8 วิธีแก้ปัญหา ภาวะฉุกเฉิน ผ่อนบ้าน และคอนโดไม่ไหว
1.รีบติดต่อธนาคาร ให้ทำการประนอมหนี้กับทางธนาคารที่ปล่อยกู้ ขอปรับโครงสร้างหนี้ ขอจ่ายแต่ดอกเบี้ยไปก่อน เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้ อาจจะโดยเบี้ยปรับวันละตั้งแต่ หลักร้อยถึงหลักพัน ได้ (ค่าปรับจะถูกหรือแพงอยู่ที่ราคาตัวบ้าน)
2.อย่างขาดส่งเด็ดขาด เพราะถ้าขาดส่งจะโดน ดอกเบี้ยวิ่ง โดยถ้าธนาคารไหนใจดีก็อาจจะโทรมาเตือนเรา แต่ถ้าไม่สนใจ ดอกเบี้ยก็เริ่มเบิกบานไปเรื่อยๆ จากปกติ 4-6% ตอนนี้มันกลายเป็น 15%++ และคิดดอกเบี้ยรายวันยิ่งถ้าค้างเกิน 2 เดือน ดอกเบี้ยอาจจะโดดไปหลายหมื่นได้
3.อย่าให้ธนาคารยึดห้องไปเด็ดขาด เพราะถ้าธนาคารยึดแล้วธนาคารจะปล่อยเรื่องนี้ไว้อีกนานหลายปีว่าธนาคารจะฟ้องร้องคดีและถึงจะสามารถขายทอดตลาดได้ และนั้นจะทำให้ดอกเบี้ยวิ่งไปเรื่อยๆในอัตตราผิดนัด ประมาณ 24% และถ้า 4-5 ปีผ่านไปธนาคารค่อยฟ้อง หนี้ของเราจะท่วมจนน่าตกใจอย่างแน่นอน
4.ปล่อยเช่าแบบถูกกว่าราคาห้องแถวนั้น ยกตัวอย่างง่ายๆถ้าบริเวณพื้นที่นั้น คนอื่นปล่อย 8,000 เราหั่นราคาลงมาเลยครึ่งหนึ่ง หรือ 40% เช่น 4,000-5,000 บาท เพราะอย่างน้อยเรายังได้เงินก้อนนั้นมาจ่ายค่าห้องได้
5.ปรึกษานายหน้า หรือเซลล์ของโครงการช่วยขาย โดยวิธีนี้เราจำเป็นต้องกำหนดราคาค่าคอมให้เราเขาพอประมาณ เช่น 3%-5% ของราคาขาย หรือ ให้ %เยอะกว่านี้ก็ได้
6.ปล่อยขาย แบบขาดทุนหลายแสนดีกว่าเป็นหนี้เพิ่มหลายล้าน ถ้าขายไม่ออกให้เรา ลดราคาไปเรื่อยๆ ลดจนคนสนใจ แต่ถ้าต้องทำใจนิดหน่อยเพราะว่า มือ 2 กู้ได้ 80% ยกเว้นคนชื้อเงินสด
7.รีบย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้าน เพราะจะได้ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ อัตรา 3.3% ตกลงล้านละ 33,000 บาท สองล้านก็ 66,000 บาท โดยวิธีทำเฉพาะที่ใครผ่อนมาแล้วเกิน 1 ปีถึงจะได้ยกเว้น
8.ยกให้คนอื่นไปผ่อนต่อเเบบฟรีๆ ถ้าเราทำวิธีการขายดาวน์แล้วทำยังไงคนก็่ไม่ซื้อสุดท้ายคงต้องยกให้คนอื่นไปผ่อนต่อเเบบฟรีๆ โดยเปลี่ยนชื่อห้องโอนไปให้คนที่มารับผ่อนต่อจากเรา วิธีนี้ถึงอาจจะเสียเงินที่ผ่อนมาบ้างแล้วอาจจะหลายๆแสน แต่เราก็ไม่ต้องรับภาระ “ผ่อนลม” ในอนาคตเพราะถ้ากรณีที่เราขายคอนโดไม่ออก แล้วธนาคารยึดไปขายทอดตลาดในราคา 1 ล้าน ราคาจริง 3 ล้าน เราผ่อนมาแล้ว 2 แสน สุดท้ายเราต้อง ผ่อนลมต่ออีก 1,800,000 บาท นั้นเอง
สุดท้ายคนเงินเดือนไม่เยอะจะต้องทำการบ้านก่อนซื้อบ้าน คอนโด อย่างไร อย่างสามารถอ่านต่อได้ที่
แนวทางจากประสบการณ์ตรงผ่อนบ้าน 25-30 ปี ดำเนินชีวิตอย่างไรให้รอดในปี 2019