คมนาคมของบ ทะลุ5 แสนล้าน ทุ่มสร้างสายสีแดง-รถไฟทางคู่-สนามบินภูธร เพื่ออนาคตของไทย

รัฐบาล

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2564 กระทรวงคมนาคมได้ทำคำของบแก่ รัฐบาล ประมาณไว้ที่ 514,535.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68,591.6895 ล้านบาทจากปีงบประมาณปี 2563ที่ทำคำขอไว้ที่ 445,943.4767 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.38% แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 124,105.10 ล้านบาท คิดเป็น 24.12% ของงบประมาณทั้งหมด และงบลงทุน 390,430.06 ล้านบาท คิดเป็น 75.88% ของงบประมาณทั้งหมด

รัฐบาล ทุ่มสร้างสายสีแดง-รถไฟทางคู่-สนามบินภูธร ทะลุ5 แสนล้าน เพื่ออนาคตของไทย

หากจำแนกตามสายงาน พบว่าทางบกทำคำขอมากที่สุดที่ 340,283.25 ล้านบาท คิดเป็น 66.13% ของงบประมาณทั้งหมด รองลงมาเป็นทางราง 141,121.49 ล้านบาท คิดเป็น 27.43% , ทางอากาศ เป็นอันดับ 3 ขอไว้ที่ 18,859.90 ล้านบาท คิดเป็น 3.67%, ทางน้ำขอไว้ 12,597.60 ล้านบาท คิดเป็น 2.45% และด้านนโยบายขอไว้ 1,672.92 ล้านบาท คิดเป็น 0.33%

 

รถไฟ-กรมท่า-เจ้าท่า ขอเพิ่มมากสุด

รัฐบาลสำหรับหน่วยงานที่ทำคำของบประมาณเพิ่มสูงสุด อันดับแรกคือ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)ทำคำของบประมาณปี 2564 ที่ 90,955.1850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77,380.2898 ล้านบาท หรือคิดเป็น 570.02% จากที่ได้รับจัดสรรในปีงบประมาณ 2563 ที่ 13,574.8952 ล้านบาท เนื่องจากมีรายการชำระหนี้ที่ครบกำหนดในปี 2564 หลายรายการรวมเป็นเงินจำนวน 37,369.82 ล้านบาท และมีโครงการลงทุนที่จะต้องดำเนินการในปี 2564 หลายโครงการ เข่น โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง 4 สาย ได้แก่ ช่วงรังสิต – ม.ธรรมศาสตร์ , ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา, ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราชและ ช่วงช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก กับ ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง และรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 สาย ช่วงบ้านไผ่-นครพนม และช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ถัดมา กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ทำคำของบประมาณปี 2564 ที่ 16,867.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,201.88 ล้านบาท หรือคิดเป็น 197.72% จากที่ได้รับจัดสรรในปีงบประมาณ 2563 ที่ 5,665.61 ล้านบาท เนื่องจากต้องขยายทางวิ่งในสนามบินตรังและนครศรีธรรมราช แต่ก็ให้ไปดูเพิ่มมาว่า มีพื้นที่พอขยายหรือไม่ เพราะหากยังไม่มีก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการกำหนดพื้นที่เวนคืนและศึกษารายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งถือว่าโครงการนั้นยังไม่มีความพร้อมและจะฉุดการเบิกจ่ายงบประมาณด้วยและสุดท้าย กรมเจ้าท่า (จท.) ทำคำของบประมาณปี 2564 ที่ 12,597.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,226.62 ล้านบาท หรือคิดเป็น 188.21% จากที่ได้รับการจัดสรรในปีงบประมาณปี 2563 ที่ 4,370.99 ล้านบาท โดยงบที่เพิ่มขึ้นมาจากการศึกษาความเป็นไปได้โครงการท่าเรือสงขลา 2 นอกจากนี้ได้เรียนกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่าจะของบกลางในปี 2563 เป็นจำนวน 800 ล้านบาท เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบตรวจการณ์ชายฝั่ง (VTS) บริเวณชายฝั่งอันดามัน เพื่อรองรับการมาตรวจขององค์การการเดินเรือระหว่างประเทศ (IMO) ในช่วงเดือน ก.พ. 2564

ส่งรายละเอียดโครงการ14ม.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม การทำคำของบประมาณดังกล่าวเป็นเพียงกรอบเบื้องต้น ได้ให้แต่ละหน่วยงานไปปรับปรุงรายละเอียดในแต่ละรายการของบประมาณมาให้เรียบร้อย โดยจะนัดประชุมเรื่องนี้อีกครั้ง‪ในวันที่ 14 ม.ค.‬นี้

“จากการดูแผนทำคำของบประมาณของแต่ละหน่วยงานแล้ว ก็ได้ให้ให้แต่ละหน่วยไปทบทวนแผนงานที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรมาใหม่ เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น งานบางอย่างใช้เทคโนโลยีทดแทนได้ ก็ให้แต่ละหน่วยไปคิดมาว่าจะบริหารบุคลากรที่มีให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ามาอย่างไร เพราะน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้กระทรวงประหยัดงบประมาณรายจ่ายประจำได้”

สั่งทบทวนโครงการเกิน1พันล้าน

ส่วนโครงการขนาดใหญ่ตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไปที่รอลงทุน ให้ไปทบทวนว่าแต่ละโครงการที่รออนุมัติ ได้นำแนวทางการบริหารจัดการจราจรในงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างในพื้นที่การจราจรหนาแน่น 6 มิติ ที่เคยให้ไว้ไปประกอบแล้วหรือยัง เพราะจะทำให้มีปัญหาซ้ำซากอย่างที่เคยเกิดขึ้นและให้ไปตรวจสอบว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ขอมา มีความพร้อมในการลงทุนจริงหรือไม่ โดยให้ทำ Action Plan มาแสดงด้วยว่าจะบริหารงบประมาณอย่างไร เพราะในปี 2562 กระทรวงมีปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้ามาแล้ว อันมีสาเหตุมาจากการจ่ายค่าเวนคืนโครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่ – กาญจนบุรี รวมถึงให้ดูงบประมาณที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ด้วย เพราะที่ผ่านมาขาดการทำความเข้าใจกับประชาชน ทำให้ประชาชนไม่เข้าใจถึงเป้าหมายและขั้นตอนการดำเนินการโครงการ

ที่มา prachachat.net