สวัสดีค่ะ ทุกคน…หากคุณกำลังตกอยู่ในสภาวะ เงินไม่พอใช้ และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เราขอแนะนำให้คุณลองทำตามวิธีเหล่านี้ดูก่อนค่ะ
1. สำรวจพฤติกรรมการใช้เงิน
2. ไม่ก่อหนี้เพิ่ม ลดละ ความอยาก
3. หารายได้เสริม จากการทำงานพิเศษต่างๆ
แต่ถ้าหากคุณประสบกับปัญหา มีหนี้เพิ่มจากการซื้อบ้านแล้วผ่อนไม่ไหวขึ้นมาแล้วล่ะก็ “การรีไฟแนนซ์” ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมทำกันค่ะ
รีไฟแนนซ์ ก็คือ การเปลี่ยนการกู้จากผู้ให้สินเชื่อเดิมเป็นรายใหม่นั่นเอง ซึ่งสามารถอ่านคำแนะนำต่างๆได้ที่ https://www.dotproperty.co.th/url/93b1d9c
แต่สำหรับประเด็นที่มือใหม่อย่างเราต้องเรียนรู้เพิ่มเติมก็คือ 3 ข้อหลักๆ ดังต่อไปนี้
1. ผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น
เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้เราจ่ายเงินนั้นลดลงด้วยนั่นเอง
2. ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์
– ค่าใช้จ่ายจากสถาบันเดิม คือ ค่าปรับกรณีไถ่ถอนก่อนกำหนด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วระยะเวลาจะอยู่ที่ 3 ปี
– ค่าใช้จ่ายกับสถาบันทางการเงินใหม่ ได้แก่ ค่าประเมินมูลค่าหลักประกัน, ค่าธรรมเนียมการใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ รวมไปถึงค่าธรรมเนียมอัคคีภัย (ซึ่งอันนี้สามารถทำเรื่องโอนจากที่เก่ามายังที่ใหม่ได้)
– ค่าใช้จ่ายจากกรมที่ดิน ได้แก่ ค่าธรรมเนียมเงินกู้ และอากรแสตมป์
3. เงื่อนไข
ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ทุกครั้ง ต้องพิจาณาถึงเงื่อนไขของอัตราดอกเบี้ย, ค่าใช้จ่ายทั้งก่อนและหลังทำรีไฟแนนซ์ รวมถึงยอดหนี้ที่คงเหลือว่าสมควรจะรีไฟแนนซ์ในจำนวนเงินที่เหลืออยู่หรือไม่