เมื่อเร็วๆนี้กรมทางหลวงได้เปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ส่วนต่อขยายบางใหญ่-กาญจนบุรี ช่วงท่าม่วง-พุน้ำร้อน จากทั้งหมด 3 ครั้ง ผลปรากฏว่าประชาชนในจังหวัดกาญจนบุรีจำนวนมากได้มาแสดงการคัดค้าน เนื่องจากแนวเส้นทางดังกล่าวต้องตัดผ่านพื้นที่ทำการเกษตรและที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน ซึ่งต้องเวนคืนกว่า 20,000 ไร่ พร้อมเสนอให้กรมทางหลวงเลือกใช้แนวเส้นทางอื่นที่เคยศึกษาไว้ทั้งหมด 5 เส้น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทำกินของคนในชุมชน
โดยรายละเอียด 5 เส้นทางเลือกที่ศึกษาไว้ ได้แก่ 1.เส้นทางที่ 1 แนวด้านเหนือ ผ่านเขาชนไก่ (ไม่มีอุโมงค์ที่ช่วงปลายของเส้นทาง) ระยะทาง 83 กิโลเมตร 2.เส้นทางที่ 2 แนวด้านเหนือ ผ่านเขาชนไก่อีกเส้นหนึ่ง (มีอุโมงค์ยาว 2 กม.ที่ช่วงปลายของเส้นทาง) ระยะทาง 79 กิโลเมตร 3.เส้นทางที่ 3 แนวตอนกลาง ผ่านแก่งเสี้ยน (มีอุโมงค์ยาว 2 กม.ที่ช่วงปลายของเส้นทาง) ระยะทาง 76 กิโลเมตร 4.เส้นทางที่ 4 แนวด้านใต้ บริเวณอำเภอท่าม่วง (มีอุโมงค์ยาว 2 กม.ที่ช่วงปลายของเส้นทาง) ระยะทาง 82 กิโลเมตร และ 5.เส้นทางที่ 5 แนวด้านใต้ บริเวณอำเภอท่าม่วงอีกเส้นหนึ่ง (มีอุโมงค์ยาว 4 กม.ที่ช่วงปลายเส้นทาง) ระยะทาง 78 กิโลเมตร
เวนคืนพื้นที่การเกษตร 2 หมื่นไร่
นายปัญญา วุฒิประจักษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาคเอกชนในจังหวัดกาญจนบุรีและส่วนราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้นำเสนอเส้นทางที่ 1 และ 2 หรือเส้นที่ 1+2 รวมกัน และมีปลายทางเป็นเส้นที่ 1 ในขณะที่กรมทางหลวงยืนยันใช้เส้นทางที่ 4 โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ระยะทาง 36 กม. จากแยกวังศาลาผ่านหมู่บ้านจำนวนมาก เช่น หมู่บ้านศาลเจ้าโพรงไม้ อำเภอวังขนาย บ้านต้นลำใย บ้านสระเศรษฐี หนองตะโก และบ้านวังใหม่ และตอนที่ 2 จาก กม.36-กม.82+000 ผ่านหมู่บ้านอีกหลายแห่งเช่นเดียวกัน
“บริเวณบ้านใหม่ซึ่งอยู่ใต้ขอบเขตเส้นทางที่ 4 ยังมีโครงการจัดรูปที่ดินของกรมชลประทานจำนวน 20,000-30,000 ไร่ ถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของ จ.กาญจนบุรี ทำให้อาจใช้งบประมาณเวนคืนในพื้นที่มากกว่าเส้นทางสายบนที่ผ่านพื้นที่เขตทหาร นอกจากนี้ หากทำมอเตอร์เวย์บนแนวเส้นทาง 1, 2 ยังให้ประโยชน์แก่พื้นที่ 6 อำเภอของ จ.กาญจนบุรีตอนบน ได้แก่ อ.บ่อพลอย อ.หนองปรือ อ.เลาขวัญ อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวอีกด้วย สำหรับเส้นทางที่ 4 ทางกรมทางหลวงเสนอไว้นั้น จะอิงประโยชน์จากการเกิดท่าเรือน้ำลึกทวายเป็นหลัก หากท่าเรือน้ำลึกทวายไม่เกิด การทำเส้นทางมอเตอร์เวย์สายที่ 4 หรือด้านล่างของกาญจนบุรีจะไม่เกิดประโยชน์อันใด ในขณะที่เส้นทาง 1, 2 ต่อให้ท่าเรือน้ำลึกทวายไม่เกิด จ.กาญจนบุรียังได้อานิสงส์ในการเดินทาง ส่งเสริมการท่องเที่ยว” นายปัญญากล่าว
