การได้พักผ่อนในบรรยากาศท่ามกลางแมกไม้และสายหมอกบนภูเขานั้นเเชื่อว่าป็นบรรยากาศในฝันสำหรับใครหลายคนเลยทีเดียว แต่บ้านท่ามกลางป่าเขาแบบนี้ย่อมต้องมีข้อควรระวังที่ต่างออกไปจากบ้านในเมืองอย่างแน่นอนและข้อควรระวังเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็กำหนดขึ้นเพื่อความปลอดภัยของการพักอาศัยเป็นหลัก
วันนี้ดอทจึงมานำเสนอสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อคิดจะสร้างบ้านบนภูเขา ท่ามกลางแมกไม้ในป่าสีเขียวจะสร้างบ้านที่ปลอดภัยได้อย่างไรไปดูกัน
โครงสร้างบ้านต้องทนต่อความชื้นและไฟ
บ้านบนภูเขาต้องสัมผัสกับไอชื้นจากต้นไม้และฝนอยู่บ่อยครั้งทำให้การสร้างบ้านต้องเลือกวัสดุโครงสร้างที่ทนต่อความชื้นได้เป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้ความชื้นสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างจนเกิดความเสียหายได้ โดยเฉพาะคนที่ต้องการสร้างบ้านไม้
นอกจากบ้านบนภูเขาจะต้องกันความชื้นได้ดีแล้วยังต้องมีคุณสมบัติการกันไฟอีกด้วย เพราะในฤดูแล้งมักเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าอยู่หลายครั้ง หรือเป็นการเลือกวัสดุเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนเพราะการสร้างบ้านบนเขาย่อมหลายถึงการอยู่ท่ามกลางเชื้อไฟ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ้านที่ใช้วัสดุกันไฟสร้างป้องกันความเสียหายของโครงสร้างได้
เน้นความแข็งแรงที่ตัวบ้าน
บ้านบนเขาอาจไม่ต้องเผชิญกับพายุมากนักแต่ยังคงต้องสร้างให้แข็งแรงจากโครงสร้างเพราะอันตรายจากภูเขายังคงมีมากมายเช่นไฟป่าในฤดูแล้งหรือน้ำหลากในฤดูฝน ที่สำคัญยังสามารถเกิดความเปลี่ยนแปลงเพราะรากไม้ใหย่ได้ด้วย ดังนั้นหากต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เหล่านี้จึงควรสร้างบ้านให้เน้นความแข็งแรงไว้ที่ตัวบ้าน
เว้นระยะห่างระหว่างบ้านกับต้นไม้
อย่างที่เคยได้กล่าวไปถึงเรื่องการสร้างบ้านโดยใช้วัสดุทนไฟเพื่อป้องกันความเสียหายในส่วนโครงสร้าง เรายังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้บ้านปลอดภยจากไฟป่าได้นั่นก็คือการว้นระยะห่างออกจากต้นไม้ในป่าที่รายล้อมอยู่ โดยวัดจากแรงลมว่าควรมีระยะห่างเท่าใดและด้านใดมากที่สุด
การเว้นระยะห่างอาจจะไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมดแต่ก็สามารถช่วยลดความเสียหายลงได้บ้างโดยเป็นการชะลอไม่ให้บ้านได้รับผลกระทบจากไฟเร็วเกินไปเพราะวัสดุกันไฟโดยส่วนมากจะกันได้ราว 1-3 ชั่วโมงเท่านั้น
บ้านควรสร้างบนเนินสูงกว่าต้นไม้
การสร้างบ้านบนเขานั้นนับว่ามีความเสี่ยงน้อยมากที่จะเจอกับน้ำท่วมและหากศึกษาพื้นที่มาเป็นอย่างดีแลวย่อมไม่ต้องเจอกับภัยที่เกี่ยวกับน้ำอย่างเช่นน้ำหลากเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีภัยอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้จึงควรป้องกันไว้ก่อนจะดีที่สุด ซึ่งครั้งนี้เป็นการป้องกันโดยการจัดวางตัวบ้านให้อยู่สูงกว่าระดับพื้นปกติของต้นไม้
เหตุผลที่เราควรวางตัวบ้านให้สูงกว่าระดับพื้นดินของต้นไม้เพื่อเป้นการปกป้องตัวบ้านเพราะหากเกิดน้ำท่วมหรือน้ำหลากเข้ามาต้นไม้จะช่วยดูดซับไปได้อย่างรวดเร็วแน่นอน แต่หากบ้านอยู่ระดับเดียวกันน้ำมาบ้านก็ได้รับผลกระทบทันที ไฟป่ามาก็ยังเกิดความเสียหายได้ง่ายขึ้นด้วย
รูปทรงหลังคา
สำหรับบ้านบนเขานั้นการสร้างหลังคาต้องแข็งแรงเพื่อรองรับน้ำฝน เพราะป่าไม้ต้องเผชิญกับฝนตกที่มากกว่าและรุนแรงกว่าพื้นที่ในเมือง หลังคาบ้านที่ต้องรองรับฝนตรงๆ จึงควรมีความแข็งแรงสูง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารั่งซึมและควรมีการสร้างรางระบายที่แข็งแรงและสามารถระบายได้เร็วโดยไม่สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่รอบตัวบ้าน รูปทรงหลังคาส่วนใหญ่ที่นิยมใช้จึงเป็นรูปทรงแบนหรือทรงเตี้ยเพื่อกระจายแรงและระบายน้ำฝนออกได้อย่างช้าๆ ทำให้รางน้ำฝนไม่ต้องรับปริมาณที่มากเกินไปนั่นเอง
ที่พักอาศัยนั้นมีความสำคัญอย่างมากโดยถือเป็นปัจจัยสี่ที่มนุษย์ขาดไม่ได้จึงต้องสร้างให้ทนทานมากที่สุด โดยส่วนสำคัญของบ้านบนภูเขาคือการตรวจสอบพื้นที่ในการปลูกบ้าน เพราะหากฐานไม่แข็งแรง ต่อให้บ้านแข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์ทั้งสิ้น เรื่องนี้ต้องตรวจสอบดูให้ดีก่อนนะครับ