ภาษีที่ดิน พ่นพิษ 50 ตระกูลดัง-เศรษฐีเก่าไม่อยากแบกภาระจ่ายภาษีเร่ขายแลนด์แบงก์หันตุนเงินสด จีบโบรกเกอร์เปิดดีลซื้อขายคึกคัก “คอลลิเออร์สฯ-เซนจูรี่ 21” เผยโอกาสเจรจาจบเร็วขึ้น จาก 4 ปีหดเหลือ 6-8 เดือน เศรษฐีภูธรเอามั่งเปิดพอร์ตขายแปลงใหญ่ ทุนจีน-ญี่ปุ่นสบช่องชวนจอยต์เวนเจอร์ “สัมมากร” ห่วงบ้านเก่า-วังโบราณเสี่ยงถูกขายทอดตลาด
ผู้สื่อข่าวสำรวจขยายผลปัญหาผลกระทบจากนโยบายรัฐบาล คสช.ที่เตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ “ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ…” ภายในต้นปี 2560 พบว่า ในมุมเจ้าของที่ดินเริ่มมีความเคลื่อนไหวเปิดเจรจาซื้อขายที่ดิน โดยเฉพาะที่ดินย่านใจกลางเมืองซึ่งมีมูลค่าสูง และส่วนใหญ่เป็นของกลุ่มเศรษฐีตระกูลเก่าแก่เนื่องจากไม่ต้องการรับภาระค่าใช้จ่ายภาษีที่ต้องจ่ายทุกปี
แลนด์ลอร์ดตื่นภาษีที่ดิน
นางสาวพรทิพย์แก้วอยู่กรรมการบริหารฝ่ายที่ดินและการลงทุน บจ.เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) ที่ปรึกษาการขายอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ปีนี้แลนด์ลอร์ดมีความเคลื่อนไหวต้องการเปิดเจรจาขายที่ดินมากขึ้นจริง วิเคราะห์ว่าภาษีที่ดินฯ เป็นแรงผลักอีกส่วนหนึ่งที่เพิ่มเข้ามา จากเดิมเพิ่งบังคับใช้ พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดก พ.ศ.2558 เมื่อ 1 ก.พ. 2559 ทำให้แลนด์ลอร์ดตัดสินใจขายที่ดินหลายแปลง โดยเฉพาะแปลงที่มีเจ้าของที่ดินร่วมหลายราย
ตัวอย่างที่ดินที่ประกาศขาย ล่าสุด แปลงที่ปิดดีลการซื้อขายอยู่ในโซนถนนประชาอุทิศ ห้วยขวาง ใกล้สำนักงานเขตห้วยขวาง ที่ดิน 10 ไร่ ขาย ตร.ว.ละ 2 แสนบาทต้น ๆ อีกแปลงอยู่บนถนนพระราม 9 ใกล้หัวมุมสี่แยกไฟแดงและใกล้คอนโดมิเนียมเดอะไลน์ อโศก-รัชดา ขายไปแล้วเช่นกันโดยไม่เปิดเผยราคา “ที่ดินเสนอขายคึกคักอยู่แนวถนนพระราม 9 รัชดาภิเษกตามแนวรถไฟฟ้า ติดถนนใหญ่ ราคา ตร.ว.ละ 4-5 แสนบาทขึ้นไป มีบางแปลงเป็นมรดกตกทอดและกรรมสิทธิ์ร่วมของกลุ่มทายาทตระกูลเก่า”
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันที่ดินย่านซีบีดีหรือศูนย์กลางธุรกิจ อาทิ สุขุมวิทตอนต้น ซอยทองหล่อ สีลม สาทร ปกติมีการเสนอขาย 1-2 แปลง/เดือน ล่าสุดมีที่ดินกลางเมืองเสนอขาย 20 แปลง/เดือนแล้ว บางแปลงยอมลดราคาลงเพื่อให้ปิดการขายเร็ว เช่น จาก ตร.ว.ละ 1 ล้านบาทลดเหลือ 7 แสนบาท “ภาษีที่ดินเป็นโอกาสที่ดีมากของดีเวลอปเปอร์เพราะมีที่ดินให้เลือกมากขึ้น บริษัทเพิ่มงบฯซื้อที่ดินปีนี้จาก 2,000 ล้านเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท” นายพีระพงศ์กล่าว
50 ตระกูลดังขยับตัว
นายสัญชัย เอกคุณากูล รองกรรมการผู้จัดการ บจ.คอลลิเออร์ส (ประเทศไทย) กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้จากธุรกรรมซื้อขายที่ดินเปล่า 40% ของรายได้รวม ข้อสังเกตมีเจ้าของที่ดินรายกลาง-รายเล็กหรือถือครองที่ดินไม่เกิน 10 ไร่ ราคาต่ำกว่า ตร.ว.ละ 2 แสนบาท เข้ามาขอให้จับคู่ซื้อขายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เจ้าของที่ดินเริ่มเห็นความจำเป็นในการขายที่ดินเปล่าออกไป แต่ยังไม่เห็นสัญญาณว่าราคาจะปรับตัวลดลงแต่อย่างใด เพียงแต่เปิดออปชั่นเจรจาจบได้ง่ายกว่าแต่ก่อน
