านี้อาจจะเป็นเรื่องที่ดี มากกว่าร้าย เพราะว่า ธปท.มีการรับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องและนำไปปรับปรุงกฎเกณฑ์ให้ผ่อนคลายในหลายจุด ทำให้ประชาชนช่วยลดผลกระทบ นอกจากนี้ในภาคส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับสถาบันการเงิน ยังสามารถมีเวลาปรับตัวได้มากขึ้น
ด้าน ธอส. ได้วางมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อที่เหมาะสม ทำให้หลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ ไม่ส่งผลกระทบมากนัก เพราะทาง ธนาคาร เน้นปล่อยกู้ให้ผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงเป็นบ้านหลังแรก ไม่ได้ส่งเสริมให้ ประชาชนก่อหนี้เกินความจำเป็นหรือเก็งกำไร นั้นเอง