วางแผนซื้อบ้าน ไร้ปัญหา ซื้อง่าย ผ่อนสบาย อยู่ได้ชิวๆ

ในสังคมปัญจุบันนี้การที่เราจะมีบ้านสักหลังนั้นไม่ใช่เรื่อง่ายเลย เพราะการซื้อบ้านสักหลังมักจะเป็นปัญหาและภาระที่ใหญ่หลวงมาก โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้มีเงินก้อนใหญ่หรือไม่มีเงินเก็บ และจำเป็นที่จะต้องเก็บเงินเป็นเวลายาวนานนับปี หรือต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อใช้ในการซื้อบ้านสักหลัง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก็ต้องรับภาระผ่อนยาวนานถึง 20-30 ปี ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายที่จะตามมาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นค่าตกแต่งใหนจะค่าประกันที่ผูกมากับสัญญาการกู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัย ดังนั้นการที่เราจะมีบ้านสักหลังจะต้องคิดให้รอบครอบและคำนึงถึงความพร้อมและจะต้องมีการวางแผนให้ดีก่อนที่จะซื้อบ้านสักหลัง ก่อนที่เราจะซื้อบ้านสิ่งที่เราต้องมาดูถึงความพร้อมนั้น วันนี้เรามีประเด็นสำคัญๆ ที่จะเป็นแนวทางวางแผนก่อนเพื่อที่เราจะได้มีบ้านแบบไร้ปัญหา ซื้อง่าย ผ่อนสบาย แบบชิวๆ

ใช้เงินดาวน์มาก ผ่อนให้น้อย

คนยุคสมัยนี้ส่วนใหญ่มักจะต้องอาศัยการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านได้เร็วขึ้น แต่ก็ต้องรับภาระดอกเบี้ยยาวนาน เป็นเวลา 20-30 ปี และเดี๋ยวนี้ยังมีการให้สินเชื่อเกือบเต็มวงเงิน จึงทำให้ใช้เงินดาวน์น้อย หรือแทบจะไม่ต้องใช้เงินดาวน์เลย แต่ภาระการผ่อนและดอกเบี้ยจะไปตกหนักและต้องจ่ายดอกเบี้ยที่จะสูงมาก ดังนั้นในทางที่ดีที่สุดเราควรที่จะเตรียมเงินสำหรับการดาวน์บ้านไว้ให้มากที่สุด ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรต่ำกว่า 20-25% ของราคาบ้านเพราะการที่เราเตรียมเงินดาวน์ไว้มากเท่าไรก็จะทำให้ดอกเบี้ยน้อยลงและภาระการผ่อนบ้านที่สั้นตามลงไปด้วย สาเหตุนี้เราจึงอยากให้หาเงินดาวน์ไว้ให้มากๆ เพื่อที่จะได้ผ่อนน้อยๆ

รู้งบประมาณตั้งแต่ซื้อถึงการเข้าอยู่อาศัย

การที่เราจะมีบ้านนั้นปัจจัยและองค์ประกอบที่มักจะมากับบ้านนั้นมากมายจิปาถะไม่ใช่แค่งบประมาณในการซื้อบ้านหรือดอกเบี้ยในกรณีที่กู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัย แต่เรายังจะต้องรู้งบประมาณค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัย เช่น ค่าตกแต่ง ค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าสาธารณูปโภคส่วนกลาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าดูแลซ่อมแซมบ้าน ค่าดูแลสวน ค่าดำนินการโอน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่จะตามมาหลังจากที่มีบ้าน นั้นคือสิ่งที่เราจะต้องคำนึงถึงเพราะถือว่าเป็นองค์ประกอบของบ้านเลยที่เดียว

มั่นใจในรายได้ที่ได้รับในระยะยาวที่มั่นคง

รายได้ของแต่ละเดือนที่เราจะได้รับจะต้องมีความแน่นอนไม่ผันผวนง่ายหรือไม่คงที่ หรือมีสิทธิ์ที่จะมีรายได้ตกลงไปจากที่เป็นอยู่ เช่น ความไม่แน่นอนของรายได้ของบริษัทที่ทำงานอยู่ ความไม่มั่นคงในตำแหน่งงาน และความไม่แน่นอนของการเปลี่ยนงานบ่อย รายจ่ายที่อาจเพิ่มขึ้นจากการมีบุตรเพิ่ม ฯลฯ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากถ้าไม่มั่นใจ ก็ควรเปลี่ยนแผน หรือคิดหาแนวทางใหม่ดูที่ความมฃพร้อมและมั่นคงของรายได้ให้คงที่ หรือลดงบประมาณในการซื้อบ้านให้เล็กลงตามความเป็นไปได้และตามความสามารถในการซื้อของเราเพื่อที่จะได้ไม่เป็นปัญหาในระยะยาว

หาคนซื้อร่วมหรือผู้กู้ร่วม

เนื่องจากภาระเรื่องบ้านเป็นภาระใหญ่และยาวนาน ดังนั้น การที่เราจะร่วมกันซื้อบ้านหรือร่วมกันเป็นผู้กู้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เช่นซื้อกับพี่น้อง กับคนรัก แต่การที่เรารวมกันซื้อบ้านในกรณีแบบนี้นั้นเราจะต้องมั่นใจในรายรับและความรับผิดชอบร่วมกันกับผู้ที่ซื้อร่วมหรือผู้กู้ร่วมว่ามีความมั่นคงในระยะยาว ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ขัดใจ หรือเลิกรากันไปในอนาคต เพราะเมื่อถ้าเกิดปัญหาเหล่านี้ก็จะทำให้การซื้อบ้านนับว่าเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียว

รู้ทันสถานการณ์

เพราะเดี๋ยวนี้มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เช่น มาตรฐานการปล่อยกู้สำหรับบ้านหลังแรก ดอกเบี้ย MLR ของธนาคารที่ปรับตัวตลอดเวลา แนวโน้มของตลาดการซื้อขายบ้านในทำเลต่างๆ ฯลฯ เพื่อประกอบการตัดสินใจไม่ให้ผิดพลาดเราควรที่จะศึกษาถึงข้อมูลเหล่านี้ให้ละเอียดว่าการปล่อยเงินกู้ของธนาคารเป็นไปในรูปแบบใด ดอกเบี้ยอยู่ในอัตราร้อยละกี่บาม ใช้เวลาในการผ่อนกี่ปี และทำเลที่ตั้งมีความสะดวกเหมาะสมหรือจะความสะดวกสะบายในอนาคตหรือไม่ สิ่งเหล่านี้เราต้องไตร่ตรองให้ดีก่อนตัดสินใจจะซื้อบ้านสักหลัง

การวางแผนซื้อบ้านให้ไร้ปัญหาซื้อง่ายผ่อนสบายนั้น สิ่งที่กล่าวไปนั้นคือปัจจัยหลักๆ ที่สามารถเป็นแนวทางได้สำหรับคนที่จะมีบ้านสักหลัง เมื่อเราคิดวิเคราะห์ให้รอบครอบการที่จะมีบ้านนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่มากมาย แต่เราต้องคิดอย่างรอบครอบเพื่อการมีบ้านแบบชิวๆ