มีข่าวแจ้งมาจาก ธนาคารอาคารสงเคราะห์ถึงกรณีที่ นายประสิทธิ์ สืบชนะ ประธานบอร์ดธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส.ได้ยื่นหนังสือลาออก เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลง่า เพื่อให้ทางกระทรวงการคลังสรรหาผู้ที่มีความเหมาะสมมาทำงานและสามารถทำตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.อย่างมีประสิทธิภาพ
จากที่ผ่านมานั้นภาพรวมจาการทำงานภายใต้การบริหารของ นายประสิทธิ์ สืบชนะ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ด้านผลประกอบการของธนาคารก็เป็นไปตามเป้าหมาย การปล่อยกู้ก็ทำตามนโยบายที่วางไว้ โดยในครึ่งปีแรกนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้กว่า 66,000 ล้านบาท จากเป้าหมายปล่อยสินเชื่อทั้งปีที่ 134,000 ล้านบาท ขณะที่กำไรครึ่งปีแรกอยู่ที่ 4,600 ล้านบาทจากเป้าหมายทั้งปีที่ 8,400 ล้านบาท เงินฝากคงค้างอยู่ที่ 646,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ 640,000 ล้านบาท ส่วนยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 45,000 ล้านบาทหรือคิดเป็นสัดส่วนที่ 6.2% ซึ่งในปี 2557 ธนาคารตั้งเป้าหมายลดยอดเอ็นพีแอลให้เหลือ 6% ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งในส่วนของนโยบายและการบริหารเพราะทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย
ในภาพรวมนั้นเพื่อเป็นการสานต่อนโยบายของ คสช.ที่ต้องการคืนความสุขให้กับประชาชน ธอส. พร้อมตอบสนองนโยบายด้านที่อยู่อาศัยของภาครัฐที่มีนโยบายเพื่อเป็นกลไกที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และจากผลประกอบการที่ผ่านมานั้น ทาง ธอส.ก็ได้ทำตามนโยบายอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องการลาออกของประธานบอร์ดนั้นไม่น่าจะมาจากปัญหาการปล่อยกู้ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา น่าจะมาจากความต้องการที่อยากให้คนที่เก่งและมีความสามารถมากกว่าเข้ามาทำงานและบริหารงานของ ธอส.เพื่อให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น และ สามารถทำงานได้สอดคล้องกับนโยบายของ คสช.ซึ่งต่อจากนี้ก็คงต้องดูว่าทางกระทรวงการคลังจะสรรหาบุคคลที่มีความสามารถท่านใดเข้ามาทำงานสานต่อตามนโยบาย และ ภายในครึ่งปีหลังนี้ทาง ธอส.เองก็มีนโยบายในโครงการสินเชื่ออีกหลายโครงการ
โดยนาง อังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ธนาคารได้เตรียมวงเงิน 5,000 ล้านบาท จัดทำมาตรการสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องกับ “โครงการสินเชื่อ ธอส. มีบ้าน มีสุข” เสนออัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษคงที่ 3.50% ต่อปี นาน 2 ปี แรก ปีที่ 3 จนถึงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ กรณีลูกค้าสวัสดิการ คิดอัตราดอกเบี้ย MRR -1.00% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ยMRR -0.50% ต่อปี ยกเว้นกรณีกู้ซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยMRR ธอส.เท่ากับ 6.975% ต่อปี) ไม่จำกัดวงเงินกู้ต่อราย ให้กู้เพื่อซื้อบ้าน/ห้องชุด ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือขอกู้ซื้ออุปกรณ์ฯ พร้อมขอกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อยื่นคำขอกู้เงินได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2557 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 กันยายน 2557 เท่านั้น
แม้ว่าทางประธานบร์อดจะลาออก ก็ไม่ส่งผลต่อการปล่อยกู้สินเชื่อบ้านของ ธอส. เพราะยังไงก็ต้องดำเนินงานต่อตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่หลายๆคนอาจคิดว่าการลาออกนั้นส่งผลมาจากปัญหาเรื่องของการปล่อยกู้ในวงเงินที่สูงในครึ่งปีแรก หรือ การทำงานภายใต้การบริหารของ คสช.ที่เข้ามามีบทบาทกับทางธนาคาร ซึ่งทั้งสองอย่างนั้นอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักในการลาออก เพราะที่ผ่านมานั้นประธานบร์อดได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และทำให้ทางธนาคารมีผลประกอบการที่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า บุคคลท่านไหนที่จะเข้ามาสานต่องานและบริหารนโยบายของทาง ธอส.ให้เป็นไปตามที่ คสช.วางไว้และเพื่อให้ประชาชนได้มีบ้านตามหลักการของทางธนาคาร
ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ PR@Thailand-Property.com