นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้าง มอเตอร์เวย์ สายพัทยา-มาบตาพุด มีความก้าวหน้ากว่า 75% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. 2561 ขณะที่งานก่อสร้างระบบบริหารจัดเก็บค่าผ่านและซ่อมบำรุง (O&M) คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากับเอกชนได้เร็วๆ นี้ ก่อนเริ่มทดสอบระบบในปี 2562 และเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2563 สอดคล้องกับแผนงานพัฒนาเพื่อรองรับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ปี 2560 -2564 ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ
จุดเด่นของโครงการก่อสร้าง มอเตอร์เวย์ สายพัทยา-มาบตาพุด
สำหรับความพิเศษโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สาย กรุงเทพฯ-บ้านฉาง ช่วงพัทยา-มาบตาพุด กรมทางหลวงได้ใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบ โดยติดตั้งเครื่องวัดความขรุขระของผิวด้วยเลเซอร์ (Laser Profilometer) ซึ่งใช้วัดดัชนีความเรียบขรุขระสากล (International Roughness Index, IRI) หากเป็นถนนคอนกรีตต้องมีค่าต่ำกว่า 2.5 และถนนแอสฟัลต์ต้องมีค่าต่ำกว่า 2.0 จึงตรวจรับงาน อันเป็นไปตามมาตรฐานสากล และคำแนะนำของธนาคารโลก (World Bank)
อธิบดีกรมทางหลวงยังกล่าวอีกว่า เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งระหว่างภาคกลางกับภาคตะวันออกได้อย่างสมบูรณ์ นับเป็นเส้นทางสายหลักที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ซึ่งจะช่วยส่งเสริมทั้งในภาคธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยว ด้วยแนวเส้นทางที่สามารถรองรับการเดินทางและการขนส่งสินค้าในภาคตะวันออกไปยังทั่วทุกภูมิภาค เชื่อมโยงกับท่าเรือแหลมฉบังและนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการขนส่งทางรถไฟ และการขนส่งทางอากาศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานอู่ตะเภา เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายโลจิสติกส์ของประเทศ เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียน
อนึ่งทางหลวงหมายเลข 7 สายพัทยา-มาบตาพุด เป็นการก่อสร้างเส้นทางสายใหม่ ผ่านพื้นที่ 2 จังหวัด มีจุดเริ่มต้นที่ กม. 2+300 เชื่อมกับทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ผ่านอำเภอบางละมุง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี สิ้นสุดที่เทศบาลเมืองมาบตาพุด จังหวัดระยอง บริเวณ กม. 34+400 ระยะทางรวม 32 กม ใช้งบประมาณการก่อสร้าง 14,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณจากกองทุนเงินค่าธรรมเนียมผ่านทางของทางหลวงพิเศษสำหรับงานก่อสร้างในส่วนงานโยธา แบ่งออกเป็น 13 สัญญา
ที่มา prachachat.net