พรบ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อภินิหารคนจนชนชั้นกลาง บีบบังคับให้บ้านแค่หลังเดียว

กฎหมาย อสังหา,กฎหมายที่ดิน,อสังหาริมทรัพย์,พรบ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
กฎหมาย อสังหา,กฎหมายที่ดิน,อสังหาริมทรัพย์,พรบ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
กฎหมาย อสังหา,กฎหมายที่ดิน,อสังหาริมทรัพย์,พรบ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
กฎหมาย อสังหา,กฎหมายที่ดิน,อสังหาริมทรัพย์,พรบ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ความเข้าใจที่คนส่วนใหญ่คิดว่า กฎหมายนี้คือกฎหมายที่ให้ความเป็นธรรม เศรษฐีที่ดินจะเดือดร้อนเพราะต้องจ่ายภาษี ต้องขายปล่อยที่ดินออกมา ลดจำนวนถือครองที่ดินลง แม้รัฐคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นจะเอื้อประโยชน์ในประชาชนส่วนใหญ่ แต่ในมุมมองของผู้เขียนนั้นกลับเห็นว่า พรบ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง นี้จะก่อให้เกิดผลกระทบกลับกันโดยสิ้นเชิง และหากเชื่อมโยงกฎหมายนี้ไปยังกฎหมายฉบับอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิ์ชาวต่างชาติครอบครองที่ดิน ซึ่งคือแผ่นดินไทย จะเห็นความน่ากลัวอย่างยิ่งที่กฎหมายนี้เป็นสิ่งที่อันตรายต่อบ้านเมือง เพราะ

  1. มหาเศรษฐีที่ดินจะไม่เดือดร้อนและจะมีที่ดินเพิ่มมากขึ้น

เพราะมหาเศรษฐีที่ดินจะผลักภาระ ภาษีที่ดินของให้กับประชาชน เพราะ มหาเศรษฐีผู้ถือครองที่ดินหลายหมื่นหลานแสนไร่ มีเงินทุนและศักยภาพมหาศาล สามารถเปลี่ยนที่ดินมหาศาลเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ผลิตวัตถุดิบการเกษตรเข้าสู่ธุรกิจที่ครบวงจรของตนเอง ภาษีที่ดินอันน้อยนิดจะถูกบวกเข้าไปในต้นทุนการผลิตสินค้า และขายให้กับประชาชน เหมือนกับ บุหรี่ เหล้า เบียร์ ไม่ว่าจะเก็บภาษีแพงแค่ไหน คนจ่ายภาษีตัวจริงก็คือคนไทยทั่วประเทศ เพราะมหาเศรษฐีเหล่านี้คือผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และกลไกตลาดแบบครบวงจรของประเทศไทย

  1. บีบบังคับให้คนไทยมีบ้านแค่หลังเดียว

ไม่ว่าบ้านหลังแรกจะมีราคาไม่กี่หมื่นบาท จนถึง 50 ล้านบาท ก็มีได้แค่หลังเดียว ถือเป็นการแช่แข็งคนจนและคนชั้นกลางไม่ให้มีโอกาสก่อร่างสร้างตัว เพราะไม่มีปัญญาเสียภาษีบ้านหลังที่สอง ไม่สามารถไต่ระดับทางเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปอีก ถ้าต้องการซื้อบ้านหลังที่สอง นอกจากค่าผ่อนบ้านแล้วต้องบวกค่าภาษีบ้านตลอดชีวิต ทำไมรัฐบาลถึงไม่ปรับฐานภาษีที่ดินและปลูกสร้างทั้งหมดรวมกันไม่เกิน 50 ล้านบาท แต่กลับเพิ่มความเลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นธรรม โดยทำให้คนมีบ้านหลัง 50 ล้านบาทมีสิทธิ์ภาษีเท่าเทียมกับคนมีบ้านไม่ถึง 1 แสนบาท เพราะอนุญาตให้มีแค่หลังเดียว ผลจาก พรบ.ฉบับนี้ ทำให้คนรวยอยู่บ้านหลังละ 50 ล้านบาท ( ตามราคาประเมิน ซึ่งความจริงอาจแพงกว่าหลายเท่า)ได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเท่ากับคนจนอยู่บ้านหลังไม่ถึง 1 แสนบาท ในขณะที่นายกรัฐมนตรีประกาศว่าจะลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เหตุใดจึงผลักดันกฎหมายที่ใช้อำนาจเพิ่มความเลื่อมล้ำทางสังคมอย่างรุนแรงต่อประเทศไทย

กฎหมาย อสังหา,กฎหมายที่ดิน,อสังหาริมทรัพย์,พรบ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
กฎหมาย อสังหา,กฎหมายที่ดิน,อสังหาริมทรัพย์
  1. บ้านหลังที่สองต้องให้เช่า ซื้อทิ้งไว้เผื่อให้ลูกไม่ได้

