สวัสดีค่ะวันนี้เรากลับมาพบกันอีกเช่นเคย โดยวันนี้เรามีบทความมาเตือนใจ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ไว้สำหรับป้องกันตัวไว้ก่อนเกิดเหตุ โดยต้องขอบคุณ คุณ สมาชิกหมายเลข 4972797 ที่มาบอกเล่าเรื่องราวในครั้งนี้ โดยที่เจ้าตัวเป็น หนี้บ้าน หนี้บัตรเครดิต+บัตรกด ธนาคารเดียวกันกับบ้าน ยอด 2.95แสนกับ1.2แสน และตอนนี้ ก็ค้างค่าบ้าน4เดือน จนทำให้ตอนนี้ โดนปรับไปแล้วถึงวันละ 1,500 บาท โดยวันนี้เราจะมาดูกันดีกว่าค่ะว่า ถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบนี้เราจะแก้ปัญหาอย่างไรดี
เป็น หนี้บ้าน ตกงานค้างค่าบ้าน 4 เดือนโดนค่าปรับวันละ1500 BY สมาชิกหมายเลข 4972797
คือตัวเราเองตกงานกะทันหันเป็นเหตุให้การชำระหนี้หยุดชำระทุกอย่างรวมถึงค่าบ้านและบัตรเครดิตร บ้านราคา4.3ล. ผ่อนเดือนละ26700หยุดผ่อนตั้งแต่กันยายนเข้าเดือนนี้เดือนที่4ค่าปรับแสนกว่าบาท(พนักงานบอกค่าปรับวันละ1500)คิด15%/ปี มีใครเคยเจอแบบนี้บ้าง พอดีบ้านหลังนี้พ่อแม่อาศัยอยู่สิ้นปีพ่อพอจะมีเงินมาจ่ายยอดค้างเต็ม4เดือน แต่จ่ายค่าปรับไม่พอ ทางธนาคารบอกว่าถ้าจ่ายแค่ต้นเข้ามาก็จะเอาไปหักค่าปรับอยู่ดี ค่าปรับจะขอผ่อนจ่ายก็ไม่ได้เพราะเค้าบอกว่าถ้าจ่ายไม่เต็มทางธนาคารจะฟ้องเลย เพราะค่าบัตรก็ค้าง เลยขออีกวิธีว่างั้นขอจ่ายแค่เดือน9/10/11ก่อนได้มั้ยบวกกับค่าปรับเต็มจำนวนส่วนของวันที่30เดือนธันวาคม61นี้ขอจ่ายไม่เกินวันที่7มค.62เพราะพ่อคงหาไม่ทันแน่นอน เค้าก็บอกไม่ได้ งั้นแบงค์ก็ต้องดึงมาฟ้องอยู่ดีเราก็ถามแต่ทั้งๆที่เราเคลียค้างเก่าต้นพร้อมดอกให้เต็มจำนวนแล้วนะ ของใหม่ก็งวดใหม่แบงค์ก้อให้ไม่เกิน7วันปลอดค่าปรับ เค้าก็บอกว่าไม่ได้ถือว่าเราจ่ายช้าอยู่ดีผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้เพราะเราต้องจ่ายบ้านทุกวันที่30ของทุกเดือนถ้าติดวันหยุดก็เลื่อนขึ้นเลยจากนั้นเค้าบอกถือว่าผิดเงื่อนไข เค้าก็มีสิทธิ์ดึงมาฟ้องอยู่ดี ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นผลพ่วงของบัตรเครดิตที่เราหยุดจ่ายด้วยเงื่อนไขเลยหลายอย่าง สงสารพ่อที่ต้องไปหากู้เงินมาจ่ายค่าปรับ เพราะปกติเราเป็นคนจ่ายให้ตอนนี้ภาระมาตดที่พ่อหมดเลยบ้านหลังนี้ก็ใช้เป็นที่พักอาศัยแต่ค่าบัตรเราพ่อจ่ายไม่ไหวจริงๆก็ต้องเลือกรักษาหนี้เพื่อให้หนี้ไม่เสียมากกว่านี้ ขอคำแนะนำคนเคยเจอเคสแบบนี้หน่อยค่ะ เค้าให้เราวันสุดท้ายคือ25ธค.61นี้เท่านั้นเพราะจะเตรียมฟ้องยึดแล้ว
โดยสาเหตุ ปวดใจจังเจ็บปวดจากความผิดพลาดของตัวเอง จนครอบครัวต้องมาเดือดร้อน คือทำงานประจำเงินเดือนแตะ1แสน+ค่ะ แต่เราพลาดกดบัตรไปลงทุนพอโดนโกงไปก้อหมดหน้าตักเลยค่ะ ประจวบกับตกงานอีกตอนนี้ส่วนตัวไม่มีรายได้เลยค่ะหยุดการชำระหนี้ทุกทาง ยอดบัตรตามนี้
1.บัตรกดยอด 5.5แสน u
