แน่นอนว่าการซื้อบ้านในหมู่บ้านจัดสรรหรือโครงการคอนโดมิเนียมโครงการต่าง ๆ นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพียงครั้งเดียวแล้วจบไป แต่ความเป็นจริงแล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมที่นอกเหนือจากค่าผ่อนบ้านและคอนโดอีกด้วย ดังนั้นคิดว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจที่จะเลือกซื้อบ้านและคอนโดอยู่เพื่อเตรียมตัวค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมในแต่ละปี
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมรายปีของคอนโดและหมู่บ้านจัดสรรแตกต่างกันหรือไม่ ?
โดยปกติแล้วนั้นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการหมู่บ้านจัดสรรจะมีลักษณะที่คล้ายกัน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้อยู่อาศัยภายในโครงการทุกคนจะต้องจ่ายให้กับทางนิติบุคคลตามกำหนดจำนวนเงินและระยะเวลาไว้ ซึ่งหากผู้อยู่อาศัยไม่จ่ายเงินตามที่นิติบุคคลกำหนดก็อาจจะถูกฟ้องและดำเนินคดีตามกฎหมายได้
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมรายปีของคอนโดและหมู่บ้านจัดสรรมีอะไรบ้าง ?
- ค่าส่วนกลาง
เป็นรายจ่ายเพิ่มเติมที่ผู้อยู่อาศัยจะต้องจ่ายในทุก ๆ ปีโดยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งค่าส่วนกลางนี้ หมายถึงเงินที่ทางนิติบุคคลจะเรียกเก็บจากลูกบ้านในทุก ๆ หลัง ไม่ว่าจะเป็นลูกบ้านคอนโดมิเนียม หรือลูกบ้านจัดสรรโครงการต่าง ๆ โดยทางนิติจะนำเงินส่วนกลางที่เก็บจากลูกบ้านทั้งหมด ไปใช้ในการบำรุงรักษาหรือพัฒนาส่วนกลางของโครงการ เช่น หากเป็นส่วนกลางคอนโด ก็จะนำไปใช้เป็นค่าจ้างพนักงานทำความสะอาด ค่าเปลี่ยนถังดับเพลิงที่หมดอายุการใช้งาน ค่าซ่อมแซมสระว่ายน้ำ ฟิตเนส หรือที่จอดรถ และหากเป็นค่าส่วนกลางหมู่บ้าน ก็จะใช้เป็นค่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัย ค่าจ้างจัดเก็บขยะ ค่าไฟฟ้าภายในส่วนกลางของหมู่บ้าน เป็นต้น
ทั้งนี้การเรียกเก็บค่าส่วนกลางจากทางนิติบุคคลของหมู่บ้านหรือคอนโดมิเนียมนั้นจะเรียกเก็บเป็นรายปี โดยอัตราค่าส่วนกลางของแต่ละโครงการนั้นจะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ทางโครงการกำหนด เช่น ทางโครงการกำหนดอัตราค่าส่วนกลาง 60 บาท/เดือน/ตารางเมตร โดยหากซื้อคอนโดมิเนียมขนาด 25 ตาราเมตร จะมีค่าส่วนกลางอยู่ที่ปีละ 18,000 บาท ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าค่าส่วนกลางนั้น ถือเป็นรายจ่ายเพิ่มเติมรายปีอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยหากกำลังตัดสินใจที่จะซื้อคอนโดสักห้องหรือบ้านสักหลัง เนื่องจากเป็นรายจ่ายที่ถือว่าสูงพอสมควร
ส่วนใครที่กำลังคิดว่าจะหลีกเลี่ยงรายจ่ายก้อนใหญ่ก้อนนี้ไป ก็ต้องบอกเลยว่าตามกฎหมายแล้วไม่สามารถทำได้ ซึ่งหากผู้อยู่อาศัยจ่ายค่าส่วนกลางคอนโดหรือหมู่บ้านไม่ตรงตามกำหนด ก็อาจจะต้องเสียค่าดอกเบี้ยปรับเพิ่มอีก 10-20% และหากไม่ทำการจ่ายให้เรียบร้อยภายในระยะเวลา 6 เดือน ก็อาจจะมีสิทธิ์ถูกส่งยื่นฟ้องศาลในที่สุด อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับนิติบุคคลของแต่ละโครงการเป็นผู้กำหนด
- ค่าประกันอัคคีภัย
ถือเป็นค่าใช้จ่ายอีกอย่างหนึ่งที่จะมาพร้อมกับการซื้อบ้านและคอนโด ซึ่งนอกจากจะถูกเรียกเก็บเมื่อจ่ายค่าผ่อนบ้านหรือคอนโดในงวดแรกแล้ว ก็ยังจะต้องถูกเรียกเก็บเป็นรายปีอีกด้วย โดยค่าประกันอัคคีภัยนี้จะเป็นการจะคุ้มครองในกรณีที่เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ฟ้าผ่า หรือแก๊สรั่วที่ทำให้เกิดไฟไหม้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วประกันอัคคีภัยจะเป็นประกันระยะสั้น โดยมีความคุ้มครองเพียง 1-3 ปีเท่านั้น ในส่วนของเบี้ยประกันก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละกรมธรรม์ หรือไม่เกิน 0.1% ของเงินคุ้มครอง โดยผู้อาศัยควรเลือกวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 70% ของราคาที่อยู่อาศัย
- ค่าประกันภัยพิบัติ
รายจ่ายในส่วนนี้นั้น ไม่ได้มีกฎหมายบังคับใช้แต่อย่างใด แต่สำหรับผู้ที่ซื้อโครงการบ้านจัดสรรโครงการไหนอยากที่จะทำประกันภัยพิบัติรายปีเอาไว้ให้อุ่นใจก็สามารถทำได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการทำประกันภัยพิบัตินั้นขึ้นอยู่กับแผนคุ้มครองที่ เช่น 100,000 บาท ก็จะต้องจ่ายเบี้ยประกันประมาณ 500 บาท/ปี เป็นต้น
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะเห็นได้ว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมรายปีสำหรับคนมีบ้านหรือมีคอนโดนั้น ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ โดยเฉพาะหากใครที่มีรายจ่ายประจำเดือนเป็นเงินจำนวนที่มากอยู่แล้วคงจะต้องยิ่งคำนวณค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้ดีเลยว่าสามารถรับผิดชอบได้หรือไม่หากจะซื้อบ้านสักหลังหรือคอนโดมิเนียมสักห้อง เพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็อาจจะทำให้เงินในกระเป๋ามีอันต้องฝืดเคืองหรือหากไม่จ่ายตามระยะเวลาที่กำหนดก็อาจจะต้องเป็นคดีความฟ้องร้องกันให้ยืดยาวเลยทีเดียว