ทางหลวงยันเส้น 4 เหมาะสม
ส่วนนายวิชัย ร้อยสิริ ผู้ประกอบการโรงแรม จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เส้นทางที่ 1 และ 2 ที่ภาคเอกชนในกาญจนบุรีและส่วนจังหวัดเสนอเป็นที่ดินมีโฉนดเพียง 9,000 ไร่ นอกจากนั้น เป็นที่ของกรมธนารักษ์ ซึ่งอยู่ในการดูแลของกองทัพบก
ด้านนายสมศักดิ์ บุญประทานพร อดีตผู้อำนวยการกลุ่มงานวางแผน สำนักแผนงาน กรมทางหลวงอธิบายว่า แผนมอเตอร์เวย์ส่วนต่อขยายช่วงท่าม่วง-พุน้ำร้อน เส้นทางที่ 1 และ 2 นั้นมีพื้นที่เกือบทั้งหมดอยู่บนพื้นที่ของกองทัพบก ซึ่งใช้สำหรับฝึกนักศึกษารักษาดินแดน (รด.) และเป็นพื้นที่ของกองทัพบกสำรองไว้สำหรับการซ้อมรบในอนาคต ซึ่งหากตัดถนนมอเตอร์เวย์ผ่านจะทำให้เกิดความไม่สะดวกในด้านความมั่นคง ซึ่งที่ผ่านมากรมทางหลวงได้ทำเรื่องเสนอไปยังกรรมาธิการที่รับผิดชอบ และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และได้ข้อสรุปให้เลือกเส้นทางอื่น ๆ แทน
“เส้นทางดังกล่าวมีความยาวกว่าแนวเส้นทางที่ 4 ซึ่งโดยหลักแล้วระยะทางของการสร้างมอเตอร์เวย์ไม่ควรจะยาวและอ้อม เนื่องจากระยะทางที่เพิ่มขึ้นจะทำให้รถยนต์เสียค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกราว 1 ลิตร/คัน ไม่ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง”
ในขณะที่นายมงคล ทวีชัยทศพล ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกาญจนบุรี กล่าวว่า ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการส่งเรื่องทั้งเส้นทางที่ 1 และ 2 ของจังหวัดกาญจนบุรี และเส้นทางที่ 4 ของทางกรมทางหลวงไปให้ผู้ตรวจการแผ่นดินสรุป หากไม่มีข้อคัดค้านกรมทางหลวงจะดำเนินการออกแบบรายละเอียดโครงการตามเส้นทางที่ 4 ต่อไป
อนึ่ง รายงานข่าวกล่าวว่าผลการคัดเลือกแนวเส้นทางการจัดทำทางพิเศษกาญจนบุรี-ชายแดนเมียนมา หรือมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรีส่วนต่อขยายท่าม่วง-พุน้ำร้อนนั้น กรมทางหลวงได้เผยแพร่ข้อมูลว่า แนวเส้นทางที่ 4 มีความเหมาะสมที่สุด
โดยพิจารณาด้านวิศวกรรมและจราจรขนส่งและเศรษฐกิจการลงทุน ซึ่งมีข้อได้เปรียบด้วยระยะทางที่สั้นกว่า ตำแหน่งของโครงข่ายเส้นทางที่เหมาะสมกว่า รวมถึงรูปแบบการก่อสร้างที่ยุ่งยากน้อยกว่า แม้ว่าในการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อมจะด้อยกว่าแนวทางเลือกอื่น ๆ จากข้อเปรียบเทียบของการตัดผ่านพื้นที่ชุมชนและสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดิน
แต่เมื่อพิจารณาในภาพรวมทั้ง 3 ด้าน แนวทางเลือกที่ 4 จะเป็นแนวทางเลือกที่ได้คะแนนรวมสูงที่สุด ซึ่งจากผลการคัดเลือกนี้จะกำหนดใช้แนวทางเลือกที่ 4 เป็นแนวเส้นทางโครงการในการดำเนินงานออกแบบเบื้องต้น และศึกษาวิเคราะห์ด้านต่าง
ที่มา prachachat.net