2.บัตรเครดิต+บัตรกดธนาคารที่สองยอด7หมื่นกับ7.5หมื่น ธ.สีฟ้า
3.บัตรเครดิต+บัตรกดธนาคารที่สามธนาคารเดียวกันกับบ้านค่ะยอด 2.95แสนกับ1.2แสน ธ.สีเขียว
4.บัตรกด4หมื่น สีม่วง
บ้านราคา4.3ล.ผ่อนมาได้3ปี ตอนนี้เหลือ4ล.ต้นๆค่ะ ในโครงการบ้านใหม่ขายกันแค่3.79ล.เรากู้บ้านมุมค่ะราคาเลยสูง ค่าบ้านที่อาศัยผ่อนเดือนละ26700ค่ะ สิ้นปีพ่อพอมีโบนัสเท่ากับเงินต้นที่ค้าง4เดือนพอดี แต่อาจจะไปยืมเพิ่มหลักแสนเพื่อมาเสียค่าปรับเพื่อรักษาบ้านไว้ค่ะ ในบ้านทำงานสองคนมีพ่อกับน้องชายรายได้ร่วมสองคน5หมื่นเองค่ะ
วิธีและแนวทางออกสำหรับปัญหานี้
จากสถานการณ์ เจ้าของเรื่อง มีหนี้บ้าน 4 ล้าน บาทโดนดอกเบี้ยวิ่งไปแล้วกว่า 2แสนบาท มีหนี้บัตร 1.2 ล้าน สถานะเจ้าของบทความ ตกงาน ทำให้เจ้าของเรื่องอยู่ในจุดที่แทบจะแก้อะไรไม่ได้ ทางออกเรื่องนี้ หากจะรักษาบ้านไว้ คงต้องทำใจตรงนี้ เพราะว่าถ้าจะเก็บบ้านหลังนี้ จะไม่เป็นผลที่ดี อาจจะแย่กว่าเดิมในอนาคตยิ่งถ้าจะให้คุณพ่อกู้มาจ่ายค่าบ้านจะยิ่ง เป็นหนี้มากกว่าเดิมและจะพาคุณพ่อมาเป็นหนี้เพิ่มอีกคน และต่อให้ดิ้นรน หาเงินกว่า 2 แสนมาเคลียร์ค่าบ้านได้แต่ก็ต้องเจอ ธนาคารอื่นมายึดบ้านอยู่ดีนั้นก็เพราะว่าคุณ เจ้าของเรื่องนั้นเป็นหนี้บัตรอยู่ เกือบ 1.2 ล้าน แค่หนี้ดอกเบี้ยจากบัตรก็โดนไปเกือบ 4 หมื่นบาทต่อเดือนแล้ว
ดังนั้นตอนนี้ควรติดต่อกับทางธนาคาร โดยเเจ้งธนาคารไปว่่าพักหนี้ทั้งหมด ขอจ่ายแค่ดอกเบี้ย เรตต่ำๆ จนกว่าเจ้าของเรื่องจะหางานใหม่ได้ และหากธนาคารไม่ยอมก็ให้ธนาคารยึดแล้วฟ้องมาแต่เราจะต้องแจ้งธนาคารก่อนอย่างเงียบและปล่อยไว้เฉยๆเด็ดขาดเพราะว่า ดอกเบี้ยจะวิ่งไม่หยุด ด้านบัตรอื่นๆก็เช่นกันยึดแล้วฟ้องมาแบบเร่งด่วน และอย่าให้คนในครอบครัวมากู้หนี้เพิ่มเพื่อมาใช้ให้เพราะยังไงก็ยากมากเพราะยอดนั้นเยอะเกินไปใช้ไม่หมดและจะเพิ่มหนี้ให้คนในครอบครัวอีก แต่ถ้าโชคดีถูกหวยเป็นล้านนั้นอาจจะช่วยได้ ตอนนี้เจ้าของเรื่องปล่อยเป็นบุคคลล้มละลายคนเดียวพอ จะโดนโดนฟ้องแพ่ง 10 ปี+ล้ม 3-5ปี ในช่วงที่เป็นบุคคลล้มละลาย ก็เก็บเงินสดหรือเก็บในชื่อคนในครอบครัวไปแทนยังไม่แนะนำให้ซื้อบ้านในเร็วๆนี้หาเช่าไปก่อนพออะไรๆดีขึ้น ค่อยมาเริ่มกันใหม่
ตอนนี้เราคงแนะนำได้เพียงเท่านี้ เพราะหนี้ที่เจ้าของเรื่องเป็นหนี้เยอะมากอาจจะเพราะเงินเดือนเจ้าของเรื่องนั้นเยอะด้วยจนอาจจะคิดไม่ถึงว่าอาจจะตกงาน ดังนั้นเราเป็นกำลังใจให้ค่ะ แนะนำว่าอาจจะลดเงินเดือนลง 20-30% เพื่อที่จะได้งานไวขึ้นและพอพ้นช่วงวิกฤติค่อยหางานใหม่ก็ได้ค่ะ ล้มแล้วลุกขึ้นได้เราจะแกร่งและแข็งแรงกว่าเดิมเป็นกำลังใจให้ค่ะ
สำหรับเพื่อนๆที่กำลังเจอกับปัญหานี้สามารถอ่านเพิ่มเติมต่อได้ที่ 8 วิธีแก้ปัญหา ภาวะฉุกเฉิน เมื่อผ่อนบ้าน คอนโด ต่อไม่ไหว
ขอขอบคุณเรื่องราวจากคุณ สมาชิกหมายเลข 4972797