DotProperty.co.th

รวม 7 วิธีรวยด้วยอสังหาสำหรับคน GEN ใหม่ ลงทุนยังไงได้บ้าง?

เมื่อพูดถึงการลงทุน แน่นอนว่า คนรุ่นใหม่ย่อมรู้จักและเริ่มต้นการลงทุนได้ค่อนข้างไว เพราะสมัยนี้การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เป็นไปได้โดยง่าย เพียงไม่กี่คลิกก็สามารถหาข้อมูลไปจนถึงเริ่มต้นลงทุนได้ด้วยตัวเองแล้ว ไม่เว้นแม้แต่การลงทุนอสังหาฯ ที่ในปัจจุบันก็มีรูปแบบการลงทุนใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมนี้ที่น่าสนใจไม่น้อย ว่าแต่จะมีรูปแบบการลงทุนอสังหาฯ ไหนที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่บ้าง ตามไปดูพร้อมๆ กันกับ 7 วิธีรวยด้วยอสังหาฯ ที่ Dot Property นำมาฝากกันในบทความนี้กันดีกว่าครับ

1. การลงทุนในโทเคนดิจิทัล (Digital Token)

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม่แต่การลงทุนในโทเคนดิจิทัลที่มีอสังหาริมทรัพย์หรือกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์อ้างอิง (Real Estate-Backed ICO) เพื่อรองรับโลกการเงินดิจิทัลในอนาคต โดยผู้ประกอบการอสังหาฯ ร่วมกับผู้นำเทคโนโลยี เช่น บล็อกเชน มาใช้ในการระดมทุนโดยการออกเหรียญดิจิทัล เพื่อเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป และนำเงินที่ได้ไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยผู้ถือโทเคนดิจิทัลจะได้รับผลตอบแทน สิทธิ หรือประโยชน์ต่างๆ ตามที่ผู้ออกโทเคนดิจิทัลกำหนด โดยเราเรียกวิธีการนี้ว่า “Initial Coin Offering” หรือ “ICO”

2. การลงทุนแบบปล่อยเช่ารายวัน

หากทำเลนั้นเป็นทำเลที่มีความต้องการมาก การลงทุนปล่อยเช่ารายวันโดยให้โรงแรมบริหารจัดการก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการลงทุนอสังหาฯ ที่น่าสนใจ เนื่องจากทางนักลงทุนจะได้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผลและจำนวนวันเข้าพักส่วนตัว เรียกว่า Time share ซึ่งมีข้อดีตรงที่จะมีคนจัดการเรื่องปล่อยเช่าและการบำรุงรักษาห้อง โดยที่นักลงทุนไม่ต้องจ่ายค่าบำรุงรักษารายปี โดยในปีแรกๆ ผลตอบแทนจะต่ำมากแต่จะค่อยๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านไป แต่การลงทุนประเภทนี้จะมีข้อควรพิจารณาสำคัญ คือ สัญญาต้องระบุชัดเจนเรื่องแบรนด์โรงแรม อัตราการเข้าพัก และทำเลที่มีนักท่องเที่ยว เป็นสำคัญ

3. การลงทุนเป็นนายหน้าอสังหาฯ

เป็นวิธีการลงทุนที่ใช้ Connection ในการสร้างรายได้และกำไรเป็นหลัก โดยการหาคนซื้อและคนขายที่มีความต้องการตรงกันให้มาเจอกันโดยผ่านนายหน้าอย่างเรา ซึ่งหากการตกลงซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เป็นไปด้วยดี นายหน้าอสังหาฯ จะได้ค่าส่วนต่างประมาณ 3% หรือคิดง่ายๆ ล้านละ 30,000 บาท จากราคาขายและขึ้นอยู่กับการตกลงตามเงื่อนไขที่ได้ทำสัญญาไว้

4. การลงทุนปล่อยเช่ารายเดือน

เน้นผลตอบแทนเป็นค่าเช่า (Rental Yield) เช่น นักลงทุนซื้อห้องชุดมาปล่อยเช่ารายเดือน ได้ผลตอบแทนปีละ 5-8% แล้วแต่ทำเล ซึ่งถ้านักลงทุนสามารถเลือกหาบ้านหรือคอนโดเก่าที่ตั้งอยู่ในทำเลดี เดินทางสะดวก เป็นที่ต้องการของผู้ซื้อและผู้เช่า โดยจำเป็นต้องมีต้นทุนไม่สูง เพื่อให้สามารถปรับปรุง ซ่อมแซม แล้วขายต่อหรือปล่อยเช่าได้ราคาดี ก็จะช่วยทำให้ได้รายรับที่สามารถช่วยผ่อนอสังหาฯ นั้นๆ ให้กับคุณโดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินของคุณเองเลย

5. การลงทุนแบบซื้อมาขายไป

เน้นอัตรากำไรส่วนเกิน (Capital gain) นักลงทุนอาจแค่ทำการจองกรรมสิทธิ์แล้วขายต่อเอากำไรเลยก็ได้ ภาษานักลงทุนเรียกว่า ฟลิป (flip) ส่วนใหญ่จะเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น ประมาณ 1-2 ปี

6. การลงทุนในกองทุน

เป็นการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่ง โดยที่ผู้จัดการกองทุนจะระดมเงินทุนจากเราหรือประชาชนทั่วไป โดยการขายหน่วยลงทุน และนำเงินทุนที่ได้ไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม โรงงาน หรือโกดังสินค้า โดยรายได้ของกองทุนจะคืนกลับให้นักลงทุนเป็นเงินปันผล สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนในตลาดหลักทรัพย์ได้

7. การลงทุนแบบเก็งกำไร

เป็นวิธีการเก็งกำไรจากใบจอง ซึ่งเป็นการเก็งกำไรในระยะเวลาอันสั้นหรือไม่เกิน 1 เดือน และจะใช้เงินทุนประมาณ 50,000 – 100,000 บาท ส่วนกำไรมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับดีมานด์ความต้องการและความน่าสนใจของโครงการนั้น ซึ่งปกติแล้วจะได้กำไรประมาณ 20-40% แต่นักลงทุนจำเป็นต้องศึกษาเรื่องความต้องการของผู้ซื้อ รวมถึงจำนวนโครงการคอนโดที่ขายในย่านนั้นให้ดี รวมไปถึงเรื่องของทำเล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ขายใบจองได้เร็วและไม่ขาดทุนเอาไว้ด้วย

และนี่คือ 7 วิธีรวยด้วยอสังหาฯ ที่ไม่ได้มีแต่วิธีการซื้อบ้านหรือคอนโดมาแล้วทำการขายไปเท่านั้น แต่ยังมีวิธีการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งก็ต้องทำการศึกษาเทคนิคและรายละเอียดของการลงทุนแต่ละประเภทให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อนเพื่อป้องกันการสูญเงินต้นหรือขาดทุนที่อาจจะตามมาได้