สมาคมอสังหาฯ ส่งหนังสือขอพบ “ประจิน-สมคิด-บิ๊กป๊อก” ขอเคลียร์ ผังเมือง นนท์คุมกำเนิดสร้างทาวน์เฮาส์-บ้านเดี่ยวไม่ได้ เผยร่างกฎหมายใหม่บังคับถนนหน้าโครงการกว้าง 10-12 เมตร ในขณะที่ 90% ตัดถนนกว้างแค่ 6-8 เมตร สมาคมคอนโดฯ พ่วงหนังสือขอเคลียร์ปมคดีฟ้องร้องศาลปกครองกระทบผู้ประกอบการสุจริต
สมาคมอสังหาฯ ขอให้ทบทวนการบังคับใช้ ผังเมือง รวมจังหวัดนนทบุรี
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 ที่ผ่านมาทาง 3 สมาคมประกอบด้วยสมาคมอาคารชุดไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อขอเข้าพบและหารือแนวทางแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมีประเด็นหารือหลักเกี่ยวกับขอให้ทบทวนการบังคับใช้ผังเมืองรวมจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีข้อจำกัดทำให้ไม่สามารถสร้างทาวน์เฮาส์ได้เลยทั้งจังหวัด
ทั้งนี้ หนังสือขอเข้าพบผู้บริหารรัฐบาล ส่งไปถึงพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองสภาพปัญหาจากร่างผังเมืองรวมนนทบุรี คือ 1.องค์กรปกครองท้องถิ่นออกข้อบัญญัติกำหนดผังเมืองสีเหลือง (ย.1-ย.2) มีเงื่อนไขให้การสร้างบ้านเดี่ยวทาวน์เฮาส์ต้องมีถนนด้านหน้าโครงการ 10-12 เมตร ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงเพราะสัดส่วนถนน 80-90% ของจังหวัดนนทบุรีมีความกว้าง 6-8 เมตรเท่านั้น
2.พื้นที่ผังเมืองสีเขียว (ก.2-ก.3) มีข้อบัญญัติจำกัดสิทธิการพัฒนาบ้านเดี่ยว โดยกำหนดให้มีถนนด้านหน้าโครงการกว้าง 12-14 เมตร และกำหนด FAR (floor area ratio-สัดส่วนพื้นที่ปลูกสร้าง
อาคารต่อขนาดที่ดิน) 1:1 ในขณะที่สภาพข้อเท็จจริงถนนมีความกว้าง 6-8 เมตร หากต้องการพัฒนาโครงการย่อมหมายถึงใช้ที่ดินไม่เต็มศักยภาพ
3.การพัฒนาคอนโดมิเนียมถูกจำกัดให้สร้างได้บริเวณโดยรอบสถานีรถไฟฟ้าเท่านั้น จากข้อจำกัดของความกว้างถนน 6-8 เมตรดังกล่าว 4.การวางโครงข่ายคมนาคมถนนสาย ก-สาย ฉ ไม่ได้ให้สิทธิเขตทางในการพัฒนาที่ดินเหมือนกฎหมายผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร หากมีการบังคับใช้ร่างผังเมืองรวมดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯ นนทบุรี 30-40% กลุ่มรับผลกระทบสูงสุดคือตลาดบ้านผู้มีรายได้น้อย
ข้อเสนอแนะมีดังนี้ 1.ขอให้พื้นที่ผังเมืองสีเหลือง สร้างทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวได้ภายใต้เกณฑ์ถนนหน้าโครงการกว้าง 6 เมตร 2.ขอให้พัฒนาคอนโดฯ โดยมีถนนด้านหน้า 6-10 เมตร และ 3.ขอให้พิจารณาสิทธิเขตทางตามโครงข่ายคมนาคมถนนสาย ก-สาย ฉ ให้ที่ดินส่วนที่มีแนวถนนตัดผ่านสามารถใช้สิทธิเขตทางเสมือนว่าได้ถูกเวนคืนแล้ว
นายประเสริฐกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือในนามสมาคมอาคารชุดไทยขอเข้าพบตัวแทนรัฐบาลเพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาและอุปสรรค จากปรากฏการณ์ที่มีประชาชนฟ้องร้องคดีศาลปกครองมากขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามกฎหมายโดยสุจริตอาทิ กรณีโครงการได้รับอนุญาตก่อสร้างจากหน่วยงานราชการหลายหน่วย แต่มีปัญหาเมื่อลงทุนก่อสร้างไปแล้วต้องหยุดชะงัก, กรณีมีการฟ้องร้องและดำเนินคดีต่อศาลปกครองได้โดยง่าย เป็นเหตุให้โครงการต้องสะดุดหยุดลง และใช้เวลาพิจารณาคดีในศาลยาวนาน ทำให้โครงการไม่อาจดำเนินต่อไปได้
ที่มา prachachat.net