เมื่อจะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่เราอุตส่าห์เก็บหอมรอบริบมา ก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการให้เป็นบ้านแสนสุขแบบที่ฝันไว้…แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งฝันของคุณก็พังทลายลง…..ด้วยเรื่องที่คุณเองก็อาจจะมองข้ามและไม่เคยคิดล่วงหน้ามาก่อน นั่นก็คือ “เพื่อนบ้าน” และนี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ของหลายครอบครัวที่ทำให้การเข้าอยู่ในบ้านใหม่ไม่สงบสุขอย่างที่คิด ดังนั้นวันนี้ Home Idea by Dot Property ขอพาคุณๆทั้งหลายไปทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านแย่ ๆ 4 ประเภทกันค่ะ
1. เพื่อนบ้านช่างสอดรู้สอดเห็น
กลุ่มคนประเภทนี้มักมีอาการหิวเผือกตลอดเวลา คุณจะรู้สึกว่ามีพลังงานบางอย่างคอยวนเวียน ด้อมๆมองๆอยู่ ตลอดเวลา หรือในบางรายอาจถึงขั้นตีเนียนมานั่งเล่นพูดคุยในบ้านคุณโดยไม่ได้รับเชิญ ซึ่งอาจทำให้คุณหงุดหงิดได้ในกรณีที่คุณต้องการความสงบ
วิธีการรับมือ : ลองพูดคุย ทำความรู้จักกับเขาดูสักครั้งก็ไม่เสียหายอะไร เพื่อดูท่าทีว่าเพื่อนบ้านคนนี้เป็นมิตรแค่ไหนเพราะบางทีเขาอาจจะแค่อยากทำความรู้จักกับครอบครัวคุณก็เท่านั้นเอง แต่ถ้าในกรณีที่เกินเยียวยา…จะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินบ้าง เวลาที่คุณเพื่อนบ้านคนนี้มากดกริ่งเรียกก็ได้นะ
2. เพื่อนบ้านสุดเนี้ยบ
คนประเภทนี้มักจะระเบียบจัด ทุกอย่างต้องเป๊ะ จนบางทีอาจจะเกินเลยไปถึงขอบเขตของบ้าน วันดีคืนดีเขาหรือเธออาจจะมาโวยวายอยู่หน้าบ้านคุณว่าต้นไม้บ้านคุณนั้นแผ่กิ่งก้านไปรุกล้ำพื้นที่บ้านเขา แม้ว่านั่นจะเป็นความยาวไม่กี่เซนติเมตรก็ตาม
วิธีการรับมือ : หมั่นตรวจสอบความเรียบร้อยของบ้านคุณตลอดเวลา ว่ามีส่วนใดของบ้านสร้างความลำบากอะไรแก่คุณเพื่อนบ้านผู้นี้หรือไม่ แต่ถ้าหากเคลียร์ไม่จบล่ะก็..แนะนำให้ไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อรังวัดขอบเขตให้เห็นกันไปเลย
3. เพื่อนบ้านไร้ระเบียบ
เพื่อนบ้านประเภทนี้จะไม่ค่อยชอบดูแลบ้าน ซึ่งบางทีคุณอาจจะพบว่ามีขยะหรือสารพัดของเก่าอันหาประโยชน์มิได้กองพะเนินเป็นภูเขาที่บ้านของเธอหรือเขา แต่จะไม่เป็นประเด็นเลย หากขยะที่ปลิวเกลื่อนบ้านไม่ลอยมาตกที่บ้านของคุณ !!
วิธีการรับมือ : แนะนำให้ลองเจรจาด้วยสันติวิธีดูก่อน เพราะเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณโกรธ แต่ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี แจ้งนิติบุคคลส่วนกลางของหมู่บ้านมาเคลียร์ดีกว่า
4. เพื่อนบ้านพลังเสียง 200 เดซิเบล
ประเภทนี้มักเป็นมนุษย์ค้างคาว ชอบเปิดเพลงเสียงดังหรือทะเลาะตบตีกันประจำในยามวิกาล ซึ่งถือเป็นการรบกวนการพักผ่อนของคุณเป็นอย่างมาก
วิธีการรับมือ : ถ้านานๆครั้งก็ให้อภัยเถอะค่ะ แต่ถ้าบ่อยๆล่ะก็อาจจะลองเจรจาดูก่อน แต่ถ้าไม่เวิร์ค แนะนำให้ไปแจ้งส่วนกลางหมู่บ้านหรือเรียกพี่ตำรวจมาเตือนหน่อยดีกว่าค่ะ
ที่มา : ideas.thenest