สวัสดีค่ะวันนี้กับมาพบกันอีกครั้งนะค่ะกับบทความ สร้างบ้านสวย โดยเจ้าของเรื่องราวดีๆครั้งนี้เป็นเรื่องราวของคุณ ลายเส้น สีน้ำ โดยได้ทำการสร้างบ้านด้วยเหตุผลที่ว่า ตั้งแต่เด็กไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่งต้องอาศัยอยู่กับญาติพอโตขึ้นจึงทำการสานฝันของตัวเองจนเสร็จเป็นบ้านหลังนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลยค่ะ
รีวิว สร้างบ้านสวย สีขาวหลังเล็ก TreeHome
ติดค้างการทำรีวิวบ้านหลังนี้ให้แก่สมาชิกบางท่านที่รอชม ตอนแรกว่าเคลียงานเสร็จหมดจะมาทำรีวิว ดูท่าแล้วน่าจะไม่เสร็จง่ายๆ วันนี้พักจากงานนิดนึงเลยมาทำรีวิวให้เสร็จดีกว่า และรีวิวนี้เป็นรีวิวแรกในพันทิพด้วยครับ และคิดว่าอาจจะเป็นรีวิวสุดท้ายด้วยเลย(เพราะคงไม่ได้สร้างบ้านหลายๆหลัง)
เกริ่นนำที่มาและความสำคัญของบ้านหลังนี้ต่อผมก่อนนะครับ
เนื่องด้วยตัวผมเองนั้น ตั้งแต่เด็กไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่งนัก เพราะต้องอาศัยกับญาติมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อโตขึ้นผมฝันที่จะมีบ้านของตัวเอง ที่สามารถเก็บของๆเราเอง เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราเอง ที่ซึ่งเราสามารถตกแต่งแบบที่เราชอบ(เช่าเขาอยู่จะแต่งบ้านก็ไม่ได้) ตัวผมเองร่ำเรียนทางด้านสถาปัตกรรมมา ก็ฝันว่าอยากมีบ้านที่อยู่แล้วเรามีความสุข อยากได้บ้านที่ตอบสนองความเป็นตัวตนของเรา และรอคอยว่าบ้านในฝันของเราสุดท้ายหน้าตาจะเป็นเช่นไรหนอ
แต่ด้วยพ่อแม่ไม่มีทรัพย์สมบัติไว้ให้ ก็ต้องสร้างขึ้นมาเอง (แค่ได้รับการศึกษาเพื่อเป็นวิชาชีพเลี้ยงตัวเองได้ก็ซาบซึ้งมากแล้วครับ) ก็ทำงานเก็บเงินมา ประกวดแบบได้เงินรางวัลเป็นทุนช่วยอีกก้อนนึง มีหนี้อีกนิดจากการซื้อของทำบ้านด้วยบัตรเครดิตอีกหน่อย แต่เพื่อได้บ้านที่เราจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็ยอมๆไป ไม่เคยคิดว่าความฝันจะเป็นจริงในวัย 31 ปีขอบคุณสวรรค์ที่อย่างน้อยให้ผมได้ใช้เวลากับบ้านของผมได้นานๆ
บ้านหลังนี้สร้างที่บ้านเกิดจังหวัดลำปาง ใช้เงินไปประมาณ 3 แสนบาทในการก่อสร้างทั้งหมด รวมงานรั้ว และงานสวน และใช้เงินตกแต่งกับงานแอร์ ม่าน ปั๊มน้ำ ก็เพิ่มไปอีก 1 แสนบาท แต่ได้บ้านหลังกะทัดรัดมาหลังนึงกับวัสดุที่ผมเองดันมีวิญญาณนักออกแบบเข้าสิงเลยเลือกของราคากลางๆไม่ถูกแต่ไม่แพงมากมาสร้าง พร้อมกับข้อจำกัดในหลายๆเรื่องทั้งจากงบประมาณที่มี วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยจะมีแบบที่ถูกใจเท่าไหร่
