DotProperty.co.th

สรุป 5 เทรนด์ที่พักอาศัยจาก CBRE อะไรบ้างที่คุณควรรู้

เชื่อว่าหลายคนคงคาดหวังให้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 มาอย่างต่อเนื่องหลายปีนี้มีแนวโน้มจะดีขึ้นภายในปีนี้โดยเฉพาะกับตลาดที่พักอาศัยที่มีการชะลอติดต่อกันมาอย่างยาวนาน ปี 2565 จึงเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายเพราะตลาดเริ่มมีการปรับตัวกันมากขึ้นแล้ว เรามาดูเทรนด์อสังหาฯ ที่ CBRE ได้คาดการณ์กันไว้ โดยที่ดอทได้สรุปมาให้เป็น 5 ประการดังนี้

อัตราการขายคอนโดมิเนียมยังคงชะลอตัว

ปีที่แล้วเป็นปีที่เรียกว่าตลาดที่พักอาศัยแนวดิ่งนี้ค่อนข้างเงียบซบเซาอย่างมากทีเดียวการเปิดตัวใหม่ลดลงจากเมื่อสองปีก่อนอย่างชัดเจนทีเดียว เพราะด้วยการปรับตัวให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น และยังต้องอยู่ในที่พักอาศัยกันมากกว่าที่เคยเนื่องจากโรคระบาด ทำให้คอนโดที่ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์รูปแบบชีวิตแบบเดิมไม่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ได้

แต่ถึงอย่างนั้นตลาดคอนโดระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ก็ยังคงมาแรงเพราะตอบโจทย์นักลงทุนได้อยู่โดยเมื่อครึ่งแรกของปีที่แล้วมียอดจองเฉลี่ยสูงสุดถึง 73.6% เลยทีเดียว สำหรับในปีนี้ที่ตลาดคอนโดอาจจะยังไม่คึกคักเท่าใดนักอาจจะต้องจับตามองถึงตลาดคอนโดลักซ์ชัวรี่ไปด้วยว่าจะเป็นอย่างไร

ที่พักอาศัยแนวราบยังคงมาแรง

หลังจากที่ต้องมีการทำงานที่บ้าน เรียนที่บ้านทำให้ที่พักอาศัยแนวราบมาแรงอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถตอบโจทย์เรื่องการใช้พื้นที่ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ให้อิสระได้มากกว่าการพักบนที่พักอาศัยแนวดิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความนิยมของผู้ซื้อที่อยู่เองซึ่งต้องการย้ายไปสู่ที่พักอาศัยที่มีความหนาแน่นต่ำกว่า มีพื้นที่ใหญ่ขึ้น สามารถใช้งานพื้นที่ได้หลากหลายมากกว่า

โดยในปี 2565 นี้ ผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองจะหันมาสนใจโครงการแนวราบกันอย่างมากมาย ส่งผลให้ผู้พัฒนาโครงการบางรายอาจมีบ้านพร้อมขายไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ซื้อก็เป็นได้ โดยการพัฒนาโครงการใหม่อาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดต่อไป

ผู้ซื้อเพื่อเก็งกำไรหายไปจากตลาด

ในปี 2565 นี้ ผู้ซื้อเพื่อเก็บกำไรจะต้องเริ่มชะลอตัวเพื่อดูตลาดกันมากขึ้นเพราะถึงแม้ว่าจะอยู่กับความเปลี่ยนแปลงที่มาจากโควิด-19 กันมาหลายปีแต่ในปัจจุบันโจทย์ของที่พักอาศัยยังไม่นิ่ง ตลาดยังคงมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้อีก ทำให้การลงทุนด้านที่พักอาศัยมีความเสี่ยงตามไปด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นความเสี่ยงของการเกิดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่และการตอบสนองของวัคซีนต่อเชื้อไวรัสยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนอย่างมาก เมื่อมีความไม่แน่นอนมากมายเกิดขึ้นนักลงทุนจึงต้องชะลอตัวเพื่อลดความเสี่ยงลงก่อนเพื่อรอดูว่าตลาดจะปรับตัวไปทิศทางใด

ตลาดที่มีฐานลูกค้าแข็งแกร่งยังคงไปต่อได้

ตลาดที่พักอาศัยที่มีฐานลูกค้าแข็งแกร่งก็คือเหล่าโครงการที่พักอาศัยใกล้มหาวิทยาลัยและโครงการที่มีเครือโรงแรมบริหาร เพราะความต้องการส่วนใหญ่ของตลาดนี้จะยังคงเหมือนเดิมจึงยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในปี 2565 นี้ต่อไป

ผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจะมีความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้น

ความต้องการที่ซับซ้อนของผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ที่ทำให้บ้านต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากกว่าการพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องความสามารถในการซื้อที่ทำให้ผู้ซื้อพิจารณาการซื้ออย่างถี่ถ้วนและมองหาข้อเสนอที่ดีที่สุดในการซื้อบ้าน

ขณะที่พฤติกรรมการซื้อที่พักอาศัยกำลังมีการปรับเปลี่ยนนี้ทางด้านผู้พัฒนาโครงการเองก็จะมีการพิจารณาคิดเรื่องการเปิดตัวโครงการใหม่โดยมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการอย่างแท้จริงของผู้อยู่อาศัยหรือผู้ซื้อในประเทศกันมากขึ้น

แม้จะมีการคาดการณ์เกี่ยวกับตลาดที่พักอาศัยในปีนี้ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้าง แต่เราก็ยังคงต้องจับตามองดูความเปลี่ยนแปลงที่อาจกลายเป็นตัวแปรทำให้ตลาดหรือผู้ซื้อเปลี่ยนพฤติกรรมกันไปอีกก็เป็นได้

ที่มา https://www.thansettakij.com/property/511933