วันนี้เรามา อัพเดตสถานการณ์ ณ ไตรมาส 2/61 พบว่า การเริ่มต้นทำงานไซต์ก่อสร้าง รถไฟฟ้าสายสีทอง เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาควบคู่การประกาศเปิดบริการเป็นทางการของโครงการไอคอนสยาม ด้วยพื้นที่ 7.5 แสนตารางเมตร มูลค่าลงทุน 5.4 หมื่นล้านบาทภายในสิ้นปี 2561
คอนโดเปิดขายใหม่ และ เปิดขายสะสมตามแนว รถไฟฟ้าสายสีทอง
จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า และตลาดคอนโดฯริมน้ำเจ้าพระยาในบริเวณใกล้เคียง ก่อนหน้านี้การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าต่อขยายสถานีกรุงธนบุรีเมื่อปี 2552 แต่ผลตอบรับในทำเลยังไม่บูมมากมายนัก เพิ่งมีตัวช่วยสำคัญ 2 โครงการดังกล่าว
โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีทอง 2.8 กิโลเมตร 4 สถานี เส้นทางเชื่อมสถานีกรุงธนบุรี เลาะตามแนวถนนเจริญนคร สิ้นสุดที่เชิงสะพานพระปกเกล้า โดยเฟสแรกเริ่มตอกเสาเข็มช่วงกรุงธนบุรี-คลองสาน ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร ลงทุน 1,070 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างเสร็จเปิดบริการปลายปี 2562
โมเดลสายสีทอง ค่าบริการ 15 บาท คาดการณ์ผู้โดยสารเฉลี่ย 47,300 เที่ยวคน/วัน
สำหรับตลาดคอนโดฯปัจจุบันมีจำนวน 1,116 ยูนิต ขายแล้ว 85% 974 ยูนิต เหลือขาย 15% 169 ยูนิต
ปัจจุบันอยู่ระหว่างขาย 3 โครงการ มูลค่ารวมกัน 28,500 ล้านบาท ได้แก่ บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ แบ็งคอก 133 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท มียอดขาย 40%, เดอะริเวอร์ 837 ยูนิต มูลค่า 13,000 ล้านบาท มียอดขาย 92% และแมนดาริน โอเรียนทอล 146 ยูนิต มูลค่า 9,000 ล้านบาท มียอดขาย 85%
ส่วนกระแสฮือฮามากที่สุดเป็นสถิติปิดการขายใน 1 ชั่วโมง 578 ยูนิต มูลค่า 2,400 ล้านบาทแบรนด์ “ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร” ของค่ายศุภาลัย ในด้านราคาเฉลี่ยห้องชุดอยู่ที่ 223,000 บาท/ตารางเมตร เหตุผลเพราะส่วนใหญ่เป็นห้องชุดทำเลริมเจ้าพระยาซึ่งมีดีมานด์รองรับสูงอยู่แล้ว สอดคล้องกับภาวะราคาที่ดินที่แนวโน้มทวีมูลค่าเช่นกัน จากปีฐาน 2554 จากตารางวาละ 1-2 แสนบาท โต 240% เป็นตารางวาละ 265,000 บาท
ทั้งนี้ ในปี 2557 ราคาปรับตัวเพิ่มอีก 70% แบ่งเป็นทำเลริมน้ำตารางวาละ 450,000 บาท สูงกว่าฝั่งไม่ติดริมน้ำที่มีราคาตารางวาละ 300,000-400,000 บาท
ที่มา prachachat.net