ที่มาของบ้านต้นไม้ (Treehome) นั้นมาจากตอนแรกผมชอบที่ๆนึงใกล้ๆบ้านยาย ซึ่งมีต้นไม้คุลมเต็มพื้นที่เลยอยากจะสร้างบ้านที่ใต้ต้นไม้ใหญ่นั้น แต่เจ้าของที่ดันไม่ขาย(ถ้าขายคงเกินงบไปอีก) เลยกลับมาสร้างในที่บ้านพี่สาวดีกว่า ประหยัดค่าที่ด้วย แต่ก็เอาพื้นที่พอสร้างบ้านหลังเล็กๆได้ก็พอ
จากรูปจะเห็นเถียงนาอยู่ไกลๆ นั้นละครับที่ซึ่งผมหมายตาไว้
งบตั้งต้นไม่เกิน 2 แสนบาท
บ้านเวอร์ชั่นแรกๆ ขนาดใหญ่มาก ราคาเกินงบไปพอสมควร คือผู้รับเหมาตีราคามาเกือบ 3 แสน แต่ผมรู้ว่าราคายังขาดรายละเอียดอีกเยอะเลย ถ้ารวมทั้งหมด น่าจะทะลุ 4-5 แสนแน่ๆ เลยปรับแบบบ้านให้ขนาดเล็กลงอีก 2 เวอร์ชั่น แต่ก็ยังเกินงบ 2 แสนอยุ่ดี สุดท้ายคิดการจัดพื้นที่ใช้สอยในบ้านให้เล็กที่สุด ด้วยความที่ผมเคยอยู่แต่ห้องเล็กๆ หยิบจับอะไรใกล้ตัว ห้องที่ space ไม่ต้องใหญ่นัก ผมเลยชอบบ้านที่ใช้พื้นที่เล็กๆแต่ลงตัวมากๆ
เลยมาสรุปที่แบบบ้านขนาด 3.50×7.00 เมตร บ้านทั้งหลังของผมขนาดเล็กกว่าคอนโดใครหลายๆคน บางทีอาจจะเล็กกว่าห้องนอนบ้านบางหลังด้วยซ้ำ หะหะ
อาศัยว่าเรียนมาก็ตัดสิ่งไม่จำเป็นออก คือครัวกับเตาแก๊ส ผมไม่เอาเลย เพราะผมทำกับข้าวจริงจังไม่เป็นและพี่สาวผมทำกับข้าวเหนือได้ลำแต๊ๆ(อร่อยจริงๆ) เลยไม่จำเป็นต้องมีเตา เอาแค่ sink ล้างจานเล็กๆก็พอแล้ว
พื้นที่ส่วนกลางนั้นก็ต้องการพื้นที่ทำงาน ดูทีวี ทานอาหาร และอีกส่วนนึงคือพื้นที่นอนพักผ่อนเล็กๆ(เล็กจริงๆ) เท่านี้ก็พอแล้วสำหรับการอยุ่คนเดียว ถ้าอนาคตจะมีศรีภรรยาก็อบอุ่นดี เพราะอยู่ตรงไหนในบ้านก็มองเห็นกันตลอด คงไม่เหงาแน่ๆเลย ^^
เกริ่นซะยาวเลย มาดูการสร้างบ้านหลังนี้กันดีกว่าครับ
ผมเรียนทางด้านสถาปัตยกรรมภายใน มาก็จริงแต่ก็ออกแบบบ้านไม่เก่งนัก อาศัยรูปทรงไม่ยากมาก เน้นการใช้พื้นที่ภายในบ้านมากกว่าตัวบ้านเลยออกมาเป็นทรงกล่องๆ ให้ความรู้สึก modern หน่อย
หลังคาตอนแรกก็อยากได้เป็น slab (หลังคาแบบเป็นดาดฟ้า) แต่กลัวเรื่องรั่วซึมในระยะยาวและการแก้ปัญหาคงยากน่าดู หลังแรกขอแบบไม่เสี่ยงแล้วกันหลังคาเลยเป็นแบบเพิงหมาแหงนแทน
อยากได้กระจกรอบบ้านก็จะรับแดดมาเพิ่มความร้อนอีก เลยเอาช่องกระจกให้มากที่สุดในด้านตะวันออกแล้วกันแดดตอนเช้าไม่ร้อนเท่าแดดตอนบ่าย เพราะขนาดของพื้นที่ไม่เอื้อให้วางตามแนวแกนตะวันออก-ตะวันตกเท่าไหร่ เลยวางตามแนวแกน เหนือ-ใต้ แทน ซึ่งก็โอเคครับไม่ร้อนในตอนเข้า แต่แดดแรงเหมือนกันดีว่าม่านกรองได้ ตอนบ่ายแดดร่มสบาย นั่งเล่นหน้าบ้านได้ชิลๆเลย
การสร้างบ้านนั้น ขั้นตอนแรกต้องดูสภาพที่ดินก่อนครับ ทิศทาง แดด ลม เพื่อจัดวางพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสม ต่อมาก็จัดวางพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสมกับวิถีชีวิต และการใช้งาน ถึงตรงนี้ก็จะได้แปลนบ้านออกมาแล้ว
สำหรับท่านทั่วๆไปควรจะมีแบบรูปด้าน รูปตัดของบ้านด้วยครับ รวมถึงรายละเอียดประกอบแบบเพื่อใช้ก่อสร้างครับ และความโชคดีว่าสร้างนอกเขตเศบาลเลยไม่ต้องยื่นขออนุญาตให้ยุ่งยากนัก เลยเน้นแบบลูกทุ่งเลยมี 3d อยู่แผ่นนึงและแปลนอีกแผ่นนึงผมก็จัดหนักเลยครับ อาศัยว่าคุมงานเอง แต่เอาเข้าจริงก็ต้องกลับมาเคลียงานที่กรุงเทพบ่อยๆเลยขาดตอนไปบ้าง ช่างก็ทำผิดไปบ้าง หยวนๆไปทำไงได้ต้องหาเงินมาทำบ้านด้วย
ให้ช่างแถวบ้านตีราคาค่าแรงมารวมทั้งหมดปาเข้าไป 8 หมื่นบาท ลมแทบจับ จะสร้างบ้านสองแสน ค่าแรงกินไป 40% งานนี้มีเหนื่อยแน่ๆ แววว่าจะเกินงบลอยมาแต่ไกล แต่ผมก็ไม่อยากจ้างช่างที่อื่นเพราะอยากให้เงินหมุนวียนในหมู่บ้านเกิด เลยต่อรองได้นิดนึงและรวมงานรั้วเพิ่มไป ซึ่งค่าแรงจะแบ่งคร่าวๆเป็น ค่าแรงงานโครงสร้าง งานหลังคา งานก่อฉาบ งานปูกระเบื้อง งานระบบไฟฟ้า งานสุขาภิบาล งานฝ้าเพดาน และงานรั้ว ผมคิดว่าในส่วนค่าแรงนี้ถ้าเพิ่มขนาดบ้านให้ยาวอีกช่วงเสานึงก็ไม่น่าจะแพงขึ้นเท่าไหร่
ช่างที่สร้างบ้านที่เป็นช่างฝีมือทางเหนือจะเรียก “สล่า” 2 คน และลูกมืออีก 2 คน รวมเป็น 4 คนนอกจากนี้จะเป็นช่างรับเหมาช่วง มีงานไฟฟ้า และงานฝ้าเพดาน งานอลูมิเนียม
ขั้นตอนแรก เริ่มลงมือสร้างเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2553 ก็วัดระยะเพื่อหาตำแน่งเสาที่ลงกับขนาดของที่ดิน และทำพิธีลงเสาเอก
Advertisement
เนื่องด้วยดินทางบ้านผมเป็นดินแข็งเลยไม่ต้องลงเสาเข็มลึกๆ แค่ทำฐานรากลึกลงไปเมตรนึงก็พอ(อันนี้ดูจากบ้านพี่สาวสร้างก่อน 10 ปีแล้ววิธีเดียวกันไม่มีปัญหาทรุดร้าว เลยคิดว่าน่าจะชัวร์) และแบบบ้านจะเป็นการยกพื้นมาเมตรนึงเลยต้องผูกเหล็ก-เทคานให้ได้ระดับที่จะยกพื้นด้วย
จากนั้นก็เทเสาตัวบ้านต่อไป ดีว่าเสาบ้านใช้เหล็กแบบ ไม่งั้นอาจจะขนาดไม่เท่ากันได้ เมื่อได้คานแล้วจึงเทพื้นต่อไป โดยให้ระดับห้องน้ำต่ำกว่าพื้นห้องทั่วไป และอย่าลืมวางตำแหน่งท่อส้วม ท่อน้ำดี และท่อน้ำทิ้ง
ขั้นตอนที่สอง สั่งเหล็กเพื่อมาทำโครงหลังคา สั่งกระเบื้องใช้ลอนคู่สีหมากสุก(สีเทาก็สวย แต่กลัวจะจืด) สั่งอิฐมอญเพื่อใช้ก่อผนัง งานไฟเข้ามาก่อนงานก่อ เพราะต้องสรุปอุปกรณ์เนื่องจากต้องวางท่อร้อยสายไฟระหว่างงานก่อไปพร้อมกัน ซึ่งช่วงนี้ช่างจะขึ้นโครงหลังคาและเริ่มมุงกระเบื้อง
นอกเรื่องนิดนึง เนื่องจากสถานที่สร้างบ้านอยู่นอกตัวเมืองไปราว 30 กม.ดังนั้นจึงสั่งซื้อกับร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่อยู่ห่างไปราว 20 กม.ซึ่งมีบริการส่งของด้วย แต่ข้อจำกัดคือไม่ค่อยมีให้เลือกเหมือนที่กรุงเทพมากนัก เลยหยวนๆไปอีกครั้งตามระเบียบ
ขั้นตอนที่สาม หลังจากมุงหลังคาเสร็จแล้ว ช่างก็เริ่มงานก่อฉาบต่อซึ่งก็ทำให้เห็น space ภายในบ้านกันบ้างแล้ว ช่างไฟก็จะมาเจาะผนังเพื่อวางบลอคไฟและท่อสายไฟ
แต่ยังไม่ร้อยสายไฟ จากนั้นก็วางเสาเพื่อรับระเบียงหน้าบ้านและห้องนอนต่อไป สั่งไม้จริงเพื่อปูระเบียงทั้งสองส่วนด้วย ระหว่างนี้ก็สั่งช่างอลูมิเนียมให้มาวัดขนาดหน้าต่างและประตู พร้อมเลือกวัสดุ โดยตกลงเอาเป็นอลูมิเนียมอบขาว(ลังเลระหว่างสีดำกับอบขาว) ราคาจะกลางๆระหว่างสีอลูมิเนียมทั่วไปกับสีดำ ตกลงราคากันที่สามหมื่นปลายๆ(บานสวิงจะแพงกว่าบานเลื่อน)
ภาพตัวบ้านภายนอกครับ เห็นถึงบรรยากาศช่วงหนาวๆของทางเหนือบ้างไหมครับ
ขั้นตอนที่สี่ งานฉาบจนแล้วเสร็จ พร้อมขัดมันบางผนัง งานระเบียงและขั้นบันไดทางเข้า ก่อบ่อปลา ขุดหลุมทำบ่อเกรอะ-บ่อซึม(ใช้อิฐก่อ ไม่ได้ใช้ถังแซก) ติดไม้ปิดนก เดินงานระบบสุขาภิบาลบางส่วน
ระหว่างนี้ก็ไปสั่งกระเบื้องปูพื้นบ้านและห้องน้ำ โดยตัวพื้นบ้านใช้แกรนิตโตนาโน เนื่องจากเคยมีน้ำท่วมใหญ่เมื่อหลายปีก่อนเลยเอาแบบกันเหนียวดีกว่า(ใจนึงก็อยากได้ไม้ลามิเนต) ค่าแกรนิตโตตก ตรม.ละ 400 กว่าบาท ส่วนกระเบื้องห้องน้ำใช้แบบ ตรม.ละ 100 กว่าบาทแต่เล่นสลับสีขาวและดำ(กระเบื้องควรจะเป็นแบบไม่ลื่น)
มีผนังกระจกเงาที่ใช้เป็นกระเบื้องโมเสกแก้วไล่สีแผ่นละเกือบ 300 บาทแต่ดีว่าใช้แค่ 6 แผ่น สรุปค่ากระเบื้องทั้งหมดตกอยู่เกือบ 14000- ส่วนชักโครกใช้ของ cotto อันละ 7000 กว่าบาท rain showert 7000 อ่างล้างหน้า+ก๊อกน้ำ สะดือ 6000 ลมแทบจับ
ขั้นตอนที่ห้า ทาสีรองพื้นและสีจริง 1 เที่ยว เป็นสีขาวควันบุหรี่ ภายในบ้านเป็นสีเทาดำ ส่วนผนังขัดมันผมใช้น้ำยาเคลือบแบบด้าน(ชอบส่วนตัว) ส่วนภายในบ้านก็ทำฝ้าเพดานโดยมีการเล่นระดับนิดนึงไม่ให้ดูเรียบไป ในห้องน้ำก็ใช้แบบกันชื้นพร้อมทำช่องเซอวิซ ฝ่าภายในบ้านปูด้วยฉนวนกันความร้อน ส่วนภายนอกบ้านใช้สมาร์ทบอร์ด
ส่วนช่างก่อสร้างระหว่างนี้ก็ไปทำรั้วภายนอกบ้าน โดยของเดิมผนังทำ texture ไว้จัดการแซะแล้วทำขัดมันซะ
สังเกตรั้วของเดิมจะเป็นรั้วเหล็กสีฟ้า น่าจะไม่เข้ากับบ้านจัดการเปลี่ยนให้ดู modern ขึ้นโดยการใช้ไม้มาทำรั้วแทน แต่มีข่าวดีว่าช่างเคยไปรื้อบ้านเก่าเหลือเศษบันไดที่ทำจากไม้สักมาหลายอัน เลยลองไปดูแล้วพบว่า สามารถนำมาตัดครึงและซอยแบ่งครึ่งอีกรอบจากไม้บันได 24 แผ่นก็ซอยได้เป็น 70 กว่าแผ่นเพียงพอต่อรั้วด้านหน้าบ้านทั้งหมด
ในราคาค่าไม้ 1000- กับค่าสีย้อมไม้อีกพันกว่าบาท อิอิ ผนังช่องนึงทุบออกเพื่อทำรั้วเข้าบ้านต่างหาก เผื่อไว้ในอนาคตจะแยกรั้วบ้าน โดยซื้อเหล็กมาเชื่อมวางสลับลายตามแบบทาสีน้ำมันสีดำใช้งบประมาณ 2000 บาท รั้วเราก็สวยอย่างที่เห็น
ตอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่หก ก่อผนังกั้นส่วนในห้องน้ำและปูกระเบื้องในห้องน้ำ รวมถึงพื้นแกรนิตโตด้านนอกด้วย จากนั้นก็ทาสีฝ้าเพดานพร้อมกับติดตั้งดวงโคมดาวน์ไลท์ เดินสายไฟและติดตั้ง ปลั๊กไฟ สวิตซ์ ระหว่างนี้ช่างอลูมิเนียมเข้ามาติดตั้งหน้าต่างบางส่วนแล้ว
ขั้นตอนสุดท้าย เป็นขั้นตอนเก็บงานทั้งหมด ก็คือทาสีภายนอกบ้านอีก 2 รอบสีที่ใช้ก็เป็นแบบเช็ดล้างได้กึ่งเงา ทาสีปิดนกด้วยสีเทาดำ ติดตั้งบานประตูห้องน้ำโดยเลือกเป็นบานประตูpvc ทนน้ำสบายไม่ผุ ส่วนประตูระเบียงห้องนอนเลือกบานลูกฟักเล็ก จะได้มีสีไม้ไว้ตัดกับผนังปูนขัดมัน สวยนักแล
ติดตั้งงานสุขภัณฑ์ในห้องน้ำและแพนทรี่ พร้อมกับเทสระบบน้ำและการรั่วซึม ด้านนอกสวนก็มาลงตามนัดกับค่าสวนอีก 7000 บาทบ้านเราก็มีสวนเขียวๆมาตัดกับบ้านสีขาวสะอาดตาแล้ว
มุมสวยๆ หน้าบ้านยามเช้าๆ
อะอะ หลายคนคงอยากเห็นสภาพบ้านเมื่อแล้วเสร็จกันแล้วใช่มั้ยละ งั้นไปชมกันต่อเลยจ้าาา คลิกกก
Dot Property เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ซื้อ-ขาย อย่างมืออาชีพ…
ท่านต้องการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่หรือไม่ ลงประกาศขายกับ Dot Property ฟรี!!! ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงประกาศง่าย ขายได้ไว
หรือหากท่านกำลังมองหา คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน เว็บไซต์ Dot Property มีให้ท่านเลือกมากกว่า 300,000 รายการ ได้ตรงตามความต้องการ ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย