หลังจาก คสช.เข้ามาจัดการบริหารประเทศ โครงการใหญ่ๆหลายโครงการมีแนวโน้มว่าจะได้ทำแน่ๆ และ เศรษฐกิจก็เริ่มขยับเดินหน้าไปเรื่อยนั้น ตอนนี้มีข่าวออกมาแล้วว่าจะมีการเปิดซองประมูลโครงการยักษ์ที่รอคอยกันมานานตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วนั่นคือโครงการ รถไฟรางคู่สายชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ช่วง ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ซึ่งมีผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ได้เข้าซื้อซองประมูล ได้แก่ ด้านอิตาเลียนไทย-ช.การช่าง-เนาวรัตน์พัฒนาการทีซีซี กิจการร่วมค้าทิพากรร่วมกับไชน่าฮาร์เบอร์จากจีน แต่ไม่มี ชิโนไทยเข้าร่วมซื้อซอง
ซึ่งคาดว่าจะยื่นซองประกวดราคาภายในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ ซึ่งได้รับการเปิดเผยจาก คุณ ทีซีซี กิจการร่วมค้าทิพากรผนึกไชน่าฮาร์เบอร์จากจีน กล่าวว่า จากที่เปิดขายซองประกวดราคานั้นจะมีการจัดการประมูลประกวดราคาด้วยวิธีอิเลคทรอนิคส์ เพื่อให้ได้ผู้รับเหมาที่สามารถเริ่มการก่อสร้างรางรถไฟทางคู่ในสายดังกล่าว ซึ่งเป็นสัญญาที่ 2 ของโครงการก่อสร้าง ซึ่งมีรายชื่อทั้งหมดที่ซื้อซองไปแล้วนั้นสรุปรวม 6 ราย คือ 1.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) 2.บริษัท กิจการร่วมค้า ทีซีซี จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมกันระหว่างบริษัททิพากร จำกัดและกลุ่มบริษัทไชน่าฮาร์เบอร์จากประเทศจีน 3.บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) 4.บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด(มหาชน) 5.บริษัท ซัน เทคโนโลยี แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และ 6. บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด
ซึ่งผู้เข้าประมูลทั้งหมดได้ไปตรวจสอบสภาพพื้นที่และทราบถึงแผนการทำงานต่างที่ทาง ร.ฟ.ท.ได้กำหนดเป้าหมายขอบเขตของงานประมูลนี้คือ งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ ที่ต้องการจ้างมีดังนี้คือ งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่เพิ่ม 1 ทาง ขนานเส้นทางรถไฟเดิม เริ่มจากหลังสถานีวิหารแดงไปสิ้นสุดที่ก่อนเข้าสถานีบุใหญ่ ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร งานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟทางเดี่ยวคู่ขนานกับอุโมงค์ทางเดี่ยวเดิมลอดผ่านใต้เขาพระพุทธฉาย รวมระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร และงานก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง รวมความยาวประมาณ 60 เมตร ส่วนราคากลางของงานก่อสร้างในการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 621,063,070 บาท (หกร้อยยี่สิบเอ็ดล้านหกหมื่นสามพันเจ็ดสิบบาทถ้วน) รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม7 % แล้ว
ซึ่งทั้งหมดได้ดูสภาพพื้นที่จริง และ ทราบถึงแผนงานต่างๆ ซึ่งเมื่อประกาศรายชื่อผู้ได้รับการประมูลแล้วนั้นคาดว่าจะสามารถเริ่มงานได้ทันที่เพื่อความรวดเร็ว อีกทั้งยังมีโครงการของรถไฟรางคู่ในเส้นทางอื่นๆ ที่จะทยอยเปิดให้ประมูลเป็นช่วงๆ ตามที่ได้วางแผนไว้เพื่อพัฒนาระบบขนส่งให้ครอบคลุม ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อหลายๆภาคส่วนเพราะราคาที่ดินในบริเวณใกล้เคียงก็น่าจะสูงขึ้น และ คาดว่าหลังจากนี้โครงการต่างๆน่าจะมีการขยับตัวเพราะในเมื่อภาครัฐมีการก่อสร้างระบบขนส่งออกไปยังภูมิภาคนั่นก็เหมือนการส่งสัญญาณให้เอกชนเริ่มขยับตัวตามเพื่อกระจายความเจริญไปยังภูมิภาคนั้นๆด้วย
- ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ PR@Thailand-Property.com