นับเป็นความจริงอันโหดร้าย สำหรับครอบครัวที่ต้องการสร้างอนาคตเผื่อให้ลูก แต่แทบไม่มีสิทธิหากพอกินพอใช้ แต่จะต้องมีเกินพอ คนร่างกฎหมายไม่คิดถึงความเดือดร้อนของคนจน เพราะ บ้านที่ซื้อมาไม่สามารถปล่อยเช่าได้ทุกหลัง บ้านที่ปล่อยเช่าได้ ต้องทำเลดี ซึ่งจะมีราคาแพง คนจนหรือคนชั้นกลางล่างมีสิทธิซื้อหรืออย่างไร คนเหล่านี้ซื้อเผื่อให้ลูกในทำเลที่ไม่ค่อยดี แต่ให้พอเป็นที่อยู่ที่กินสำหรับลูกหลานในอนาคต เมื่อซื้อเพิ่มอีกหลังปล่อยให้เช่าก็ไม่ได้ กลับต้องจ่ายภาษีตลอดชีวิต ลูกก็ยังเล็กโอนให้ไม่ได้ ก็จำเป็นต้องขาย หรือตัดสินใจไม่ซื้ออสังหาริมทรัพย์หลังที่ 2 อีก คนชั้นกลางถูกบีบบังคับด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายให้อยู่นิ่ง ถูกห้ามไม่ให้สร้างตัวจากอสังหาริมทรัพย์ อนาคตฝากไว้กับเงินเก็บที่ดอกเบี้ยต่ำมาก ภาษีที่รัฐบาลเก็บเพิ่มขึ้นไปไม่กี่หมื่นล้านที่น้อยกว่าการคอรัปชั่นมาก กลายเป็นกฎหมายสลายโอกาสสร้างเนื้อตัวสร้างตัวของคนชั้นกลางทั่วประเทศ อย่างไร้ความเป็นธรรม

  1. ภาษีที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมราคาถูก คือ ภาพลวงตา

กฎหมายนี้หลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ เพราะ เกษตรกรไทยตัวจริงมีที่ดินทำกินส่วนใหญ่ไม่เกิน 50 ไร่ หากมี 100 ไร่ขึ้นไปก็ถือว่าเป็นผู้อันจะกิน หากมีหลายร้อยไร่ขึ้นไปก็ถือว่าเป็นคนรวย หากมีหลายพันไร่ขึ้นไปก็เป็นเศรษฐี หากมีหลายหมื่นไร่ หลายแสนไร่ก็นับว่าเป็นมหาเศรษฐี แต่การจ่ายภาษีของมหาเศรษฐีมีที่ดินนับหมื่นแสนไร่กลับใช้อัตราเดียวกับตาสีตาสามีที่นาแค่ 1-10ไร่ ทำไมถึงไม่ใช้อัตราภาษีแบบขั้นบันได เช่น ถ้าถือครองที่ดินจำนวนมาก เช่น มากกว่า 500 ไร่ขึ้นไป ก็ควรจ่ายภาษีในอัตราก้าวหน้าเช่นเดียวกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ถ้าถือครองหมื่นไร่ก็ควรจะต้องจ่ายในภาษีในอัตราที่แพงมาก จึงจะเป็นธรรม รัฐบาลคงลืมไปว่า เงินเสียภาษีแค่ 500-1000 บาท เป็นสิ่งที่ยากลำบากมากสำหรับคนยากจนที่มีที่ดินไม่กี่ไร่ และแทบจะไม่มีกิน ในขณะเดียวกันนั้น การจ่ายเงินภาษีจำนวนมากหลายพันล้านบาทหรือหลายหมื่นล้านบาทกลับไม่มีผลกระทบใดๆต่อมหาเศรษฐีเลย เพราะภาษีเศรษฐีจะถูกผลักไปที่ผู้บริโภคคนไทยเป็นคนช่วยกันเฉลี่ยจ่าย แต่คนจนไม่มีปัญญาผลักภาระภาษีไปให้ผู้บริโภค ในขณะมหาเศรษฐีทำได้สบายมากเพราะมีกลไกธุรกิจและความสามารถในการบริหารจัดการ สุดท้ายคนจนจำเป็นต้องขายที่ดินเกษตรกรรมและที่ดินเกษตรกรรมจะถูกรวบรวมไปสู่มหาเศรษฐีเพียงไม่กี่คน ที่มีเงินความสามารถในการบริหารจัดการและกุมกลไกการตลาด ปิดช่องทางอยู่รอดของเกษตรกรรายย่อยตัวจริง สุดท้ายเกษตรกรรายย่อยจะกลายเป็นทาสในที่ดินของนายทุน ไม่ต้องย้ายออกไปแต่ถูกบังคับให้ทำงานในที่ดินเกษตรกรรมในฐานะผู้รับจ้างเพื่อความอยู่รอด นับว่าเป็นระบบทาสในเรือนเบี้ย ยุคประเทศเทศไทย 4.0

อ่านหน้า 2

ต้องการซื้อ-เช่ !!!คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่

ลงประกาศขาย-ให้เช่า ฟรี !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินกับ Dot Property ขายง่าย ขายไว ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย