ใครที่ผูกพันกับบ้านเก่าที่เคยอยู่มาตั้งแต่เด็ก ถ้าจะให้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นก็อาจจะเป็นเรื่องยากสักหน่อย งั้นเรามาดูวิธีการรีโนเวทบ้านเก่าแต่ครั้งเยาว์วัยให้กลายเป็นบ้านทันสมัย ที่อบอุ่นและแสนน่าอยู่กันเถอะค่ะ
เช่นเดียวกับบ้านที่เราพามาดูในวันนี้ เป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1950 ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาสู่เจ้าของบ้าน เขารักและผูกพันกับบ้านหลังนี้มาก เนื่องจากอยู่มาตั้งแต่เกิด ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว ร่มรื่นไปด้วยสวนหน้าบ้านและสวนหลังบ้าน แต่โครงสร้างบ้านเดิมค่อนข้างแคบและทึบ ไม่ค่อยมีแสงสว่างลอดผ่านสักเท่าไหร่
จึงได้ทำการปรึกษากับสถาปนิกและนักออกแบบ ให้ออกแบบบ้านหลังนี้ให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพิ่มช่องหน้าต่างเพื่อให้แสงสว่างสามารถเข้าไปในตัวบ้าน บ้านจึงดูปลอดโปร่งโล่งสบายมากขึ้น ตอนกลางวันจึงแทบไม่ต้องเปิดไฟและเครื่องปรับอากาศเลย ประหยัดไฟได้มากขึ้นด้วย
ส่วนภายนอกก็มีการปรับแต่งภูมิทัศน์ให้ดูทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการโรยหินกรวด ใช้กระถางต้นไม้รูปทรงสี่เหลี่ยม และเพิ่มไม้พุ่มหลากหลายสายพันธุ์ที่รูปร่างหน้าตาแตกต่างกัน นอกจากนี้มีการออกแบบพื้นที่สำหรับการนั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจเพิ่มเติมเข้าไปด้วย
มาดูภายในบ้านกันบ้างค่ะ ภายในบ้านทาผนังสีขาวเพื่อเพิ่มความสว่าง และทำให้บ้านดูกว้างขึ้น ส่วนพื้นปูด้วยไม้ปาร์เก้ให้ความรู้สึกอบอุ่น หนำซ้ำยังดูแลรักษาง่ายอีกด้วย ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ก็จะเป็นสีที่ค่อนข้างคุมโทน เพื่อความสบายตา
อย่างห้องนั่งเล่น สามารถมานอนเอนหลังดูโทรทัศน์บนโซฟาขนาดใหญ่สีเทา การใช้ไม้เป็นกรอบประตูกั้นระหว่างห้องนั่งเล่น กับห้องครัวก็เก๋ไปอีกแบบนะ ซึ่งสามารถบิลท์อินชั้นวางทีวี ตู้เก็บไวน์ และเตาอบในนี้ได้เลย
ห้องครัวดีไซน์โมเดิร์น ครบครันไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เน้นสีขาว-ดำเป็นหลัก มีการบิลท์อินตู้เก็บของเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีเคานท์เตอร์บาร์พร้อมเก้าอี้ทรงสูงตรงส่วนเตรียมอาหาร ส่วนโต๊ะรับประทานอาหารจะอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เป็นโต๊ะไม้สีเข้มขนาดใหญ่ พร้อมด้วยเก้าอี้ดีไซน์สวยสีฟ้าพาสเทล
ที่มา : stuartsampleyarchitect