คอลลิเออร์สชี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องการ รัฐบาล ที่มีเสถียรภาพ ยกช่วง 5 ปีรัฐบาล คสช.ตลาดคอนโดมีเนียมในกรุงเทพฯเปิดโครงการใหม่ท่วมท้นรวม 2.45 แสนยูนิต สูงกว่ายุคกีฬาสีการเมืองเกือบ 14% หลังเลือกตั้งตลาดกลับมาคึกคักอีกครั้ง ท่ามกลางปัจจัยลบมาตรการแอลทีวี-กม.ภาษีที่ดินบังคับใช้
รัฐบาล คสช. กับ5 ปีที่ผ่านมา เปิดตัว คอนโด ทะลุ 2.45 แสนยูนิต
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์หลังการเลือกตั้ง ในรอบนี้คนไทยมีความตื่นตัวค่อนข้างสูง สังเกตจากการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ใช้สิทธิ์ค่อนข้างสูงและจำนวนนี้ออกมาลงคะแนนค่อนข้างสูงเช่นกัน ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ ดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ วางแผนเปิดตัวหลังการเลือกตั้ง ถือว่าการเลือกตั้งเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกจุดหนึ่งที่จะกระทบต่อ ภาคอสังหาริมทรัพย์ “ภาคอสังหาฯไม่ได้มองการเลือกตั้งว่าพรรคการเมืองไหนจะได้เป็นรัฐบาล และเข้ามาแล้วจะมีนโยบายหรือออกนโยบายมาสนับสนุนภาคอสังหาฯ ส่วนใหญ่ให้น้ำหนักกับเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่ดังนั้นเสถียรภาพการจัดตั้งรัฐบาลเป็นสิ่งสำคัญมาก หากรัฐบาลเข้ามาบริหารแล้วมีการเปลี่ยนรัฐบาล หรือเกิดการรัฐประหารบ่อยๆ จะมีกระทบต่อภาคอสังหาฯโดยตรง” สะท้อนโดยอุปทานในกลุ่มคอนโดมิเนียมตั้งแต่ปี 2557 หลังจาก คสช.เข้าควบคุมการบริหารประเทศ ช่วง 5 ปีของการรัฐประหาร ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ มีการเปิดใหม่รวม 2.45 แสนยูนิต เฉลี่ยเปิดใหม่ปีละประมาณ 49,000 ยูนิต เปรียบเทียบกับ 5 ปีก่อนจะมีรัฐประหารซึ่งช่วงนั้นจะมีการประท้วงค่อนข้างมาก หรือเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยๆ ในช่วงปี 2552-2556 อุปทานเปิดใหม่กลุ่มคอนโดมิเนียมอยู่แค่ 2.19 แสนยูนิต เฉลี่ยปีละประมาณ 43,000 ยูนิต เปรียบเทียบแล้วเพิ่มขึ้นประมาณเกือบ 14% “จากตัวเลขที่ยกมา ตั้งแต่ปี 2557-2561 นั้น ในบางปีมีการเปิดใหม่ของคอนโดมิเนียมค่อนข้างมาก เช่น ปี 2561 สูงถึง 66,000 ยูนิต ดังนั้น เสถียรภาพของการเมืองเป็นสิ่งสำคัญและเป็นสิ่งที่ดีเวลลอปเปอร์ต้องการจากภาคการเมืองจริงๆ ให้บริหารบ้านเมืองครบเทอม 4 ปี แต่ก็ต้องการนโยบายสนับสนุนภาคอสังหาฯด้วย” หลังการเลือกตั้งดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่วางแผนเปิดตัวค่อนข้างคึกคัก
เศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาฯจะกลับมาคึกคักแน่นอน
ที่มา thansettakij.com