ในปีนี้ปัจจัยลบจากหนี้ครัวเรือนยังกระทบต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้ปานกลางส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้อย่างที่คาด สวนทางภาวะเศรษฐกิจการเมืองที่ดีขึ้น ข้อมูลจาก “คอลลิเออร์ส” ชี้คอนโดฯเหลือขายอีกเยอะ พร้อมมารีเซลในตลาดรวมกว่า 60,000 ยูนิต คาดต้องใช้เวลาระบายออกอีกพักใหญ่ ด้านผู้ประกอบการเชื่อกำลังซื้อยังมีต่อเนื่อง ลุยผุดโครงการใหม่เพิ่มมากกว่าปี 57
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล เผยมีคอนโดมิเนียมราคาขายต่ำกว่า 60,000 บาทต่อตารางเมตร เหลือขายมากที่สุดในตลาด เพราะแม้ฐานลูกค้ามากแต่หนี้ครัวเรือนเป็นปัญหารั้งการตัดสินใจขณะที่คอนโดราคาแพง มากกว่า 200,000 บาทต่อตร.ม มีเหลือน้อย ณ สิ้นปี 57 มีคอนโดทุกระดับราคา ใน กทม.เหลือขาย 40,000 ยูนิต และ เมื่อรวมกับยูนิตที่รีเชลของกลุ่มที่ซื้อเก็งกำไรอาจจะทำให้จำนวน คอนโดเหลือขายสูงถึง 60,000 ยูนิต ซึ่งต้องใช้เวลาในการขายยูนิต
ในปีนี้มีแนวโน้มเปิดขายโครงการใหม่ๆ ต่อเนื่องด้วยความมั่นใจเรื่องกำลังซื้อมากกว่าปี 57 จึงคาดว่ามี ประมาณ 55,000 ยูนิต ประกอบกับโครงการรถไฟฟ้าต่างๆ อันเป็นรูปธรรมมากขึ้น เป็นส่วนช่วย ด้านกำลังซื้อคาดว่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นไม่มาก เมื่อเทียบกับการขยายตัวของอุปทาน ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อโครงการ และรายย่อย ทำให้ในอนาคตโครงการจากผู้ประกอบการรายเล็ก รายกลางอาจลดน้อยลง ในส่วนของการควบรวมกิจการ หรือร่วมทุนกับชาวต่างชาติจะยังคงมีอยู่ในปี 58
พื้นที่ค้าปลีกก็ได้รับผลกระทบเช่นกันโดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 57 ที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงไปต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี จากนั้นก็ปรับขึ้นมาสูงที่สุดในรอบ 5-6 ปีในเดือนธ.ค.57 ซึ่ง หลายฝ่ายคาดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปี 58 น่าจะคงอยู่ในระดับที่ลดลง ส่วนคอมมูนิตีมอลล์ยังคงเป็นตลาดที่มีการขยายตัวมากที่สุดในปี 57 รวมพื้นที่ประมาณ 147,000 ตารางเมตรพื้นที่รวม 282,600 ตารางเมตร ส่งผลมีมากเป็นอันดับที่สองรองจากศูนย์การค้า
ที่มา : reic