ใครที่กำลังมองหาการ ลงทุน ในภาคอสังหาริมทรัพย์ คงต้องหยุดชะงักกันบ้าง หลังจากที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน ได้มีมติเสียงข้างมากให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% มีผลทันทีเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เป็นการทำให้อัตราดอกเบี้ยกลับมาต่ำสุด นับตั้งแตวิกฤติการเงินโลกในปี 2009 ในเมื่อเป็นแบบนี้ เราจะยังคงสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้อยู่หรือไม่
เศรษฐกิจซบเทรา ลงทุนในตลาดอสังหายังไงให้ ไม่เจ็บตัว
ในช่วงที่แบงก์ชาติยังมีการปรับใช้นโยบายควบคุมสินเชื่อ LTV ถือว่าเป็นช่วงเวลาขาลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะยอดซัพพลายล้นตลาดยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มของคอนโดมิเนียม ที่เหลือตกค้างกันหลายโครงการ ทำให้เหล่าดีเวลลอปเปอร์ถึงขั้นต้องออกโปรลดแลกแจกแถมกันเสียยกใหญ่ หวังระบายสต๊อกและปิดยอดให้ได้ก่อนจบปี 2019 และสำหรับนักลงทุนที่ยังอยากจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เรามาดูกันว่าเราจะสามารถลงทุนกับอะไร และโอกาศในการลงทุนช่วงนี้คืออะไรบ้าง
จะลงทุนคอนโด ทำเลต้องดีจริงๆ
ถึงแม้ว่าตลาดคอนโดจะไม่สู้ดีนัก ไตรมาส 3/62 เปิดขายใหม่น้อยกว่าช่วงเดียวกันปี 61 ถึง 40 % แต่ก็เปิดขายมากกว่าไตรมาสก่อนหน้าถึง 53% โดยโครงการส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนวรถไฟฟ้า เพราะยังคงเป็นโครงการที่ตลาดยังคงให้ความสำคัญ และมีความต้องการสูง แต่ก็ยังมีข้อสังเกตคือ โครงการส่วนใหญ่ที่เปิดขายใรช่วงไตรมาส 3 จะเป็นโครงการที่มีราคาไม่เกิน ตารางเมตรละ 100,000 บาท เพื่อเจาะกลุ่มฐานลูกค้าใหม่ เลี่ยงมาตรการ LTV รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าที่มีเงินเย็นไม่มากนัก พอที่จะลงทุนกับการกู้เพียง 80% ได้ และหากคุณมีความพร้อมมากพอที่จะลงทุนกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ สิ่งแรกที่ควรจะโฟกัสเลยคือ ทำเล เพราะมันจะเป็นกลุ่มแรกที่เมื่อถึงช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว จะกลับเข้าสู่ตลาดได้เร็วยื่งขึ้น
บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ยังได้ไปต่อ
ถึงแม้ว่ามาตรการ LTV จะส่งผลต่อตลาดคอนโดเป็นอย่างมาก แต่กับโครงการบ้านจัดสรร ทาวน์โฮมยังคงได้รับความต้องการอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าด้านการลงทุนจะไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก แต่ก็เป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ได้รับผลกระทบน้อยมาก ซึ่งใครที่ลงทุน ซื้อบ้านเก็งกำไรหรือปล่อยเช่าระยะยาว คงไม่ต้องปวดหัวมากนัก โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคงเป็นกลุ่มผู้อยู่อาศัยรอบนอกกรุงเทพเสียเป็นส่วนใหญ่ และถึงแม้เราจะบอกว่าบ้านเป็นตัวเลือกที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มสินเชื่อน้อยกว่าคอนโด แต่สภาพคล่องในการลงทุนปล่อยเช่าแบบเสือนอนกินก็เป็นไปได้ยากกว่าคอนโดเช่นกัน ข้อนี้จึงเป็นที่ต้องพิจารณาสำหรับคุณในการลงทุนเป็นอย่างมาก
เก็บเกี่ยวอสังหาขาลง โปรโมชั่นจัดเต็มพร้อมโปร ลด-แลก-แจก-แถม
เมื่อเศรษฐกิจซบเซา ดีมานด์หด ซัพพลายเหลือ เหล่าผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ต่างออกโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นตลาดเพื่อให้กลับมาอีกครั้ง จึงเป็นโอกาสให้คุณได้เป็นเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในราคาที่ถูกลงกว่าราคาตลาด เรียกได้ว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาตักตวงสำหรับคนที่มีความพร้อมในการลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะจะได้เป็นผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด
ปล่อยเช่า ดูจะคุ้มค่ากว่าลงทุนระยะสั้นแบบเก็งกำไร
เวลาที่สภาพคล่องทางเศรษฐกิจไม่ดี เราจะเลือกซื้อหรือเลือกเช่า? แน่นอน เพราะเป็นการป้องกันความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุทางการเงิน หลายคนจึงเลือกที่จะเช่าอยู่เพื่อลดภาระรายจ่ายที่หนักอึ้งระยะยาว จึงเป็นเหตุทำให้ตลาดให้เช่าที่อยู่อาศัยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ยิ่งผนวกเข้ากับ มาตรการคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ทางแบงก์ชาติได้เริ่มใช้ในปีนี้ไปแล้ว ยิ่งทำให้ตลาดส่วนใหญ่ เบนเข็มความต้องการไปที่การเช่าเพื่ออยู่กันเสียมากกว่า จึงเป็นโอกาสให้กับนักลงทุน ที่มีความพร้อมที่จะลงทุนระยะยาว สามารถปล่อยเช่าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
เงินบาทแข็ง ดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติ
แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยจะดูไม่คึกคัก แต่กลับกันกับชาวต่างชาติ ที่มองว่าอสังหาริมทรัพย์ในไทยยังคงมีความต้องการและน่าสนใจสูงมาก เพราะด้วยในขณะนี้ค่าเงินบาทกำลังแข็งค่า จึงเป็นแรงจูงใจในการดึงกระแสการลงทุนจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรเลือกลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นความต้องการของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะถ้ากลุ่มเป้าหมายคือชาวจีน ควรจะลงทุนในทำเลย่านรัชดา – พระราม 9 เพราะใกล้กับสถานทูตจีน ร่วมไปถึงย่านเจริญกรุง ที่ในขณะนี้ก็ถือว่าเป็นย่านที่ชาวจีนให้ความสนใจไม่แพ้กัน หรือจะเป็น ชิดลม ราชดำริ เพลินจิต ที่เป็นทำเลยอดนิยมของชาวต่างชาติฝั่งยุโรปและอเมริกา
กองทุนอสังหา ดูจะเป็นทางเลือกที่เจ็บตัวน้อยที่สุด
เมื่อทั้งเศรษฐกิจภายในประเทศ และเศรษฐกิจโลกอยู่ในสภาวะรัดเข็มขัด การลงทุนขนาดใหญ่อาจจะไม่ใช่ตัวเลือก กองทุนอสังหาฯ จึงเป็นตัวเลือกที่มีความเสี่ยงและเจ็บตัวน้อยที่สุด และการันตีการได้รับเงินปันผลจากหน่วยลงทุนของเรา นั่นก็คือลงทุนน้อยก็ได้น้อย ลงทุนมากก็ได้มาก และกองทุนเหล่านี่มักอยู่ในมือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ และนำไปลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น สนามบิน อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ศูนย์แสดงสินค้า คลังเก็บสินค้า โรงแรม ศูนย์ประชุม เป็นต้น
ปี2020 ทวีปยุโรป กำลังเสี่ยง เกิดฟองสบู่อสังหาฯแตกจริงหรือ?