“สำหรับคนมีที่ดินเยอะ ๆ หรือที่ดินราคาแพงในมือ ตั้งแต่มีภาษีมรดกก็กระจายความเสี่ยงด้วยการโอนเปลี่ยนมือไปรอบหนึ่งแล้ว รอบนี้ (ภาษีที่ดินฯ) เป็นการนำส่วนที่เหลือมานั่งดูว่าจะทำประโยชน์อะไรได้มากกว่า รูปแบบการขายก็พัฒนามากขึ้น แต่เดิมขายที่ดินเปล่า ปัจจุบันมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนหรือทำฟีซิบิลิตี้ และเน้นขายให้กับดีเวลอปเปอร์เพราะได้ราคาดีกว่าขายให้นักอุตสาหกรรมหรือนักลงทุนประเภทอื่น”
นอกจากนี้ความต้องการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีประเภทที่ดินเปล่าทำให้เปิดเงื่อนไขในการร่วมทุนหรือจอยต์เวนเจอร์มากขึ้นด้วย ซึ่งคอลลิเออร์สฯ มีลูกค้าแสดงความสนใจนำที่ดินเปล่ามาร่วมลงทุนพัฒนาโครงการกับนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนจีนและญี่ปุ่น ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจา 2-3 ราย ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
บ้านเก่า-วังโบราณเสี่ยงถูกขาย
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บมจ.สัมมากร เปิดเผยว่า ผลจากการเก็บภาษีที่ดินทำให้ที่ดินกลางเมืองราคาสูงและเจ้าของที่ดินที่ไม่มีกำลังพอจ่ายภาษีที่ดินทุกปี ต่างจากเดิมที่การเก็บที่ดินไว้ไม่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายอะไรเลย
จุดโฟกัสอยู่ที่หากเป็นที่ดินมรดกทางประวัติศาสตร์เป็นบ้านเก่าแก่หรือวังโบราณบนแปลงที่ดินซึ่งตกทอดในตระกูลและยังรักษาอยู่ในสภาพดีถ้าหากเจ้าของปัจจุบันไม่มีกำลังทรัพย์พอชำระภาษีที่ดินอาจต้องยอมขายที่ดินให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งการพัฒนาย่อมต้องรื้อถอนบ้านที่ควรจะได้รับการอนุรักษ์ แต่ถ้าหากมีการซื้อขายเปลี่ยนมือและรื้อถอนจริง มองว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างมาก
“ผมเสียดายบ้านเก่าสวย ๆ ที่อาจจะต้องถูกรื้อถอน อย่างบ้านเก่าของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ในซอยสวนพลู ปัจจุบันถ้าตีราคาประเมินจะสูงมาก ซึ่งเจ้าของปัจจุบันน่าจะไม่มีกำลังพอจ่ายภาษี” นายกิตติพลกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีการจับตามองบ้านเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ เช่น บ้านซอยสวนพลูที่ปัจจุบันเป็นกรรมสิทธิ์ของ ม.ร.ว.รองฤทธิ์ ปราโมช บุตรชายของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เนื้อที่ 5 ไร่ ตั้งอยู่ในซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 7 หรือซอยพระพินิจ เชื่อมต่อกับซอยสวนพลู
ภายในมีเรือนไม้ 3 หลัง ได้รับการจดทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้บุคคลภายนอกเข้าชม กรมธนารักษ์จัดทำราคาประเมินที่ดินในซอยพระพินิจรอบปี 2559-2562 เฉลี่ย ตร.ว.ละ 1.8 แสนบาท ดังนั้นราคาที่ดินบ้านเก่า ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จึงคาดว่ามีราคา 360 ล้านบาท
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปจาก prachachat.net
สำหรับท่านใดที่สนใจอยากซื้อ ขายบ้าน คอนโด หรือ ทาวน์เฮ้าส์ มือ1 มือ 2 สามารถเข้าดูได้เลยที่ https://www.dotproperty.co.th/