คอลลิเออร์ส ประเทศไทย รายงาน ตลาดบ้าน และ คอนโด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ณ สิ้นปี 2561 พบว่ามีอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมดประมาณ 451,475 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 3.471 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นบ้านจัดสรรทั้งหมดประมาณ 177,531 ยูนิต มูลค่าประมาณ 1.107 ล้านล้านบาท และคอนโดมิเนียมทั้งหมดประมาณ 273,944 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 2.363 ล้านล้านบาท
ตลาดบ้าน – คอนโด สต๊อกเหลือกว่า8แสนล้าน
พบว่ากรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีหน่วยสะสมที่อยู่ระหว่างการขายมากที่สุด 58% หรือประมาณ 259,570 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 2.639 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมประมาณ 198,460 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมทั้งหมดประมาณ 2.218 ล้านบาท และบ้านจัดสรรทั้งหมดที่ประมาณ 61,110 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 421,296 ล้านบาท
ถึงแม้ว่าเป็นพื้นที่มีบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายมากที่สุด แต่กรุงเทพมหานคร ก็เป็นพื้นที่มีีอัตราการขายที่สูงที่สุดเช่นเดียวกัน โดยในส่วนของคอนโดมิเนียมสามารถขายได้แล้ว 78% หรือประมาณ 154,925 ยูนิต จากอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 198,460 ยูนิต บ้านจัดสรร สามารถขายได้แล้วประมาณ 65% หรือประมาณ 39,916 ยูนิต จากอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 61,110 ยูนิตผู้ประกอบการพากันเร่งระบายสต๊อกคงค้างตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาถึงไตรมาส 1 ปีนี้ เนื่องจาก หากไม่สามารถระบายออกไปได้ก่อนที่มีการปรับอัตรา LTV ในวันที่ 1 เมษายน 2562 สต๊อกเหล่านี้ที่เหลือมูลค่ารวมอีกกว่า 823,944 ล้านบาทจะสามารถดูดซับออกไปค่อนข้างยาก และอาจจะมีผลต่อผลประกอบการรวมในปีนี้ ที่อาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย