เชียงใหม่หัวเมืองเหนือที่เป็นเมืองหลักของการลงทุนและการท่องเที่ยวในภาคเหนือ ที่มีศักยภาพรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาหลายปี ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนอสังหาฯท้องถิ่น หรือ นักลงทุนอสังหาฯรายใหญ่ แม้กระทั่งจังหวัดเชียงราย ที่ถือได้ว่ามีความน่าลงทุนเช่นเดียวกัน และ ทั้งสองจังหวัดยังถือเป็นหน้าด่านเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนเมื่อเปิดประชาคมอาเซียนในปี 2558 ด้วย
ทำให้การเติบโตในด้านอสังหาต่างๆเริ่มมีการแข่งขันและการลงทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะสองปีที่ผ่านมา มีการเปิดโครงการใหม่ ๆ มากมายรวมถึงธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องกัน เช่น รับเหมาก่อสร้าง ร้านวัสดุก่อสร้าง รับเหมาตกแต่ง รวมถึง ธุรกิจอื่นๆด้วยที่ได้รับอานิสงจากการขยายตัวก้าวกระโดดของเขียงใหม่ ซึ่งมีบริษัทอสังหาฯหลายใหญ่หลายรายเบนเข็มไปลงทุนกันมากชึ้นน แม้ว่าการขยายตัวจะดูเหมือนกรุงเทพแห่งที่สอง เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวมีอะไรๆคล้ายๆกรุงเทพ ทั้งรถติด สถานบันเทิง โครงการจัดสรรต่างๆ คอนโดมิเนียม โรงแรม ห้างสรรพสินค้า แต่ความน่าลงทุนก็ยังมีอยู่เพราะศักยภาพของทำเล และ กำลังซื้อในภูมิภาค และ ในจังหวัดนั้นน่าสนใจ
ซึ่งในเรื่องนี้ นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า เชียงใหม่นั้นมีศักยภาพที่ดี ยอดขายของโครงการที่ทางศุภาลัยลงทุนเปิดที่นั่นมียอดขายที่ดี ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือ คอนโดมิเนียม มีความน่าสนใจลูกค้าซื้อไว้เพื่อการลงทุนและที่สำคัญ ซื้อเป็นเงินสดมากกว่าในจังหวัดอื่นๆ ลูกค้าที่ใช้สินเชื่อก็ได้รับการอนุมัติ แทบไม่มีการปฎิเสธสินเชื่อ นั่นหมายถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคในเชียงใหม่และใกล้เคียงมีศักยภาพที่ดี สามารถซื้อหรือลงทุนในด้านที่อยู่อาศัยได้ หรือ แม้แต่ ธอส.ที่เป็นธนาคารหลักในเรื่องของสินเชื่อบ้าน ยังมีการสรุปตัวเลขของโครงการใน จ.เชียงใหม่ว่ามีทั้งหมดเท่าไหร่ ซึ่งตัวเลขนี้น่าสนใจไม่น้อยเพราะแสดงให้เห็นว่ามีนักลงทุนแห่ไปลงทุนทำอสังหาฯในเชียงใหม่มากขึ้นจากหลายๆปีที่ผ่านมาคือ มีที่อยู่อาศัยระหว่างการขายปี 2555 จำนวน 149 โครงการ กว่า 19,800 หน่วย มูลค่ารวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 105 โครงการ จำนวน 13,700 หน่วย มูลค่าโครงการกว่า 4 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยพื้นที่โครงการ 21-50 ไร่ ส่วนใหญ่มีไม่เกิน 150 หน่วยต่อโครงการ
โดยอ.สันทราย มีบ้านจัดสรรมากที่สุด รองลงมาเป็นอ.เมือง หางดง ดอยสะเก็ด และสันกำแพง ส่วนอาคารชุดมีทั้งหมด 44 โครงการ จำนวน 6,100 หน่วย ส่วนใหญ่มีไม่เกิน 200 หน่วยต่อโครงการทั้งนี้เป็นโครงการอาคารชุดที่เปิดขายในรอบ 2 ปีคือช่วงปี 2554-2555 มีโครงการที่ใกล้จะขายหมดแล้ว 10 โครงการ และมีโครงการที่เพิ่งเปิดขายใหม่ช่วงต.ค.2555-ก.พ.2556 อีก19 โครงการ หรือกว่า 3,000 หน่วย มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยระดับราคา68% อยู่ในช่วง 1-2 ล้านบาท รองลงมา 17% อยู่ในช่วงราคา 2-3 ล้านบาท และ10 % อยู่ในช่วงราคา 3-5 ล้านบาท
นี่แค่ตัวเลขจากการสำรวจของ ธ.อ.ส.เท่านั้นในอนาคตเชื่อว่าต้องมีตัวเลขจากสำนักวิจัยอื่นๆออกมาอีก ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการการันตีได้ถึงความน่าลงทุนของ จ.เชียงใหม่ ซึ่งหากสำรวจกันจริงๆแล้วจะพบว่า โครงการใหญ่ๆ จากกลุ่มอสังหาฯรายใหญ่ๆมีหลายโครงการทั่วทั้งจังหวัดเพื่อเตรียมพร้อมการเป็นประตูสู่ไทยเมื่อเปิด AEC
- ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ PR@Thailand-Property.com